10 วัดสวยที่สุดในเมืองไทย

1. วัดพระศรีอารย์ อุโบสถทองคำร้อยล้าน จังหวัดราชบุรี

ชมความงามวัด Unseen ที่แรกกันที่ ราชบุรี กับ อุโบสถทองคำร้อยล้าน วัดพระศรีอารย์  ความสวยงามของวัดแห่งนี้ อยู่ที่ตัวโบสถ์ ซึ่งเป็นพระอุโบสถตกแต่งด้วยงานปูนปั้นสีทองทั้งหลัง เหลืองอร่ามมองเห็นได้แต่ไกล  สวยงามด้วยศิลปะสมัยอยุธยาตอนปลาย ประดับด้วยลวดลายปูนปั้นจิตรกรรมเรื่องพระมหาชนก ทศชาติพระเจ้าห้าพระองค์  ตัวอุโบสถทองคำหลังนี้ใช้เวลาในการสร้างนานถึง 37 ปี  ด้วยแรงศรัทธาจากชาวบ้านล้วนๆ โดยมีมูลค่าในการจัดสร้างรวมกว่า  “ร้อยล้านบาท” ประกอบกับตัวโบสถ์สีทองทำให้ใครๆ พากันเรียกขานโบสถ์แห่งนี้ว่า  “อุโบสถทองคำร้อยล้าน”

ภายในโบสถ์เป็นที่ประดิษฐานของพระประธานปางมารวิชัย ศิลปะพม่า สร้างด้วยหยกขาวทั้งองค์ที่ได้อัญเชิญมาจากประเทศพม่า นอกจากนี้ยังมีพระพุทธรูปคู่วัด คือ พระศรีอารย์ เป็นพระพุทธรูปเก่าแก่พิมพ์พระศรีอารย์ซึ่งมีลักษณะเด่น คือ มีตาลปัตรอยู่ด้านหน้าองค์พระพุทธรูป จีวรจับกลีบคล้ายพระพุทธลักษณะสมัยคันธาระ เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่ทุกคนเคารพกราบไหว้ นอกจากนี้ที่ประตูโบสถ์ก็ทำมาจากไม้ยมหอมทั้งต้น แกะสลักลวดลายพุทธประวัติ ซึ่งมีความยิ่งใหญ่ และสวยงามมาก
ที่ตั้ง : หมู่ 6 บ้านเลือก ตำบล บ้านเลือก อำเภอ โพธาราม จังหวัด ราชบุรี 70120
การเดินทาง : ใช้ถนนเพชรเกษมประมาณ กม. ที่ 74 บริเวณบ้านเลือกมีทางแยกขวามือ (ถ้ามาจากราชบุรีทางแยกอยู่ซ้ายมือ เลยแยกบางแพไปประมาณ 500 เมตร)

 2. วัดถ้ำเขาวง วัดไม้เก่าแก่ท่ามกลางภูเขาหินปูน จังหวัดอุทัยธานี

วัดสวย แปลกตา ลำดับถัดไป ที่เราอยากให้คุณหาโอกาสไปเยี่ยมชมให้ได้ คือ “วัดถ้ำเขาวง” หากมองจากภาพถ่ายเชื่อว่าหลายคนคงคิดว่า เป็นรีสอร์ทสวยๆ ที่ไหนสักแห่ง แต่ความจริงแล้วที่นี่คือ “วัด” โดยวัดแห่งนี้เป็นอาคาร 4 ชั้น ออกแบบลักษณะเรือนไทย ยกใต้ถุน แบ่งสัดส่วนการใช้งานเป็น 4 ส่วน คือ ใต้ถุนเป็นลานเอนกประสงค์และร้านขายของ , ชั้นที่ 2 เป็นวิหาร , ชั้นที่ 3 เป็นกุฏิ และ ชั้นที่ 4 จะเป็นโบสถ์สร้างด้วยไม้สัก และไม้มะค่า มีความงดงามมาก บริเวณโดยรอบก็มีการจัดภูมิทัศน์ให้สวยงาม ร่มรื่น มีฉากหลังเป็นเขาหินปูนสูงตระหง่าน บริเวณด้านหน้ามีสวนไม้ดัด และบ่อน้ำซึ่งมีปลาอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ห่างจากตัววัดไปทางด้านหลังจะมีถ้ำอยู่ประมาณ 7-8 ถ้ำ บางถ้ำเป็นที่นั่งวิปัสสนาสำหรับพระภิกษุ บางถ้ำเป็นถ้ำค้างคาว และบางถ้ำก็มีหินงอกหินย้อยให้ชมกัน ระหว่างทางเดินที่จะขึ้นไปชมถ้ำ จะผ่านน้ำตกเทียมที่ดูเข้ากับบรรยากาศ เมื่อมาเยือนวัดแห่งนี้ จะรู้สึกปลอดโปร่ง ทั้งจากใจที่สงบจากการทำบุญ และจากกายที่ได้พักผ่อนเหมือนมาตากอากาศในรีสอร์ท

