หนาวนี้ที่...เชียงราย

นี่ก็เริ่มเข้าสู่ฤดูหนาวแล้วถือได้ว่าเป็นช่วงสำคัญสำหรับการท่องเที่ยวในประเทศไทยเลยทีเดียว

เพราะเป็นช่วงไฮซีซั่นนั่นเอง ใครหลายๆคนอาจจะมองหาที่เที่ยวไว้กันบ้างแล้ว

แต่สำหรับใครที่ยังไม่มีแพลน วันนี้ผมอยากจะลองให้คุณได้เปิดใจกับจังหวัดหนึ่ง

ที่มีความงดงามอย่างลงตัวจนอาจจะทำให้ใครหลายๆคนตกหลุมรักเมื่อไปเยือนก็เป็นได้

นั่นก็คือ จังหวัดเชียงราย นั่นเอง

เหนือสุดในสยาม ชายแดนสามแผ่นดิน ถิ่นวัฒนธรรมล้านนา ล้ำค่าพระธาตุดอยตุง

เมืองแห่ง 7 สายน้ำ 3 ฝ่ายฟ้า 35 ม่อนดอย

มีดอกไม้ประจำจังหวัดคือ ดอกพวงแสด และต้นไม้ประจำจังหวัดคือ ต้นกาสะลองคำ

มีสีประจำจังหวัดคือ สีม่วง และตราประจำจังหวัดคือ ช้างเผือก

 

 เรามาเริ่มกันที่พ่อบ้านพ่อเมืองที่ชาวเชียงรายรวมถึงชาวล้านนาต่างให้ความเคารพสักการะกันก่อนเลยนะครับ

นั่นก็คือ พระราชานุสาวรีย์พญามังราย หรือ พ่อขุนเม็งรายมหาราช ที่หลายคนคงเคยได้ยิน

พญามังรายเป็นปฐมกษัตริย์แห่งอาณาจักรล้านนาราชวงศ์มังราย

โดยพระองค์ทรงเป็นผู้สร้างเมืองหลวงของล้านนาทั้ง 3 แห่งคือ เชียงราย เวียงกุมกาม และเชียงใหม่ตามลำดับ

อีกทั้งยังผูกไมตรีกับอาณาจักรของพระสหาย คือ พญาร่วง(พ่อขุนรามคำแหงมหาราช)แห่งเมืองสุโขทัย

และพญางำเมืองแห่งเมืองภูกามยาว(พะเยา) อีกด้วยครับ

 

มาถึงสถานที่สำคัญอย่างสถาบันการศึกษากันบ้างนะครับ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง มหาวิทยาลัยประจำจังหวัด

เป็นมหาวิทยาลัยที่สวยที่สุดในประเทศไทย มีสโลแกนว่า University in The Park

มีดอกไม้ประจำมหาวิทยาลัยคือ ดอกหอมนวล หรือ ลำดวน

มีตราพระราชทานประจำมหาวิทยาลัยเป็นพระนามาภิไทยของสมเด็จพระศรีนคริทราบนมราชชนนี หรือแม่ฟ้าหลวงของชาวเชียงราย

 

สะพานมิตรภาพไทยลาวแห่งที่ 4 เชียงของ-ห้วยทราย เป็นสะพานมิตรภาพแห่งใหม่ที่เชื่อมระหว่าง

อ.เชียงของ จ.เชียงราย กับเมืองห้วยทราย สปป.ลาว เพื่อเปิดเส้นทางสู่ประเทศจีนตอนใต้ และเป็นการขยายเขตเศรษฐกิจใหม่ด้วย

 

มาต่อที่วัดวาอารามกันบ้างนะครับ จังหวัดเชียงรายถือว่าเป็นจังหวัดที่มีวัดมากเป็นอันดับที่ 7 ของประเทศไทย

โดยมีวัดทั้งสิ้น 858 แห่ง จึงไม่น่าแปลกใจเมื่อมาเยือนเชียงรายแล้ว จะต้องมีการไปเที่ยววัดสำคัญๆอย่างแน่นอน

 

วัดแรกนั้นเป็นวัดที่หลายคนต้องรู้จักกันอยู่แล้ว เพราะแทบจะเป็นแลนด์มาร์กของจังหวัดเลยก็ว่าได้

เป็นวัดที่ต่างประเทศให้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในวัดที่สวยที่สุดในโลก นั่นก็คือ วัดร่องขุ่น ซึ่งสร้างโดย อ.เฉลิมชัย ศิลปินแห่งชาตินั่นเอง

 

วัดต่อมาคือ วัดพระแก้ว วัดนี้ถือว่าเป็นวัดที่สำคัญมากอีกวัดหนึ่ง เพราะเป็นสถานที่แรกที่พบองค์พระแก้วมรกต

