ที่เห็นอยู่ในภาพคือ ต้นแบบของแบตเตอรี่เหลว ซึ่งทีมวิจัยจากสถาบันเทคโนโลยีแห่งแมสซาชูเซตส์ (เอ็มไอที) สหรัฐอเมริกา คิดค้นขึ้นมาสำหรับใช้เพื่อการกักเก็บพลังงานไฟฟ้าส่วนเกินจากการใช้ ที่ผลิตได้จากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ และโรงไฟฟ้าพลังลมในช่วงเวลาที่สภาพแวดล้อมอำนวยให้ผลิตได้มากกว่าปกติ เพื่อเก็บไว้จ่ายให้กับผู้ใช้ในโครงข่ายไฟฟ้าในยามที่สภาพแวดล้อมไม่อำนวยให้ผลิตกระแสไฟฟ้าได้ อาทิ ลมนิ่ง หรือในตอนกลางคืนที่ไม่มีแสงแดด เป็นต้น
แบตเตอรี่ดังกล่าว ถูกคิดค้นขึ้นเพื่อทดแทนการใช้แบตเตอรี่แห้งหรือกึ่งแห้ง ซึ่งเมื่อต้องใช้รองรับกระแสไฟฟ้าที่ผลิตได้มากๆ จำเป็นต้องใช้ขนาดใหญ่หรือในปริมาณมากจนทำให้ต้นทุนไฟฟ้าสูงขึ้นโดยไม่จำเป็น แบตเตอรี่แบบเหลวใหม่ของเอ็มไอทีสามารถผลิตได้ง่ายกว่าและถูกกว่า
ทั้งยังมีอายุการใช้งานนานกว่าแบตเตอรี่แบบเดิม โดยแบตเตอรี่เหลวรุ่นใหม่ที่ผลิตจากลิเธียมและพลวงในสภาพของเหลวภายใต้อุณหภูมิ 450 องศาเซลเซียส ผ่านการทดสอบชาร์จและคายประจุต่อเนื่องถึง 18,000 ชั่วโมง ทำให้ประเมินได้ว่า ภายในเวลา 10 ปี แบตเตอรี่นี้จะสูญเสียศักยภาพในการเก็บประจุไปเพียง 15 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นเอง
ก่อนหน้านี้ทีมวิจัยเลือกใช้แมกนีเซียมและพลวง แต่เปลี่ยนมาเป็นวัสดุผสมระหว่างลิเธียมกับพลวงแทน เพราะหลอมเหลวในอุณหภูมิที่ต่ำกว่าและราคาวัสดุถูกกว่านั่นเอง