ที่ตั้ง : เชิงเขาวง ต.บ้านไร่ อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี
การเดินทาง : จากตัวเมืองอุทัยธานี มุ่งหน้าสู่ตำบลบ้านไร่ ห่างจากอำเภอไปราว 12 กิโลเมตร ตามทางหลวงหมายเลข 3011 ผ่านทางโค้งศาลเจ้าพ่อเขารักแล้วมาตัดกับสามแยกให้เลี้ยวขวาไปประมาณ 6 กิโลเมตร จะมีทางแยกเลี้ยวซ้ายเข้าสู่เขาวง ประมาณ 8 กิโลเมตรถึงทางแยกเข้าไปอีก 300 เมตร ทางค่อนข้างจะลาดชันขึ้นทีละน้อย เส้นทางอ้อมโค้งเป็นหน้าผาต้องไต่ไปตามซอกเขา

3. วัดสันป่ายางหลวง วัดสวยล้านนากลางป่าคอนกรีต จังหวัดลำพูน

ถัดมาเราไปดูวัดสวยสไตล์ล้านนาท่ามกลางป่าคอนกรีต ของจังหวัดลำพูนกันบ้าง โดยไปกันที่วัด “สันป่ายางหลวง” วัดนี้มีประวัติความเป็นมายาวนาน โดยเชื่อกันว่าเป็นวัดแห่งแรกของอาณาจักรล้านนา ด้วยสาเหตุนี้ ทำให้ภายในวัด มีสิ่งปลูกสร้างที่ใช้ศิลปะทางล้านนามากมาย ไม่ว่าจะเป็น “วิหารพระโขงเขียว” ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของพระหยกเขียวซึ่งนำมาจากแม่น้ำโขง หรือจะเป็น “พระวิหารพุทธอัญญรัตนมหานทีศรีหริภุญชัย” มณฑปทรงล้านนา ที่ใช้ประดิษฐานพระพุทธเมตไตรจำลองจากพุทธคยา ฯลฯ การตกแต่งนอกจากจะใช้ศิลปะสไตล์ล้านนาแล้ว ยังมีการสอดแทรกคติความเชื่อทางศาสนาลงไปในการก่อสร้างอีกด้วย

นอกจากการก่อสร้างที่มีความสวยงามแปลกตาในสไตล์ล้านนาแล้ว ความงามของพระพุทธรูปหินหยกขาวปางปรินิพพาน, มณฑปพระเขี้ยวแก้วซึ้งเป็นพระเขี้ยวแก้วของพระมหาสารีบุตร, พระเขียวโขง, พระพุทธรูปแก้วขาวของเก่าเมืองลำพูน รวมทั้งพระเครื่องสกุลหริภุญชัยซึ่งอยู่ภายในวัดแห่งนี้ ก็เป็นตัวดึงดูดให้นักท่องเที่ยวพากันมาสักการะ และเยี่ยมชมไม่อย่างขาดสาย
ที่ตั้ง :  หมู่บ้านสันป่ายางหลวง ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน
การเดินทาง :  จากกรุงเทพฯ ไปตามทางหลวงหมายเลข 1 (พหลโยธิน) ผ่านดอนเมือง รังสิต แยกซ้ายตรงกิโลเมตรที่ 32 ผ่านจังหวัดสิงห์บุรี จังหวัดชัยนาท เข้าจังหวัดนครสวรรค์ แล้วแยกซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 11 เข้าจังหวัดลำพูน รวมระยะทาง 670 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 8 ชั่วโมง