โดยได้เกิดอสุนีบาตผ่ามาที่องค์เจดีย์ จึงทำให้เห็นองค์พระเนื้อมรกตภายในองค์เจดีย์

ชาวเมืองจึงได้นำมาแห่แหนและประดิษฐานยังหอพระแก้ว ก่อนจะย้ายไปประดิษฐานยังเมืองลำปาง เชียงใหม่ เชียงทอง(หลวงพระบาง)

เวียงจันท์ และกรุงเทพฯ ตามลำดับ

 

วัดที่สามคือ วัดพระสิงห์ วัดนี้เป็นที่ประดิษฐานพระสิงห์หรือพระพุทธสิหิงห์ พระพุทธรูปศิลปะเชียงแสนที่งดงาม

เป็นพระคู่บ้านคู่เมืองของชาวล้านนา วัดนี้จึงมีความสำคัญเป็นอย่างมาก

เมื่อถึงวันสำคัญ เช่น ประเพณีปี๋ใหม่เมือง หรือ เทศกาลสงกรานต์

ก็จะมีการนำพระมาแห่รอบเมืองเพื่อให้ประชาชนได้สรงน้ำตามความศรัทธา ความงามของวัดยังอยู่ที่ลายปูนปั้นสีขาว ณ ซุ้มประตูโขง

และสถาปัตยกรรมวิหารทรงล้านนานั่นเอง

 

วัดที่สี่เป็นวัดที่ตั้งของสะดือเมืองเชียงรายในอดีต ซึ่งตั้งอยู่ ณ ดอยจอมทอง ดอยขนาดเล็กกลางเวียงเชียงราย

วัดแห่งนี้ยังเป็นสถานที่ซึ่งพญามังรายได้ตามช้างเผือกหลวงมาถึงยังจุดนี้ แล้วได้ทอดพระเนตรเห็นถึงชัยภูมิที่เหมาะสม

จึงได้เกณฑ์ชาวเมืองเชียงแสนมาสร้างเมืองเชียงราย แล้วสถาปนาเป็นเมืองหลวงแทนเชียงแสน โดยถือเอาดอยแห่งนี้เป็นศูนย์กลางของจักรวาล

ตามคติพราหมณ์ที่เชื่อว่าเขาพระสุเมรุคือศูนย์กลางของจักรวาลนั่นเอง

จากนั้นจึงให้สร้างวัดขึ้นบนดอยแห่งนี้แล้วให้ชื่อว่า วัดพระธาตุดอยจอมทอง

 

วัดที่ห้าได้แก่ วัดมิ่งเมือง หรือ วัดช้างมูบ วัดแห่งนี้เป็นวัดที่สร้างขึ้นโดยพระนางอุสาปายะโคเทวี

ธิดากษัตริย์มอญหงสาวดี มหาเทวีองค์ที่สองของพญามังราย พระนางได้สร้างวัดเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา

โดยได้ตั้งสัจจะอธิษฐานเมื่อครั้งก่อนที่จะเสด็จมายังล้านนา ต่อมาวัดนี้มีผู้คนศรัทธาเป็นจำนวนมาก

และในทุกๆคืนวันพุธที่พระจันทร์เต็มดวง จะมีการอัญเชิญพระอุปคุตเพื่อให้ชาวเมืองได้ตักบาตรเที่ยงคืนกัน

หรือที่เรียกกันว่า ตักบาตรเป็งปุ๊ด นั่นเอง

 

วัดที่หกเป็นวัดที่สำคัญต่อชาวล้านนามากอีกแห่งหนึ่งเลยทีเดียว เนื่องจากเป็นวัดประจำปีนักษัตรของคนที่เกิดในปีกุน ปีหมู

หรือปีช้างตามแบบล้านนา ผู้ที่เกิดปีกุนจะต้องมาสักการะกราบไหว้เพื่อความเป็นสิริมงคลตามความเชื่อ

วัดแห่งนี้ก็คือ วัดพระมหาชินธาตุเจ้า หรือ วัดพระธาตุดอยตุง นั่นเอง

ภายในองค์พระธาตุนั้นได้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุพระรากขวัญเบื้องซ้ายไว้ ซึ่งพระมหากัสสปะได้นำมามอบให้แก่

พระเจ้าอชุตราชแห่งอาณาจักรโยนกนาคพันธุ์ แล้วท่านได้อธิษฐานตุงทิพย์ยาวพันวาปักไว้บูชาแด่พระพุทธเจ้า

 

วัดที่เจ็ดได้แก่ วัดพระธาตุดอยเขาควาย วัดแห่งนี้ตั้งอยู่ ณ ยอดดอยเขาควาย ดอยขนาดเล็กชานเมืองเชียงราย

ความโดดเด่นอยู่ที่เมื่อเราอยู่บนวัดจะสามารถมองเห็นทัศนียภาพบางส่วนของเมืองเชียงรายได้อย่างชัดเจน

