วันที่ 30 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทุกเช้าตรู่ คนในเมืองแม่ฮ่องสอน จะเห็นสุนัขตัวหนึ่ง ลักษณะสีดำ มีตำหนิสีขาวที่ท้ายทอยยาวมาถึงไหล่ เท้าทั้งสี่มีสีขาวและปลายหางสีขาว จะเดินนำพระสงฆ์องค์หนึ่งออกบิณฑบาตตั้งแต่สวนรุกชาติห้วยโป่งแข่ ติดบ้านพักการเคหะแห่งชาติแม่ฮ่องสอน จนถึงตลาดสายหยุดในตัวเมืองแม่ฮ่องสอน ระยะทางประมาณ 3 กม.ทุกวัน
การเดินนำของเจ้าตูบดังกล่าว จะมีการระแวดระวังรถที่วิ่งผ่านไปมา และจะหยุดคอยมองหลวงตาที่เดินตามเป็นระยะๆ ตลอดเส้นทางกว่า 3 กม. ซึ่งในขณะที่พระออกบิณฑบาตนั้น พบว่า เจ้าตูบตัวดังกล่าว จะสนิทสนมกับญาติโยมที่ทำบุญตักบาตรทุกคน ส่วนใหญ่จะให้ขนมแก่เจ้าตูบตัวดังกล่าวแทบจะตลอดเส้นทาง
หลวงตาอำนวย พระสงฆ์ที่ออกบิณฑบาต เปิดเผยว่า เจ้าตูบตัวดังกล่าว มีชื่อว่ากินซี่ เป็นหมาของใครก็ไม่ทราบ อาศัยอยู่ที่ในสวนรุกชาติห้วยโป่งแข่ ทุกเช้าเวลา 06.00 น. จะมารอเดินนำออกไปบิณฑบาต และกลับมาพร้อมกัน จากนั้นจะรออยู่จนถึงเวลา 15.00 น. ก็จะให้อาหารมัน พอมันกินเสร็จก็จะกลับไปนอนพักในสวนสาธารณะห้วยโป่งแข่ เป็นที่น่าแปลกว่า มันจะกินอาหารเฉพาะเวลา บ่ายสามโมงเท่านั้น ให้อาหารเวลาอื่นก็จะไม่กิน เป็นแบบนี้มาได้ประมาณ 2 ปีแล้ว
สิ่งที่น่าอัศจรรย์อีกอย่างหนึ่งของเจ้ากินซี่ ก็คือ ก่อนหน้านั้น อาตมาได้เคยไถ่ชีวิตลูกวัวตัวหนึ่ง และเลี้ยงมันจนโตและสิ้นอายุขัยตามธรรมชาติไปเกือบ 10 ปีแล้ว จู่ๆ ก็มีเจ้ากินซี่ โผล่เข้ามาหาในตอนเช้าและเดินนำบิณฑบาต โดยลักษณะตำหนิของเจ้ากินซี่ ตัวดังกล่าว มีตำหนิ เหมือนกับลูกวัวที่เคยไถ่ชีวิตทุกประการ
สำหรับในแต่ละเช้าที่บิณฑบาต เจ้ากินซี่จะเดินนำ และมันจะชอบแวะที่โรงแรมใบหยกชาเล่ต์ ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง สาเหตุที่มันแวะเพราะว่า มีพนักงานในโรงแรมดังกล่าว มักจะให้อาหารมันกินบ่อยครั้ง นอกจากนั้นก็จะแวะอีกที่หนึ่ง คือ ที่ร้านเทิดธรรมไพศาลการค้า ซึ่งเป็นร้านค้าวัสดุก่อสร้าง ที่เจ้าของเมตตาให้อาหารมันเช่นกัน
หลวงตาอำนวย กล่าวต่อว่า เจ้ากินซี่เป็นหมาที่แข็งแรง แต่ในการออกบิณฑบาตแต่ละครั้ง มันไม่เคยไปกัดใครก่อน ยกเว้นจะป้องกันตัวเมื่อถูกหมาเจ้าถิ่นกัดมัน แต่ส่วนใหญ่มันจะพยายามหลีกเลี่ยงตลอด และเวลาเดินนำตลอดเส้นทาง มันจะหยุดคอยเป็นระยะๆ ด้วยความเป็นห่วง และเป็นที่ชื่นชอบของคนทั่วไปในเมืองแม่ฮ่องสอน