4. พระมหาเจดีย์ชัยมงคล วัดสวยเหมือนอยู่ในแดนสวรรค์ จังหวัดร้อยเอ็ด

พระมหาเจดีย์ชัยมงคล จ.ร้อยเอ็ด ความสวยแปลกตาของพระมหาเจดีย์แห่งนี้ คือ การผสมผสานระหว่างองค์พระปฐมเจดีย์ ศิลปะของภาคกลาง และพระธาตุพนม ศิลปะของภาคอีสานเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว จากภายนอกตัวอาคารเป็นพื้นสีขาวตกแต่งลวดลายด้วยสีทองเหลืองอร่าม ดูวิจิตรตระการตา บริเวณโดยรอบรายล้อมด้วยเจดีย์องค์เล็กทั้ง 8 ทิศ ภายในองค์พระมหาเจดีย์ ตกแต่งอย่างสวยงามเหมือนอยู่บนวิมานแดนสวรรค์ มีรูปปั้นเทพ และเทพธิดา ไปจนสวนสวยอยู่โดยรอบ ใช้งบประมาณในการสร้างรวมแล้วกว่า 3,000 ล้านบาท

ที่ตั้ง : ตำบลผาน้ำย้อย อำเภอหนองพอก จังหวัดร้อยเอ็ด
การเดินทาง : จากตัวเมืองร้อยเอ็ด ใช้เส้นทาง ร้อยเอ็ด – โพนทอง – หนองพอก ระยะทาง 62 กิโลเมตร ตามทางหลวงหมายเลข 2044 และ 2136 ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงถึงอำเภอหนองพอกต่อไปยังบ้านท่าสะอาด ตำบลผาน้ำย้อย และขึ้นเขาเขียวไปอีก 5 กม. ก็จะถึงวัดเจดีย์ชัยมงคลสถานที่ตั้งของ พระมหาเจดีย์ชัยมงคล

5. วัดถ้ำเสือ ชมความยิ่งใหญ่ของพระพุทธรูปปางประทานพรที่ใหญ่ที่สุด จังหวัดกาญจนบุรี

วัดสวย แปลกตา ลำดับถัดไป เราไปกันที่ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี กับวัดสวยขนาดใหญ่ “วัดถ้ำเสือ” ความสวยงามสะดุดตาของวัดนี้ เริ่มกันตั้งแต่ องค์พระพุทธรูปปางประทานพรขนาดใหญ่ที่สุดในจังหวัดกาญจนบุรี ที่ไม่ได้มีดีแค่ขนาดเท่านั้น ความสวยงามขององค์พระที่ประดับตกแต่งด้วยโมเสคสีทองทั้งองค์ ก็เป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ที่ทำให้ผู้คนพากันหลั่งไหลเข้ามาชื่นชมความงามไม่ขาดสาย และเมื่อเดินเข้าไปภายในวัดจะพบกับความวิจิตรของศิลปะแบบไทยๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น อุโบสถวัด ทรงจตุรมุข มีซุ้มเสมารอบ 8 ทิศ, ลวดลายปูนปั้นพระพุทธประวัติสวยงามทุกด้านของผนังภายในอุโบสถ, พระเจดีย์เกศแก้วมหาปราสาท เจดีย์ทรงสวย รูปร่างแปลกตา ภายในมีทั้งสิ้น 9 ชั้น ด้านบนเป็นที่ประดิษฐานของพระบรมสารีริกธาตุ นอกจากนี้หากมองลงมาจากบริเวณด้านบนในช่วงหน้าทำนา จะมองเห็นทุ่งนาข้าวสวยงามสุดลูกหูลูกตาอีกด้วย

