เซ็กซี่ ของเล่นใหม่ขายดิบขายดี คนไทยสนใจ
ตุ๊กตายางที่มีขนาดใกล้เคียงกับหญิงสาวทั่วไป ขายดิบขายดีในนครโฮจิมินห์ จนกลายเป็นปรากฎการณ์หนึ่งในขณะนี้ ขายดีจนกระทั่งนำเข้าไม่ทัน และ แต่งตัวให้ไม่ทัน ถึงแม้ว่าราคาจะแพงลิบลิ่ว คิดเป็นเงินไทยหลายหมื่นบาท และใช้เวลานานหลายเดือนการนำเข้า กับการเสริมแต่ง แต่บรรดาลูกค้าเอกบุรุษกระเป๋าหนักผู้เดียวดาย ก็ยอมรอและควักจ่ายไม่อั้น สื่อออนไลน์ภาษาเวียดนามรายงาน
ตุ๊กตายางตัวนิ่มๆ ที่ผลิตเลียนแบบรูปร่างหน้าตา และ ส่วนสัดต่างๆ ของคนเป็นๆ เหล่านี้ ผลิตในต่างประเทศ ไม่ใช่ตุ๊กตายางแบบเซ็กดอลล์ แต่ดูเซ็กซี่ หน้าตาสวยงาม สวมเสื้อผ้าชุดลาย ที่มีราคาสูงและตัดเย็บอย่างประณีต หรือมีสีสันน่ารัก แต่งหน้าทาปากได้ เปลี่ยนทรงผมให้ได้ตามรสนิยมของผู้เป็นเจ้าของ ข้อพับต่างๆ ของร่างกาย หัวจดเท้า เสริมลูกปืนบอลแบรี่ง ทำให้สามารถพับหรือเคลื่อนไหวได้ง่าย ทั้งในอิริยาบทยืน นั่ง เอนและนอน ฝีมือการผลิตประณีต ออกมาคล้ายและราวกับหายใจได้ ไม่เพียงแต่จะเป็นที่สนใจของบรรดาหนุ่ม ผู้มีอันจะกินเท่านั้น ลูกค้ากลุ่มหญิงแท้ๆ ก็มีไม่น้อย ซิงออนไลน์รายงาน
ในตลาดเรียกของเล่นชนิดนี้ว่า "ตุ๊กตาข้อพับลูกปืน" (Ball-Joint Doll) โดยเรียกตามส่วนประกอบที่สำคัญ ผู้ที่นำเข้าเป็นเอกรายย่อย สั่งตรงจากแหล่งผลิตในจีน เกาหลี หรือ ญี่ปุ่น โดยเลือกสรรค์รูปร่างหน้าตา ให้ต้องตามรสนิยมของลู กค้าในนครใหญ่ทางภาคใต้ของประเทศ และนำเข้าเป็นตุ๊กตายางโล้นๆ ก่อนจะนำไปเสริมแต่งอีกที ทั้งวิกผม เมกอัป เสื้อผ้าอาภรณ์กับรองเท้าซึ่งล้วนแต่เป็นวัสดุคุณภาพดี ซึ่งทำให้ราคาสูงขึ้นอย่างน่าใจหาย
ปัจจุบันทำออกมามากมายหลายขนาด สูงตั้งแต่ 60-70 ซม. 40-45 ซม. รวมทั้งขนาดเล็ก 15-30 ซม.ก็มี ทั้งนี้เพื่อตอบสนองความสนใจของกลุ่มคนหลากหลาย นอกจากนั้นยังมีขนาดใหญ่พิเศษ คือเท่าๆ กับหญิงสาวทั่วไป สูตั้งแต่ 150-160 ซม. ที่จะต้องสั่งพิเศษ ยิ่งขนาดใหญ่ขึ้น ก็ยิ่งได้รับความสนใจมากยิ่งขึ้นจากลูกค้ากลุ่มคนหนุ่มคนสาวมากขึ้น ผู้ค้าที่ชื่อ "คา" (Kha) บอกกับเว็บไซต์แห่งนี้
ตุ๊กตาที่มีรูปร่างกับหน้าตาน่ารักน่าชังเหล่านี้ เมื่อแต่งเสร็จสรรพ ขนาดเล็กไปหาใหญ่ จะมีราคาตัวละตั้งแต่ 300 หรือ 500 ไปจนถึงกว่า 1,000 ดอลลาร์ และ กว่านั้นสำหรับไซส์พิเศษ ซึ่งนายคากล่าวในรายละเอียดว่า เฉพาะค่าวิกผมที่ทำจากเส้นผมจริง ก็ตกหัวละ 5 แสน - 1 ล้านด่ง (24-30 ดอลลาร์) เสื้อผ้าคุณภาพดีอีก 100-300 ดอลลาร์ ค่าแต่งหน้าทาสี เพื่อให้ออกมาสวยงามอีกจิปาถะ ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายนักในการปลุกชีพตุ๊กตาพลาสติก ให้ออกมาดูเป็นคนที่มีชีวิตชีวา
ตุ๊กตา BJD ผลิตออกสู่ตลาดครั้งแรก อย่างน้อยที่สุดก็ตั้งแต่ปี 2553 โดยทำออกมาเป็นขนาดตุ๊กตาธรรมดาทั่วไป ไม่ได้มุ่งหวังจะใช้ดึงดูดความสนใจทางเพศ ให้ผู้คนซื้อขายกันไปเพื่อใช้ "แต่งตัวตุ๊กตา" แบบเดียวกับตุ๊กตาบาร์บี้ยอดฮิต แต่ BJD ผลิตจากวัสดุสมัยใหม่ที่มีคุณภาพดีกว่า มีรูปร่างหน้าตาให้เลือกมากกว่า แต่เมื่อมีการผลิตขนาดใหญ่ขึ้น จุดขายทางการตลาดก็เริ่มเปลี่ยนไป.
