เรื่องราวของ “สตีฟ จ็อบส์” กับความเป็นพ่อ และการดูแลครอบครัว

 

 

 

 

 

วันนี้ (5 ต.ค.) ครบรอบ 3 ปีการจากไปของ “สตีฟ จ็อบส์” ชายผู้เป็นแรงบันดาลใจให้กับใครหลายคน ทั้งด้านความคิด, ธุรกิจ และการสร้างสรรค์สินค้าที่ผู้ใช้ชื่นชอบ ด้านหนึ่งที่น่าชื่นชมในตัวจ็อบส์มาก และไม่ค่อยมีคนพูดถึง คือความรักในครอบครัว การดูแลลูกๆ ทุกคนอย่างที่ควรจะเป็น และความเป็น “พ่อ” ที่ดีเยี่ยม

ทีมงาน MacThai ขอใช้ช่วงเวลาครบรอบ 3 ปีการจากไปของสตีฟ จ็อบส์ รำลึกถึงแง่มุมน่ารักๆ อีกมุมหนึ่งที่หลายท่านอาจจะไม่เคยทราบมาก่อนครับ

ความเป็นพ่อ

จ็อบส์เริ่มต้นการเป็นพ่อในวัยรุ่นที่แย่สุดขั้ว ทำแฟนท้องแล้วไม่รับ, ไม่ดูแลลูกสาวตัวเอง, มีปัญหาถึงขนาดที่ภายหลังเขาบอกว่าเกลียดตัวเองในช่วงนั้นมากที่สุด

แต่หลังจากนั้นมาจ็อบส์ก็เปลี่ยนไป เขาพบความรักที่แท้จริง เขาแต่งงานกับลอรีน พาวเวลล์ มีลูกด้วยกัน 3 คน และรับลูกสาวที่เกิดในช่วงวัยรุ่นมาเลี้ยงดู เหมือนเป็นลูกแท้ๆ คนหนึ่ง

จ็อบส์เป็นคนรักครอบครัวมาก แม้ชื่อเสียงของเขาจะโด่งดังทั่วโลก แต่เขาเก็บครอบครัวให้อยู่ห่างจากสื่อภายนอก แม้จะมีเงินนับหมื่นล้าน แต่บ้านของจ็อบส์ก็ไม่ใช่คฤหาสน์หรู เป็นแค่บ้านหลังเล็กๆ เรียบง่าย ไม่มีรปภ.คอยดูแลแบบบ้านซีอีโอคนอื่นๆ

ลูกทุกคนเรียนหนังสือในแบบเด็กทั่วไป ไม่ได้เป็นลูกคุณหนูคุณนายแบบลูกดารา

เมื่อจ็อบส์พบรักแท้

ในช่วงวัยรุ่น จ็อบส์เป็นมหาเศรษฐีหนุ่มที่สาวๆ ไฝ่ฝันถึง ประกอบกับหน้าตาที่หล่อเหลาเอาการ ทำให้อยู่ในระดับที่เลือกสาวสวยระดับดาราหรือนางงามมาเป็นคู่ครองได้ไม่ยากเย็นนัก

จ็อบส์ในวัย 34 ปี หลังจากที่ถูกไล่ออกจากแอปเปิล เขาก็ได้เลิกการเป็นหนุ่มเพลย์บอย และได้พบกับลอรีน พาวเวลล์ นักศึกษามหาลัยสแตนฟอร์ด ทั้งคู่ตกหลุมรักกันอย่างจัง แต่ก็ไม่เคยคุยเรื่องแต่งงาน จนคืนหนึ่ง

ในช่วงปี 1989 จ็อบส์ได้เดินตากฝนมาที่อพาร์ตเมนต์ของลอรีน แม้ตัวจะเปียกปอน แต่เขากลับถือดอกไม้ป่าที่เขาเด็ดมา เขาไม่รู้ตัวเองว่ามหาเศรษฐีหนุ่มผู้โด่งดัง จะมีสภาพเป็นอย่างไร เพียงแต่ในนาทีนั้น เขารู้เพียงว่ากำลังตกหลุมรักผู้หญิงคนนี้ และต้องการที่จะขอเธอแต่งงาน ลอรีนตอบตกลง

และทั้งคู่ก็ได้แต่งงานกันในช่วงเดือนมีนาคมปี 1991 โดยมีลิซ่า ลูกสาวของจ็อบส์ในช่วงวัยรุ่นมาร่วมด้วย (ภายหลังจ็อบส์รับเธอกลับมาเลี้ยงดูอย่างดี) เป็นจุดเริ่มต้นชีวิตครอบครัวใหม่อย่างแท้จริง

