เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก คุณ แอปเปิ้ลในสวนเอเดน สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
ครูนัดประชุมผู้ปกครอง แต่แอบหลอกขายตรง บอกเป็นหลักสูตรแรกที่จะทำให้ลูกหลานมีเงินใช้เป็นแสน ๆ เรียกหลักสูตร ม.ปลาย สายอาชีพ ให้จ่าย 550 บาท เพื่อไปทัศนศึกษาดูงานดังกล่าว ชาวเน็ตด่าเพียบ
เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์สนั่นโลกออนไลน์เลยทีเดียว เกี่ยวกับกรณีที่ คุณ แอปเปิ้ลในสวนเอเดน สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ได้เล่าเรื่องราวประสบการณ์การประชุมผู้ปกครองที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง ย่านสำโรง แต่เมื่อเข้าไปกลับพบว่า อาจารย์พยายามบอกว่า การเรียนต่อมหาวิทยาลัยจบไปก็เป็นแค่ลูกจ้าง หนำซ้ำบางคนจบมาก็ไม่มีงานทำ เลยเสนอแนะทางเลือกด้วยการหยิบยื่นธุรกิจ "HLP = Happy Life Project" ที่ไม่ต้องเรียนต่อก็มีรายได้เลย ทำแค่ 3-6 เดือน ก็มีเงินเป็นแสน ๆ
ทั้งนี้เจ้าของกระทู้คิดว่าอาชีพดังกล่าวคือการขายตรง ถึงแม้อาชีพนี้จะเป็นอาชีพสุจริตก็ตาม แต่ก็ไม่ควรหลอกให้ผู้ปกครองที่บางท่านอาจจะต้องลางานมา (ประชุมวันธรรมดา) เพื่อมาฟังเรื่องราวที่ไม่เกี่ยวกับพฤติกรรมของลูกหลานเลย และทวงถามจรรยาบรรณของความเป็นครูว่าหายไปไหน.. เพราะสอนให้เด็กไม่ต้องเรียน เพื่อที่จะมาสมัครขายตรงและเป็นดาวน์ไลน์ของตัวเอง โดยเรื่องราวดังกล่าวถูกบอกเล่าผ่านกระทู้ที่มีชื่อว่า "ประสบการณ์ประชุมผู้ปกครองครั้งแรก เป็นไปได้ถึงขนาดนี้แล้วเหรอ" โพสต์เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2557 พร้อมโพสต์รูปภาพหลักฐานแบบชัด ๆ ไว้ให้ชมด้วย
งานนี้ บรรดาชาวเน็ตต่างวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างเผ็ดร้อน พร้อมให้ช่วยกันกระพือข่าวนี้ เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบ เนื่องจากการกระทำดังกล่าวเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม และครูไม่ควรใช้เด็กและผู้ปกครองเป็นเครื่องมือในการทำมาหากิน ซึ่งข้อความทั้งหมดมีดังนี้...
"ประสบการณ์ประชุมผู้ปกครองครั้งแรก เป็นไปได้ถึงขนาดนี้แล้วเหรอ
เมื่อวันก่อนได้มีโอกาสไปประชุมผู้ปกครองกับเพื่อนสาวให้น้องชายของนางซึ่งเรียนอยู่ ม.4 โรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดสมุทรปราการ (ซอยวัดด่านสำโรง) ทีแรกไม่อยากไปหรอก เพราะขึ้นชื่อว่าประชุม มันเป็นอะไรที่น่าเบื่ออยู่แล้ว แต่นางขอร้องให้ไปเป็นเพื่อน เพราะไม่แน่ใจอะไรบางอย่าง เราก็ไปวะ !! แต่ก็แอบคิดในใจว่า "โรงเรียนอะไรนัดประชุมผู้ปกครองวันธรรมดา ผู้ปกครองไม่ต้องทำการทำงานรึ ?" อาจารย์ผู้หญิงท่านหนึ่งก็มาพาไปประชุมในห้องประชุมในส่วนที่เป็นของอาจารย์นั่งสักพัก อาจารย์ผู้หญิงก็เริ่มเข้าสู่การบรรยายวัตถุประสงค์ว่า ที่จัดการประชุมมาเพื่อให้ผู้ปกครองได้มาเห็นการวางแผนอนาคตของเด็กที่ชัดเจน โรงเรียนเรามุ่งสอนเด็กห้องนี้ (หืม ? ทำไมต้องแค่ห้องนี้ ?) ให้เรียนเพื่อจบออกไปเป็นเจ้าของธุรกิจ ไม่ใช่ไปเป็นลูกจ้าง (อ่อเหรอ..อืม ๆ )แล้วนางก็ส่งไม้ต่อให้อาจารย์สาวอีกท่านหนึ่งมาทำหน้าที่บรรยายต่อ
อาจารย์สาวเริ่มชักนำว่าในปัจจุบันเด็กเรียนจบ ป.ตรี แต่ตกงานกันเป็นแถว แล้วเราจะเรียนกันไปทำไม (หืมมม ??) หลักสูตรการศึกษานี้ที่ทางโรงเรียนกำลังจะมอบให้ลูกหลานของท่านเป็นหลักสูตรแรกในประเทศไทยที่จะทำให้ลูกหลานของท่านจบ ม.6 ออกมาแล้วมีรายได้เลย ไม่จำเป็นต้องเรียนจบ ป.ตรี (หืมมมม ????) เราก็ เออ !! เว้ยยย !! มีแบบนี้ด้วยเหรอวะ !? สมัยเรามีแต่ครูบาอาจารย์สอนให้ตั้งใจเรียนจบออกมาจะได้ทำงานสบาย ๆ เป็นเจ้าคนนายคน โรงเรียนนี้ดีเนอะ สอนว่าไม่ต้องเรียนสูงก้อสร้างรายได้สูงได้ !!