อีกทั้งยังมี ถ้ำแมงสี่หูห้าตา ที่มีรูปร่างเหมือนหมีกินถ่านไฟร้อนๆแล้วถ่ายออกมาเป็นทองในตำนานอีกด้วย

 

วัดที่แปดเป็นวัดที่มักจะออกอยู่ข่าวบ่อยๆ เนื่องจากมีศรัทธาเป็นจำนวนมากรวมทั้งดารานักแสดงอีกมากมาย

ซึ่งก็คือ วัดห้วยปลากั้ง นั่นเอง วัดแห่งนี้มีความโดดเด่นที่เจดีย์ทรงแปดเหลี่ยมศิลปะแบบจีน

ภายในเป็นที่ประดิษฐานองค์พระโพธิสัตว์กวนอิมไม้หอม และยังมีโครงการสร้างรูปปั้นองค์พระโพธิสัตว์กวนอิม

องค์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยอีกด้วย จึงถือว่าเป็นวัดที่เหมาะกับผู้ที่ต้องการโชคลาภด้านการงาน การเงินเป็นอย่างมาก

 

วัดที่เก้าคือ วัดพระธาตุดอยเวา วัดนี้ตั้งอยู่ใกล้กับเขตชายแดนไทยพม่า อ.แม่สาย-เมืองท่าขี้เหล็ก

คำว่า เวา นั้นหมายถึง แมงป่องขนาดเล็ก ดั้งนั้นดอยเวา จึงมาจากดอยที่เป็นที่อยู่ของสัตว์พวกนี้นั่นเอง

จุดเด่นอยู่ที่บนวัดสามารถมองเห็นทัศนียภาพของด่านชายแดนได้อย่างสวยงาม

 

วัดที่สิบได้แก่ วัดจี้กง หรือ ศาลเจ้าหน่ำพิ้งฮง อยู่ในเขต อ.พาน ตั้งอยู่ใกล้เขตอุทยานแห่งชาติดอยหลวง

มีความโดดเด่นจาก เสาสี่ต้น บันไดสวรรค์และเจดีย์ทรงแปดเหลี่ยมศิลปะแบบจีน

ภายในประดิษฐานพระอรหันต์จี้กงไม้หอม ที่ให้โชคลาภด้านเงินทอง

ตัววัดนั้นมีความงามเป็นอย่างมากเมื่อมองจากด้านหน้าไปถึงดอยด้านหลัง ทำให้เหมือนเรามองภาพวาดสีน้ำมันเลยทีเดียว

 

จากวัดแล้วมาต่อที่ไลฟ์สไตล์ในเมืองกันเลยนะครับ

 

อย่างแรกคือ หอนาฬิกาเฉลิมพระเกียรติ ซึ่งออกแบบและสร้างโดย อ.เฉลิมชัย

ตัวเรือนนาฬิกานั้นมีเอกลักษณ์ตามแบบฉบับของ อ.เฉลิมชัย และมีกลไกที่สำคัญคือเมื่อถึงเวลา

19.00 น. 20.00 น. 21.00 น. จะมีแสงสีเสียงและดอกบัวผุดขึ้นในตัวเรือนนาฬิกาอย่างสวยงาม

และมักจะมีนักท่องเที่ยวมารับชมและถ่ายรูปเป็นจำนวนมาก จึงถือว่าเป็นจุดสำคัญอีกจุดหนึ่งในตัวเมืองเลยทีเดียว

 

 

ที่ต่อมาเมื่อมาถึงเชียงรายแล้วขาดไม่ได้เลยก็คือ ถนนคนเดิน นั่นเอง ถนนคนเดินนั้นจะมีทุกเย็นวันเสาร์

โดยจะมีการขายสินค้าต่างๆมากมาย โดยส่วนใหญ่จะเป็นงานแฮนด์เมท มีการขายอาหารท้องถิ่น

และยังมีการแสดงรำวงย้อนยุคอีกด้วย ส่วนทุกเย็นวันอาทิตย์นั้นจะเป็นการจัด ถนนคนม่วน

ซึ่งเทศบาลนครเชียงรายจัดให้เป็นถนนวัฒนธรรม จะมีการขายสินค้าและอาหารตามแบบท้องถิ่นและมีการแสดง

ของชาวบ้านและเยาวชนต่างๆ เช่น การฟ้อน การขับซอ ให้รับชมอีกด้วย

 

  

 

อีกอย่างที่ต้องนึกถึงก็คือ เชียงรายไนท์บาซ่า นั่นเอง เชียงรายไนท์บาซ่านั้นถือเป็นแหล่งซื้อขายสินค้า อาหารท้องถิ่น

และยังมีการแสดงพื้นบ้านและโชว์ต่างๆให้รับชมเช่นเดียวกับถนนคนม่วนอีกด้วย

 