ที่ตั้ง : ต.ม่วงชุม อำเภอท่าม่วง กาญจนบุรี
การเดินทาง : วัดถ้ำเสืออยู่ห่างจากเขื่อนแม่กลองประมาณ 5 กิโลเมตร ทางเข้าวัดต้องผ่านตัวเขื่อนแม่กลองแล้วจะมีป้ายบอกให้เลี้ยวขวาไปประมาณ 2 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวซ้ายอีกประมาณ 200 เมตร

6. วัดป่าสว่างบุญ เจดีย์ทองคำ 500 ยอด จังหวัดสระบุรี

ลำดับถัดไปเราไปชมความงามของมหาเจดีย์ราย 500 ยอดที่ วัดป่าสว่างบุญ จ.สระบุรี ที่วัดนี้นอกจากจะมีชื่อเสียงในเรื่องของความสงบ ทำให้มีผู้คนมาปฏิบัติธรรมกันเป็นจำนวนมากแล้ว ความโดดเด่นของสถาปัตยกรรมที่สวยงามก็เป็นอีกหนึ่งที่ทำให้ชื่อเสียงขจรขจายไปไกลอีกด้วย โดยความเด่นเรื่องความงามของวัดแห่งนี้อยู่ที่ พระมหาเจดีย์ 500 ยอด มีชื่อเต็มว่า “พระมหารัตนโลหะเจดีย์ศรีศาสนโพธิสัตว์สว่างบุญ” ซึ่งประกอบไปด้วย “เจดีย์ประธานองค์ใหญ่” อยู่ตรงกลาง และมีองค์เจดีย์รายองค์เล็กตั้งลดหลั่นกันลงมาอยู่รอบๆทิศ ตัวองค์เจดีย์เป็นปูนปั้นเคลือบสีทองทั้งหมดทุกองค์ ด้านในประดับกระจกทับทิม และได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุจากประเทศเนปาล, อินเดีย และศรีลังกา มาบรรจุในพระมหาเจดีย์ครบทั้ง 500 ยอด รวมทั้งได้นำพระบรมสารีริกธาตุ และวัตถุมงคลของมีค่ามาบรรจุอยู่ในพระเจดีย์องค์ประธานอีกด้วย

ที่ตั้ง : หมู่ 7 บ้านคลองไผ่ ต.ชะอม อ.แก่งคอย จ.สระบุรี
การเดินทาง : ใช้เส้นทาง สระบุรี-นครนายก จาก อ.แก่งคอย ไปประมาณ 15 กิโลเมตร พอถึงตำบลชะอม เลี้ยวซ้ายไปเส้นทางเที่ยวน้ำตกโกรกอีดก ตรง เข้าไปประมาณ 4 กิโลเมตร วัดตั้งอยู่ทางขวามือ มีป้ายบอกชัดเจน

7. วัดท่าซุง ชมความงามวิหารแก้วอันเลื่องชื่อ จังหวัดอุทัยธานี  

วัดท่าซุง วัดขึ้นชื่อเรื่องความงามของจังหวัดอุทัยธานี แม้วัดแห่งนี้จะเป็นวัดเก่า แต่ก็ได้มีการบูรณะเรื่อยมาตั้งแต่อดีตจวบจนปัจจุบัน มีการสร้างอาคารต่างๆ เพิ่มขึ้นจากในอดีตมากมาย เช่น พระอุโบสถใหม่ ภายในประดับ และ ตกแต่งอย่างวิจิตร บานหน้าต่าง และประตูด้านในเขียนภาพเทวดาโดยจิตรกรฝีมือดี บริเวณโดยรอบสร้างกำแพงแก้ว มีรูปหล่อหลวงพ่อปาน และหลวงพ่อใหญ่ขนาด 3 เท่า อยู่มุมกำแพงด้านหน้า มณฑป และพระวิหารแก้วที่ประดิษฐาน พระพุทธชินราชจำลอง และศพของหลวงพ่อฤาษีลิงดำที่ไม่เน่าเปื่อย ไฮไลท์ความงามของที่นี่ต้องยกให้วิหารแก้ว ซึ่งสร้างด้วยโมเสกสีขาวใส มองดูเหมือนแก้ววาววับอยุ่ภายในสวยแปลกตา นอกจากนี้ยังมีพระพุทธรูปพระพุทธชินราชจำลอง ซึ่งมีความงดงามเป็นพระประทานในวิหารอีกด้วย