เราก็ เออ !! ไหนยังไง ต่อสิ ๆๆ นางบอกว่าหลักสูตรนี้เป็น ม.ปลายสายอาชีพ (??) เน้นให้นักเรียนมีรายได้เมื่อเรียนจบ เพราะในปัจจุบันรายได้สำคัญกว่าอาชีพ ทุกคนอยากมีรายได้สูงทั้งนั้น (จ้ะ !! อันนี้ไม่เถียง) นางบรรยายต่ออีกว่า ในปัจจุบัน เด็กจบ ป.ตรี ออกมาตกงานเยอะแยะ ส่วนที่ทำธุรกิจส่วนตัวก้อต้องแบกรับความเสี่ยงเพราะฉะนั้น เรา (หมายถึงพวกอาจารย์) จึงมุ่งหวังให้เด็กสร้างรายได้เองเลยโดยที่จะดีแค่ไหนถ้า จบ ม.6 แล้วทำงานแค่ 3-6 เดือนก้อมีรายได้ 1 แสน/เดือน
เอาล่ะสิ !!! ตอนนี้ต่อมเอ๊ะ !! ของเราเต้นระรัว แบบเฮ้ยยย !! อย่าบอกนะหลังจากนั้นนางก็บรรยายถึงรายได้เดือนละล้าน ทำ 3-5 ปีเกษียณได้เลยวินาทีนั้น เราหันไปสบตากะเพื่อน นางพยักหน้าและถามเราผ่านสายตาว่า "ใช่แบบที่ชั้นคิดมั้ยแก ?" เราเก็ทเลย เมื่ออาจารย์ผู้หญิงขึ้นไวท์บอร์ดถึงชื่อหลักสูตร (ตามที่นางอ้าง) ว่า
"HLP = Happy Life Project" !!!!!! ผ่างงงงงง !!! เราเก็ทเลยจ้ะ และเริ่มโมโหด้วย คือคำถามที่อยู่ในใจอยากลุกขึ้นถามมาก แต่เพื่อนขอไว้เพราะนางกลัวน้องนางอยู่ยาก
เราสงสัยมากว่า..
- ทำไมต้องเอาขายตรงมามอมเมาเด็กและผู้ปกครองในสถานศึกษา
- หลักสูตรการเรียนการสอนที่คุณอ้างว่าเด็กรุ่นนี้แสนจะโชคดีที่ได้เรียนนั้น ได้รับการรับรองจากกระทรวงแล้วหรอ ?
- คุณกรอกหูนักเรียนว่าเรียนสูงไปก้อตกงาน สู้หารายได้ไปเลยดีกว่า นี่คือคำพูดที่แม่พิมพ์ของชาติควรพูดหรอ ?