จ็อบส์สอนลูกอย่างไร

เขาแยกโลกของการทำงาน กับการดูแลครอบครัวออกจากกันอย่างสิ้นเชิง ที่บ้านจ็อบส์เป็นสามี และพ่อของลูกๆ เขาไม่ยอมแม้แต่ให้ลูกๆ ใช้ iPhone, iPad ที่ตัวเองสร้างขึ้น เพราะคิดว่ามันยังไม่ถึงวัยของเด็กๆ เขาเป็นคนที่สอนลูกอย่างเข้มงวด ไม่ปล่อยให้เด็กเหลิงไปกับการเป็นลูกคนที่มีอิทธิพลสูงที่สุดคนหนึ่งของโลก

ครั้งหนึ่งเมื่อแอปเปิลเกิดปัญหากรณี iPhone 4 สัญญาณโทรศัพท์ตก (Athena Gate) ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ที่สุดในรอบหลายปีที่แอปเปิลเคยเจอมา จ็อบส์เรียกทีมงานระดับท็อปในบริษัททุกคน ที่ปรึกษาระดับโลก เอเจนซี่โฆษณาระดับเทพ และเขาพา “รี๊ด” ลูกชายของเขา ซึ่งกำลังเรียนระดับม.ปลาย มานั่งอยู่ในห้องประชุมด้วย

เขาเล่าว่าในการประชุมแบบไม่ได้พักตลอด 2 วันนี้ ลูกชายของเขาจะได้เรียนรู้อะไรมากกว่าเรียนคณะบริหารธุรกิจในมหาลัยซะอีก เขาเชื่อว่าลูกชายจะได้เห็นกลุ่มคนที่เก่งที่สุดในโลกมานั่งถกเถียงเรื่องสำคัญ จ็อบส์เล่าเรื่องนี้พร้อมกับน้ำตาที่เอ่อขึ้นมาว่า

“ผมทำทั้งหมดนี้เพื่อให้ลูกดู เพียงเพื่อให้ลูกได้มีโอกาสได้เห็นผมทำงาน ลูกจะได้เห็นพ่อทำงาน”

 

ความลับที่ไม่ต้องการบอกใคร

เป็นที่รู้กันว่าแอปเปิลเป็นบริษัทเจ้าแห่งความลับ และเก็บตัวจากโลกภายนอกมาก ซึ่งก็เป็นบุคลิกที่มาจากตัวจ็อบส์เอง เขาเป็นคนไม่ชอบให้คนภายนอกมารู้จักเรื่องส่วนตัว นอกจากงานและสินค้าที่เขาทำแค่นั้น

แต่แล้วเขากลับทำสิ่งที่เปิดเผยความลับ ชีวิตจริง และเรื่องราวของเขาทั้งหมด ในหนังสือที่ชื่อ “Steve Jobs” ซึ่งหลายต่อหลายคนที่ได้ยินข่าวนี้ถึงกับตกตะลึง และไม่คิดว่าจ็อบส์จะออกมาเปิดเผยเรื่องราวในชีวิตของเขาได้ขนาดนี้ แม้แต่ตัว Walter Isaacson ผู้เขียนหนังสือเองก็เช่นเดียวกัน

ระหว่างที่การทำหนังสือมาถึงช่วงท้าย และจ็อบส์ก็เจอปัญหาด้านสุขภาพอย่างหนัก จนแทบจะไม่มีแรงลุกออกจากเตียง แต่เขาก็พยายามอย่างถึงที่สุด ที่จะทำหนังสือเล่มนี้ให้สำเร็จจงได้ จนวอลเตอร์ ผู้สัมภาษณ์และเขียนหนังสือเล่มนี้ถามขึ้นมาว่า ทำไมเขาถึงต้องทำขนาดนี้ด้วย จ็อบส์ตอบอย่างตรงไปตรงมาว่า

“ผมอยากให้ลูกๆ รู้จักผม”

“ผมไม่ค่อยมีเวลาให้ลูกๆ ผมอยากให้ลูกเข้าใจในสิ่งที่ผมทำ รู้ว่าทำไมผมถึงทำสิ่งต่างๆ”

ซึ่งหนังสือเล่มนี้คือสิ่งสุดท้ายที่สตีฟ จ็อบส์ได้หลงเหลือเอาไว้ เขาไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง แต่เขาทำเพื่อให้ลูกๆ ของเขาได้รู้จักตัวตน “พ่อ” ของเขาจริงๆ

เรียบเรียงโดย
ทีมงาน MacThai

 
ที่มา: http://www.macthai.com/2014/10/05/the-story-of-steve-jobs-and-his-love-for-family/
Credit: http://board.postjung.com/813158.html
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...