ที่ตั้ง : เลขที่ 60 หมู่ 1 บ้านท่าซุง ต.น้ำซึม อ.เมือง จ.อุทัยธานี
การเดินทาง : จากกรุงเทพเข้าสู่ป้ายต้อนรับจังหวัดอุทัยธานี วิ่งตรงตามถนนเข้าเมืองมาจนสุดทาง ก็จะเจอสามแยกมีป้ายแหล่ง ท่องเที่ยวที่ชี้บอกทางไปวัดท่าซุงเอาไว้ให้็เลี้ยวซ้ายเข้ามาตามทางหลวงสาย 3265 ถึงแยกไฟแดง ถัดมาก็เลี้ยว ขวาตามป้ายอำเภอ มโนรมย์ขับตามป้ายบอกทางไปวัดท่าซุงซึ่งจะมีบอกอยู่เป็นระยะ

8. วัดป่าสิริวัฒนวิสุทธิ์ พุทธคยาจำลอง จังหวัดนครสวรรค์    

วัดสวยแปลกตา ลำดับถัดไปเราไปกันที่ จังหวัดนครสวรรค์ กับ วัดป่าสิริวัฒนวิสุทธิ์ ซึ่งเป็นวัดในสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ความสวยงามแปลกตาของวัดแห่งนี้ คือการสร้างวัดเป็นรูปเรือหลวงบนยอดเขา ซึ่งสื่อความหมายถึง พาหนะที่จะช่วยให้พ้นห้วงกิเลสภายในวัดประดิษฐานเจดีย์ศรีพุทธคยา ซึ่งจำลองแบบมาจากเจดีย์พุทธคยาจากประเทศอินเดีย ลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมทรงกรวย ส่วนยอดเจดีย์เป็นทรงระฆังคว่ำ ประดับด้วยลวดลายปูนปั้น ซึ่งมีความสวยงามดูแปลกตา บริเวณรอบๆ เจดีย์จะมีพระพุทธรูปปางประทับยืน และประทับนั่งอยู่ทั่วไป บริเวณชั้นบนสุดยังเป็นที่ประดิษฐานของพระบรมสารีริกธาตุอีกด้วย นอกจากนี้ภายในวัดยังมีสิ่งก่อสร้างที่มีความหมายเป็นมงคลอีกหลายอย่าง อาทิ มณฑปเรือนแก้ว สถาปัตยกรรมประยุกต์ไทยอินเดีย มุงและกั้นด้วยกระจกสีชาทั้งหมด เป็นที่ประดิษฐานพระประวัติศาสตร์ ห้องพระไตรปิฎก ชั้นบนสุดประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ฯลฯ

 
 
 

 

ที่ตั้ง : บ้านเขาโคกเผ่น ตำบลทำนบ อำเภอท่าตะโก นครสวรรค์
การเดินทาง : จากกรุงเทพฯ เดินทางมุ่งหน้า อ.ตาคลี นครสวรรค์ ถึงกองบินสี่ เจอแยกไปหัวหวาย (ทางหลวงแผ่นดิน 3329) เลี้ยวซ้าย ขับรถไปเรื่อย ๆ จะเจอสี่แยกตัดกันกับเส้นตากฟ้า-ท่าตะโก ให้ตรงเข้าไป ขับรถผ่านหมู่บ้านทาง รพช. มีป้ายบอกตลอดทางจะเห็นภูเขาอยู่ด้านหน้าประมาณห้า กม.จากแยกก็จะถึงวัด

