ห่วงคนไทยป่วยโรคเกี่ยวกับตา จากการใช้มือถือมาก

กรุงเทพฯ 2 ต.ค.- จักษุแพทย์ห่วงคนไทยมีแนวโน้มเป็นโรคกลุ่มอาการ “คอมพิวเตอร์วิชั่นซินโดรม” ที่เกี่ยวข้องกับตามากขึ้น จากการใช้สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต เพ่งหน้าจอนาน แสงสว่างจ้า ระยะยาวทำให้จอตาเสื่อม โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นมีความเสี่ยงมากเมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุ แนะแต่ละวันไม่ควรใช้เกิน 8 ชั่วโมง และควรพักสายตาทุก 2 ชั่วโมงด้วยการเปลี่ยนไปทำกิจกรรมอื่นๆ  

นพ.นริศ กิจนรงค์ ภาควิชาจักษุวิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวในงานเสวนาสุขภาพ ให้ผู้เข้าร่วมงาน Thailand Mobile Expo 2014 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ตระหนักถึงความสำคัญของสุขภาพตา โดยกล่าวว่าคนไทยมีแนวโน้มเป็นโรคกลุ่มอาการคอมพิวเตอร์วิชั่นซินโดรมมากขึ้นเหมือนกับที่เกาหลีและญี่ปุ่นประสบ จากความเจริญทางเทคโนโลยี ซึ่งมีการใช้แท็บเล็ตและสมาร์ทโฟน ซึ่งเป็นอุปกรณ์ในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์คอมพิวเตอร์เหมือนกัน ทำให้เด็ก 2 ประเทศมีปัญหาสายตาสั้นมากขึ้นจากการจับจ้องของตาไปที่อุปกรณ์เหล่านี้ และภาวะสายตาสั้นทำให้เกิดอาการเสี่ยงต่อวุ้นตาเสื่อม จอตาลอกตัวและจอตาเสื่อม โดยขณะนี้พบคนไข้ที่มารักษาด้วยอาการปวดตา ตามัว บางครั้งคลื่นไส้ อาเจียนโดยไม่ทราบสาเหตุ ถามไปเรื่อยๆ พบว่ามีการใช้สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตมาก เพราะอุปกรณ์สมัยใหม่มีจอใหญ่ ตัวหนังสือเล็กก็เพ่งมองมากขึ้น ทำให้มีอาการดังกล่าว
   
ทั้งนี้ การจ้องมองแสงมากๆ จะมีแสงที่มองเห็นและไม่เห็น ในกลุ่มที่มองไม่เห็นที่สำคัญคือแสงอุลตราไวโอเลตซึ่งมีประโยชน์ช่วยฆ่าเชื้อโรคในร่างกายแต่โทษมากกว่า คือมาที่ผิวหนังทำให้เหี่ยวแต่ถ้าเป็นดวงตา ไปเยื่อบุตาขาว ทำให้เป็นต้อเนื้อ ต้อลม ไปที่เลนส์ตาทำให้เป็นต้อกระจกแต่ที่สำคัญมากคือแสงอุลตราไวโอเลต พอจ้องไปจอตามากๆ ทำให้เกิดภาวะจอตาเสื่อม ซึ่งเป็นภาวะที่รักษายาก ทั้งนี้ กลุ่มจอตาเสื่อม ต้อกระจก ต้อเนื้อ ต้อลม จะพบในคนที่รับแสงแดด แสงอุลตราไวโอเลตเป็นเวลานาน โดยพบกลุ่มนี้ในคนสูงอายุ และเจนเนอเรชั่นใหม่ที่ใช้แท็บเล็ต ใช้สมาร์ทโฟนต่างๆ มากขึ้น  กลุ่มนี้เมื่อโตขึ้นไปในอนาคตมีโอกาสเป็นโรคมากขึ้น ดังนั้น ควรป้องกันตั้งแต่วันนี้

“คอมพิวเตอร์วิชั่นซินโดรมคือพวกอุปกรณ์ต่างๆ ไม่ใช่คอมพิวเตอร์อย่างเดียว แท็บเล็ต สมาร์ทโฟน วิชั่นคือสายตา ซินโดรมคือโรค โรคที่เกิดจากการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เกี่ยวกับกลุ่มของคอมพิวเตอร์ ถ้าใช้ไป 2 ชั่วโมงจะเริ่มปวดคอ ตาพร่ามัว บางครั้งคลื่นไส้ อาเจียน เวียนศีรษะ คำแนะนำ ใช้แท็บเล็ต ไอโฟน ก้มจนคองอ คางชิด อกเป็นเวลานาน ทำให้กระดูกคอเสี่ยง เกิดความเสื่อมของกระดูกคอ กล้ามเนื้อต้นคอหดเกร็ง ควรให้สูงขึ้นมาหน้าไม่ก้มเกินไป เปิดความสว่างให้เหมาะสม ไม่ปิดไฟแล้วใช้ การใช้ในที่มืดความสว่างของอุปกรณ์จะมีมากขึ้น เกิดภาวะเมื่อยล้า ควรพักทุก 2 ชั่วโมง หลับตา นอน มองไปไกลๆ เพื่อผ่อนคลาย ดูต้นไม้สีเขียวๆ ลุกไปดื่มน้ำ คุยกับเพื่อน” นพ.นริศ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีข่าวคนจีนเล่นแท็บเล็ตและเกิดเป็นมะเร็งในนัยน์ตา นพ.นริศ กล่าวว่า จากข่าวนั้นคือเป็นชาวจีน 2 ราย ใช้แท็บเล็ต ใช้วันละ 2 ชั่วโมงนอนตอนกลางคืนและพบว่าตาบอดไป ซึ่งหลังจากไปตรวจสอบเป็นคนสายตาสั้นมากๆ พอสายตาสั้นมากๆ ทำให้จอตาลอกตัวและทำให้ตาบอดไปได้ แต่เกี่ยวข้องกับเรื่องการใช้แท็บเล็ตโดยตรงหรือไม่ ไม่เกี่ยวข้อง อย่าไปกลัวมากเกินไปว่าการใช้อุปกรณ์พวกนี้ทำให้ตาบอด ทำให้เป็นมะเร็งหรือเป็นต้อหินซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกันโดยตรง พร้อมย้ำว่าการใช้มือถือนานแค่ไหน ก็คาดว่าไม่น่าจะทำให้ตาบอด แต่อาจจะทำให้มีความเสื่อมของจอตาได้มาก เกิดความเสื่อมของตาโดยทั่วไป จึงแนะนำว่าในแต่ละวันไม่ควรใช้เกิน 8 ชั่วโมงและทุก 2 ชั่วโมง ควรพักสายตา.-สำนักข่าวไทย

Credit: PostJung
#ใช้มือถือมาก
PatPuch
ผู้กำกับภาพ
สมาชิก VIP
4 ต.ค. 57 เวลา 08:46 715
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...