ตอนนั้นเราเดือดมากกก !! (เหมือนเรื่องตัวเอง) จริงอยู่อาชีพขายตรงเป็นอาชีพสุจริตแต่คุณไม่ควรใช้เด็กและผู้ปกครองเป็นเครื่องมือป่าวคะ !!? และนี่ก็ในสถานศึกษาไม่ใช่สำนักงานขายของคุณ !!เราเริ่มงง ที่เห็นผู้ปกครองบางคน เออ ออ เห็นดีด้วย แม้กระทั่งการพาเด็กออกนอกสถานที่โดยอ้างว่าไปทัศนศึกษาโดยใช้วันและเวลาเรียนเนี่ยนะ !! นางบอกเป็นกิจกรรมหนึ่งของหลักสูตรบ้าบอคอแตกนั่น !!ที่เด็ดคือ ช่วงไฮไลท์ของการประชุม พวกนางกล่าวว่า จะมีการจัดกิจกรรมอบรมบอกสถานที่ในวันที่ 17-18 ต.ค.นี้ ที่อิมแพ็ค โดยต้องการให้เด็ก ๆ และผู้ปกครองเข้าร่วม เพราะจะได้ไปเห็นอนาคตของเด็ก ๆ
โอ๊ยยยยยยย บ้าไปแล้ว !! สมัยนี้เห็นอนาคตกันง่ายขนาดนี้นี่ดีเนอะพวกนางบอกว่า นี่ไม่บังคับ แต่แค่อยากให้ไป (เอ๊ะ ยังไง) เพราะมีประโยชน์มากจ้ะ !! เต็มที่เลยจ้ะ เอาที่สบายใจนะคะคุณครู !!! - -"
หลังจากนั้นเราไม่อยากฟังแล้ว รู้แค่ว่า นางเอาบัตรมาขาย บอกเป็นบัตรหายากมากมีเป็นหมื่นๆก้อหาซื้อไม่ได้ ใครจะเอาบอกเลย (เอ๊ะ !! ไหนบอกหายาก)และที่สำคัญคือ มีค่าใช้จ่าย 550 บาท/คน !!!
เราค่อนข้างสลดใจ ที่เห็นผู้ปกครองบางท่าน ยินดีมากที่จะเสียเงินแค่ 550 บาท กับการวางแผนและการได้เห็นแนวทางอนาคตของลูกหลังจากนั้น ท่าน ผอ. ของโรงเรียนก้อเข้ามาสรุป ๆ การประชุมและเริ่มขายตรงสินค้าที่จะทำให้รูปร่างและบุคลิกภาพของผู้ปกครองดูดี ลูกหลานจะได้ไม่อายเวลาพาไปไหนมาไหน (เกี่ยวมั้ย !? - -")
เค้าก้อบรรยายรัยอีกไม่รู้ บลา ๆๆ เราเริ่มไม่สนใจ คิดแต่อยากออกจากห้องจะแย้งก้อกลัวน้องเพื่อนเดือดร้อน อยู่ยาก ซึ่งเราก้อเข้าใจหลังจากออกจากห้องประชุม เราบอกเพื่อนคำเดียวว่า "ย้ายโรงเรียนเหอะ"
เราไม่เถียงนะ ว่างานขายตรงเป็นอีกอาชีพสุจริต ที่ใครอยากทำก้อทำ ไม่ผิดแต่การที่คุณปลูกฝังแนวคิดแบบนี้ให้เด็ก มันผิด !! คุณใช้สถานศึกษาทำแบบนี้มันไม่ตรงตามวัตถุประสงค์ไอ้อาชีพ แนวคิดที่คุณ ๆ ใส่หัวเด็กและผู้ปกครองไป มันอาจทำลายอนาคตอันสดใสของอีกหลาย ๆ ชีวิตหากเด็กคิดว่าที่ครูบาอาจารย์พูดมันดี มันถูก จบมาไม่เรียน ตั้งหน้าตั้งตาขายตรง (หรืออะไรก็ตามที่คุณเรียก) อนาคตที่ควรจะเป็น อนาคตที่อาจจะสดใสของเด็ก ๆ ล่ะ ใครจะรับผิดชอบ !!!จริงอยู่ที่เด็ก ๆ เหล่านี้โดนกล่อมเกลา (ล้างสมอง) ง่าย แต่นั่นเป็นเพราะเค้าศรัทธาในวิชาชีพคุณ !! คุณใช้วิชาชีพอันทรงเกียรติที่มีมานานกล่อมเกลาเด็กและผู้ปกครอง ซึ่งมันไม่ควรป่ะคะ !!?
สุดท้ายนี้เพื่อนเราให้น้องย้ายห้อง อาจารย์ก้อไม่อนุมัติ สงสัยจะได้ลาออกมาเรียน กศน. แน่ ๆ เราไม่รู้นะว่าอาชีพนี้มันดีในสายตาใครยังไง แต่เราเห็นว่าไม่ควรเลยที่ ผอ. และครูบางส่วน จะมาทำเช่นนี้เพราะอนาคตใคร คน ๆ นั้นก็ควรเป็นคนเลือก ไม่ควรปลูกฝังแนวคิดที่ผิด ๆ เพราะอนาคตเด็กไม่ใช่เกม เดินพลาดแล้วพลาดเลย เรียกคืนเวลาและโอกาสที่ดีกลับคืนมาไม่ได้ !!"