9. วัดนิเวศธรรมประวัติราชวรวิหาร วัดแบบโบสถ์คริสถ์หนึ่งเดียวในไทย จังหวัดอยุธยา

เคยเห็นวัดสร้างสไตล์โบสถ์คริสต์กันมั้ย  ถ้ายังไม่เคยเห็นเราจะพาไปชมกันได้ที่ “วัดนิเวศธรรมประวัติราชวรวิหาร” จ.อยุธยา วัดนี้สร้างขึ้นโดยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เพื่อทรงใช้เป็นสถานที่สำหรับบำเพ็ญพระราชกุศล เมื่อเสด็จฯ แปรพระราชฐานมาประทับที่พระราชวังบางปะอิน โดยทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างเลียนแบบโบสถ์ฝรั่งเป็นศิลปะแบบโกธิค (Gothic) ภายในประดิษฐาน “พระพุทธนฤมลธรรโมภาส” เป็นพระประธานออกแบบโดยพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าประดิษฐวรการ โดยลักษณะที่ผสมผสานศิลปะแบบประเพณีนิยม และศิลปะแบบตะวันตกเข้าด้วยกัน ซึ่งมีพุทธลักษณะคล้ายสามัญชน นอกจากนี้ บริเวณฐานชุกชีก็มีลักษณะเหมือนที่ตั้งไม้กางเขนแบบโบสถ์ และฝาผนังโบสถ์ด้านหน้าของพระประธานนั้น เป็นพระบรมฉายาลักษณ์ของรัชกาลที่ ๕ ที่ประดับด้วยกระจกสี มองดูมีความสวยงามแปลกตามาก

ที่ตั้ง : เกาะกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ฝั่งตรงข้ามกับพระราชวังบางปะอิน ตำบลบ้านเลน  อำเภอบางปะอิน พระนครศรีอยุธยา
การเดินทาง : ตั้งอยู่บนเกาะกลางแม่น้ำเจ้าพระยาด้านทิศใต้คนละฝั่งกับพระราชวังบางปะอิน มาจากกรุงเทพฯ ตามถนนพหลโยธิน จะมีทางแยกซ้ายบริเวณกิโลเมตรที่ 35 ไปพระราชวังบางปะอินเป็นระยะทางอีก 7 กิโลเมตร

10. วัดเกริ่นกฐิน วัดสวยจากศรัธาประชาชน จังหวัดลพบุรี

วัดสวยแปลกตาในเมืองไทย ลำดับสุดท้ายที่เราจะพาคุณๆไปชมในวันนี้ ไปกันที่  “วัดเกริ่นกฐิน” จังหวัดลพบุรี วัดแห่งนี้จัดเป็นวัดเก่าคู่บ้านคู่เมืองลพบุรีมาช้านาน แต่เดิมชื่อเสียงของที่นี่เป็นวัดที่จำพรรษาของเกจิอาจารย์ชื่อดัง “หลวงพ่อเพี้ยน” ต่อมาผู้คนที่นับถือองค์หลวงพ่อก็ได้เข้ามาช่วยกันทำบุญและบูรณะวัดให้มีความสวยงาม จนชื่อเสียงเรื่องความงามเริ่มเป็นที่ประจักษ์มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นวิหารหลวงพ่อปาน วิหารแก้วที่มีความวิจิตรสวยงามภายในเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปหลวงพ่อปาน ซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่ศักดิ์สิทธิ์ของวัด, เจดีย์สำหรับประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ที่สมเด็จพระสังฆราชประทานให้ไว้ ตัววิหารออกแบบสวยงามมีการประดับตกแต่งทั้งภายในและภายนอก พร้อมทั้งมีการยกฉัตรทองคำอีกด้วย

ที่ตั้ง : บ้านเกริ่นกฐิน ตำบลบ้านชี อำเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี
การเดินทาง : เส้นทาง ถนน สายบางงา บ้านหมี่ (ทางหลวงหมายเลข 3028) กม ที่ 8(ข้าง ร.ร.บ้านชีวิทยา) มีทางแยกเข้า ระยะทางประมาณ 5 กม. กมที่ 11(ตรงข้าม อบต.บ้านชี) มีทางเข้าระยะทาง 3 กม. เส้นทางเลียบคลองส่งน้ำ ชัยนาท- ป่าสัก แยกริมคลองส่งน้ำ ขวา 16 (R16) (ใกล้หมู่บ้านหนองทรายขาว) ตรงไป 7 กม ก็จะเห็นวัดเกริ่นกฐิน

Credit: PostJung
#วัดสวย
PatPuch
ผู้กำกับภาพ
สมาชิก VIP
15 ต.ค. 57 เวลา 09:33 4,124
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...