เขากล่าวว่า เสียงอะซานเหมือนผลักดันให้เขาต้องค้นหาความจริงเสียงนี้ทําให้เกิดความรู้สึกที่บรรยายไม่ถูกแผ่ซ่านไปทั่วร่างและทําให้เขาต้องยืนตะลึงตัวแข็งเป็นเวลานานและเขารู้สึกมีความสุขที่ได้เข้ารับอิสลามซึ่งเป็นศาสนาที่ยิ่งใหญ่ของโลก

หลังเข้ารับอิสลามได้ไม่นาน เขามีความตั้งใจจะเดินทางไปทําอุมเราะฮฺโดยเริ่มขับรถออกจากโมร็อคโค ไปยังมอริตาเนียเบอร์กิน่า ฟาโซ และประเทศไนเจอร์รวมระยะทาง 7,000 กิโลเมตร เขาไปยังสถานทูตซาอุดี้เพื่อขอวีซ่าอุมเราะห์แต่ได้รับคําตอบว่า ต้องขอผ่านเอเจนซี่ล่วงหน้าแต่เจ้าหน้าที่สัญญาจะช่วยเขาอย่างเต็มที่ ระหว่างที่รออยู่ในไนเจอร์ทุกวันเขาเฝ้าขอดุอาอฺให้ความฝันที่จะไปมักกะฮฺกลายเป็นความจริง

แต่เมื่อเวลาผ่านไปนานเข้าเขาก็เริ่มสิ้นหวัง และเตรียมเก็บของกลับฝรั่งเศสแต่ระหว่างทางไปสนามบิน เขากลับได้รับโทรศัพท์จากสถานทูตซาอุดี้ในไนเจอร์แจ้งว่า เขาได้รับเลือกให้เป็น 1 ในแขกของกษัตริย์อับดุลเลาะฮฺ 1,000 คน ที่จะได้ไปประกอบพิธีฮัจญ์ในปีนี้

ฮัมซะกล่าวว่า ความยากลําบากและปัญหาต่างๆ มลายหายไปทันทีที่เขาและภรรยาได้มาเห็นกะอฺบะอฺ เขาต้องขอขอบคุณอัลเลาะฮฺ (ซ.บ.) และกษัตริย์ซาอุดี้ซึ่งให้โอกาสที่ยิ่งใหญ่นี้แก่เขา

อาซาน (أَذَان) (Athaan) คือการประกาศให้รู้ถึงการเข้าสู่เวลาละหมา­ดด้วยคำกล่าวที่เฉพาะ

-- การอะซานเป็นการประกาศให้รู้ถึงเวลาทำละหม­าดแล้ว และยังหมายถึงการเรียก การเชิญชวน ให้ไปร่วมทำละหมาดในสถานที่เดียวกัน หรือละหมาดญะมาอะฮฺ (ละหมาดร่วมกัน)ซึ่งจะทำให้เกิดประโยชน์อันมากมาย

-- การอะซานเป็นการแจ้งเตือนต่อผู้ที่เผลอจาก­การละหมาด และเป็นการระวังเตือนต่อผู้ที่หลงลืมละหมาดเพื่อให้ทำการละหมาดเสีย

การอะซานเป็นนิอฺมัตที่ยิ่งใหญ่ เป็นสิ่งที่จะนำมาซึ่งความใกล้ชิดระหว่างบ­่าวกับอัลลอฮฺ และการอะซานนั้นเป็นการเรียกร้องสำหรับมุส­ลิมเพื่อไม่ให้พลาดนิอฺมัตอันนี้

เรียบเรียงโดยมุสลิมไทยโพส