หลายคนอาจจะยังติดชีวิตความเป็นคนเมืองอยู่ เชียงรายนั้นก็มีศุนย์การค้าชั้นนำ เช่นกันะครับ

นั่นก็คือ เซ็นทรัลพลาซ่าเชียงราย นั่นเองและยังมีห้างเล็กอีกหลายห้าง เช่น บิ๊กซี โฮมโปร แมคโคร อภิสแควร์ เอดิสัน เป็นต้น

 

หลายคนคงรู้แล้วว่าเชียงรายถือเป็นแหล่งผลิตกาแฟชั้นนำระดับโลกหลายแบรนด์เลยทีเดียวเช่น กาแฟวาวี กาแฟดอยช้าง เป็นต้น

เมื่อมาถึงเชียงรายทั้งทีไม่ได้ชิมกาแฟคงเสียใจแย่ ผมจึงมี ร้านกาแฟ+ร้านอาหาร น่ารักๆ เก๋ๆมาให้ชมกันเล็กๆน้อยๆนะครับ

 

 ที่น่าสนใจอีกอย่างก็คือการได้ช้อปปิ้ง ซึ่งเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับนักท่องเที่ยวอย่างแน่นอน และที่ๆเหมาะแก่การช้อปเป็นอย่างมากก็คือ

ด่านชายแดนแม่สาย นั่นเอง เพราะที่นี่มีตั้งแต่ไม้จิ้มฟันยันเรือรบเลยจริงๆ

 

ต่อมาคือการ นั่งรถรางชมเมือง เทศบาลนครเชียงรายได้มีการจัดให้บริการรถราง

เพื่อให้นักท่องเที่ยวชมเมือง และเก็บภาพต่างๆของเมืองเชียงรายได้อย่างน่าสนใจ โดยรถรางจะมีจุดบริการต่างๆ

ให้นักท่องเที่ยวได้แวะเก็บภาพและเยี่ยมชมมากมาย เช่น วัดพระแก้ว วัดพระสิงห์ บ้านพักจอมพล ป. เป็นต้น

โดยรถรางชมเมืองจะมีจุดให้บริการอยู่ที่ด้านหลังพระราชานุสาวรีย์พญามังราย

 

เบื่อชีวิตในเมืองแล้ว เรามาดูสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติกันบ้างนะครับ

เชียงรายนั้นตั้งอยู่ในภูมิประเทศแบบที่ราบเชิงเขา มีแม่น้ำสำคัญคือ โขง กก ลาว อิง จัน สาย คำ

มีอาณาเขตติดต่อ 2 ประเทศ คือ พม่า และลาว มีจุดติดต่อกันทั้ง 3 ประเทศเรียกว่า สามเหลี่ยมทองคำ

ในเขต อ.เชียงแสนประเทศไทย เมืองท่าขี้เหล็กประเทศพม่า และแขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว โดยมีแม่น้ำโขงกั้น

พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขาอากาศจึงมักจะร้อนจัดในช่วงฤดูร้อน และหนาวจัดในช่วงของฤดูหนาว

สิ่งเหล่านี้จึงทำให้เชียงรายมีความหลากหลายของสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาตินั่นเอง

 

ที่แรกที่แนะนำเลยก็คือ วนอุทยานภูชี้ฟ้า นั่นเอง ภูชี้ฟ้าเป็นแนวผาที่ยื่นออกจากดอยผาหม่นไปทางฝั่งของ สปป.ลาว

โดยในฤดูหนาวจะทำให้เห็นทะเลหมอกได้อย่างสวยงามและชัดเจนมาก

 

ไร่ชาฉุยฟง ไร่ชาและโรงงานผลิตชาชั้นนำของเชียงราย

 

อุทยานแห่งชาติดอยหลวง-น้ำตกปูแกง  เป็นต้นน้ำของแม่น้ำวัง เป็นอุทยานแห่งชาติที่อยู่ในเขต

รอยต่อของ 3 จังหวัด คือ เชียงราย พะเยา และลำปาง

 

ซากุระเมืองไทย หรือ นางพญาเสือโคร่ง ดอยแม่สลอง ดอยแม่สลองถือเป็นที่อาศัยของชนเผ่า

หลากหลายเผ่า เช่น จีนฮ่อ มูเซอ เป็นต้น จึงทำให้มีความหลากหลายวัฒนธรรม และที่สำคัญคือมีพันธุ์ไม้

ที่มีความสวยงามอย่างนางพญาเสือโคร่ง หรือ ซากุระเมืองไทย ที่จะบานสะพรั่งในช่วงฤดูหนาวนั่นเอง

Credit: PostJung
#เชียงราย
PatPuch
ผู้กำกับภาพ
สมาชิก VIP
11 ต.ค. 57 เวลา 08:59 2,811
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...