ในตลาดเรียกของเล่นชนิดนี้ว่า "ตุ๊กตาข้อพับลูกปืน" (Ball-Joint Doll) โดยเรียกตามส่วนประกอบที่สำคัญ ผู้ที่นำเข้าเป็นเอกรายย่อย สั่งตรงจากแหล่งผลิตในจีน เกาหลี หรือ ญี่ปุ่น โดยเลือกสรรค์รูปร่างหน้าตา ให้ต้องตามรสนิยมของลู กค้าในนครใหญ่ทางภาคใต้ของประเทศ และนำเข้าเป็นตุ๊กตายางโล้นๆ ก่อนจะนำไปเสริมแต่งอีกที ทั้งวิกผม เมกอัป เสื้อผ้าอาภรณ์กับรองเท้าซึ่งล้วนแต่เป็นวัสดุคุณภาพดี ซึ่งทำให้ราคาสูงขึ้นอย่างน่าใจหาย
ปัจจุบันทำออกมามากมายหลายขนาด สูงตั้งแต่ 60-70 ซม. 40-45 ซม. รวมทั้งขนาดเล็ก 15-30 ซม.ก็มี ทั้งนี้เพื่อตอบสนองความสนใจของกลุ่มคนหลากหลาย นอกจากนั้นยังมีขนาดใหญ่พิเศษ คือเท่าๆ กับหญิงสาวทั่วไป สูตั้งแต่ 150-160 ซม. ที่จะต้องสั่งพิเศษ ยิ่งขนาดใหญ่ขึ้น ก็ยิ่งได้รับความสนใจมากยิ่งขึ้นจากลูกค้ากลุ่มคนหนุ่มคนสาวมากขึ้น ผู้ค้าที่ชื่อ "คา" (Kha) บอกกับเว็บไซต์แห่งนี้
ตุ๊กตาที่มีรูปร่างกับหน้าตาน่ารักน่าชังเหล่านี้ เมื่อแต่งเสร็จสรรพ ขนาดเล็กไปหาใหญ่ จะมีราคาตัวละตั้งแต่ 300 หรือ 500 ไปจนถึงกว่า 1,000 ดอลลาร์ และ กว่านั้นสำหรับไซส์พิเศษ ซึ่งนายคากล่าวในรายละเอียดว่า เฉพาะค่าวิกผมที่ทำจากเส้นผมจริง ก็ตกหัวละ 5 แสน - 1 ล้านด่ง (24-30 ดอลลาร์) เสื้อผ้าคุณภาพดีอีก 100-300 ดอลลาร์ ค่าแต่งหน้าทาสี เพื่อให้ออกมาสวยงามอีกจิปาถะ ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายนักในการปลุกชีพตุ๊กตาพลาสติก ให้ออกมาดูเป็นคนที่มีชีวิตชีวา
ตุ๊กตา BJD ผลิตออกสู่ตลาดครั้งแรก อย่างน้อยที่สุดก็ตั้งแต่ปี 2553 โดยทำออกมาเป็นขนาดตุ๊กตาธรรมดาทั่วไป ไม่ได้มุ่งหวังจะใช้ดึงดูดความสนใจทางเพศ ให้ผู้คนซื้อขายกันไปเพื่อใช้ "แต่งตัวตุ๊กตา" แบบเดียวกับตุ๊กตาบาร์บี้ยอดฮิต แต่ BJD ผลิตจากวัสดุสมัยใหม่ที่มีคุณภาพดีกว่า มีรูปร่างหน้าตาให้เลือกมากกว่า แต่เมื่อมีการผลิตขนาดใหญ่ขึ้น จุดขายทางการตลาดก็เริ่มเปลี่ยนไป.
Credit:
PostJung
PatPuch
