หากถามคนชอบกินเนื้อ คงไม่มีใครไม่รู้จัก "โพนยางคำ" แบรนด์เนื้อโคขุนอันโด่งดังไปทั่วประเทศ แต่อาจมีไม่มากนักที่จะรู้ถึงต้นกำเนิดของโพนยางคำ "นายรอบรู้" จึงซอกแซกไปถึงแหล่งผลิตเนื้อโคขุนโพนยางคำแห่งเดียวของไทย ซึ่งมีที่มาจากการที่กองอำนวยการกลางรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (กรป. กลาง) ได้จัดตั้งศูนย์ส่งเสริมการขยายพันธุ์สัตว์ กรป. กลางขึ้น ที่บ้านโพนยางคำ ต. โนนหอม อ. เมือง จ. สกลนคร แต่เดิมบริเวณนี้เป็นพื้นที่ทุรกันดาร ผู้คนทำนาและเลี้ยงโคพื้นเมือง
เมื่อมีศูนย์นี้ขึ้นจึงได้ปรับปรุงสายพันธุ์โคให้เป็นโคลูกผสมพันธุ์เนื้อ โดยได้รับความร่วมมือจากรัฐบาลฝรั่งเศส ส่งนายฟรังซัว แดร์โฟซ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการเกษตร มาประจำที่ศูนย์ฯ พร้อมนำน้ำเชื้อโคพ่อพันธุ์จากฝรั่งเศสมาทดลอง กระทั่งได้โคลูกผสมพันธุ์ชาโรเล่ส์ (Charolais) เพศผู้ที่มีอัตราการเจริญเติบโตและคุณภาพเนื้อดีที่สุดต่อมาเมื่อมีจำนวนโคลูกผสมมากขึ้น ทางศูนย์ฯ จึงจัดตั้งกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงโคตามอำเภอต่างๆ ของ จ. สกลนคร และรวมตัวตั้งเป็นสหกรณ์ จดทะเบียนในนาม "สหกรณ์การเลี้ยงปศุสัตว์ กรป. กลาง โพนยางคำ จำกัด" เมื่อวันที่ 3 มิ.ย. 2523
"เนื้อโคขุนโพนยางคำ" ที่นักชิมเรียกตามแหล่งกำเนิดกันจนติดปากนั้น ยังมีอีกชื่อที่บ่งบอกความเป็นสายพันธุ์โคลูกผสมสายเลือดยุโรปว่า "เนื้อไทยเฟรนช์" หรือเนื้อไทย-ฝรั่งเศสนั่นเองเกษตรกรผู้เลี้ยงโคจะดูแลเอาใจใส่ในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเลี้ยงดู การขุนโค การให้อาหารที่ต้องเป็นอาหารข้นที่สหกรณ์ฯ ทำขึ้นเองจากวัตถุดิบธัญพืชธรรมชาติ เช่น มันสำปะหลัง รำ ปลายข้าว เสริมด้วยกากปาล์ม กากน้ำตาล เกลือ เปลือกหอย เป็นต้น โดยไม่ใช้สารเร่งใดๆ ทั้งสิ้น เมื่อถึงขั้นตอนการชำแหละเนื้อ ทางสหกรณ์ฯ ก็ใส่ใจถึงขนาดให้ผู้ที่นับถือศาสนาอิสลามเป็นคนลงมือชำแหละ และหลังชำแหละยังนำเนื้อไปบ่มในห้องเย็นที่อุณหภูมิ 0-4 องศาเซลเซียส เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 14 วัน เพื่อให้เนื้อนุ่มยิ่งขึ้น เมื่อครบกำหนดก็จะได้เนื้อโคขุนสีแดงสดใส มีไขมันแทรกในเนื้อช่วยให้เนื้อนุ่มและรสชาติดี
หากอยากชิมรสชาติของเนื้อโคขุนโพนยางคำถึงถิ่นกำเนิด มาลิ้มรสได้ที่ร้านสเต๊กสหกรณ์ฯ มีให้เลือกสั่งทั้งสเต๊ก เนื้อย่าง ต้มยำ และอีกหลายเมนู ซึ่งปรุงจากส่วนต่างๆ ของโคขุนโพนยางคำ "ของดีขนาดนี้มีส่งออกนอกบ้างหรือไม่" ชาวสหกรณ์ฯ ตอบมาว่า "โพนยางคำ" ไม่เน้นการส่งออกไปต่างประเทศ เพราะสหกรณ์ฯ อยากให้คนไทยได้กินเนื้อโคขุนคุณภาพดีที่ผลิตได้ในเมืองไทยเราเอง