ริ่มที่ออฟฟิศของ facebook ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองพาโลอัลโต รัฐแคลิฟอร์เนีย บนพื้นที่ประมาณ 150,000 ตารางฟุต
มีบูธดีเจด้วย บรรยากาศเหมือนมุมพักผ่อนในมหาลัยเมืองนอกเลย
โต๊ะหมุนได้
ห้องประชุม ไวท์บอร์ดยาววววววว มากๆ
มีจักรยานอยู่เยอะมาก ช่วยประหยัดแรงเวลาไปติดต่อฝ่ายต่างๆ ในออฟฟิศ
ถ้านับให้ชุมชนในเฟสบุ๊ค เสมือนประชากรของประเทศหนึ่ง อีกไม่กี่สัปดาห์ที่จะถึงนี้ จะมีผู้ใช้ เฟสบุ๊ค อย่างเป็นทางการ รวม ๕๐๐ ล้านคน และความยิ่งใหญ่เทียบเท่าด้านประชากรประเทศที่สามของโลก รองจากอินเดียและจีน ยิ่งไปกว่านั้น ชาวเฟสบุ๊คกว่า ๑ ใน ๔ คน จะแวะเข้ามาใช้เว็บไซต์แห่งนี้เพื่อการสื่อสารภายใน ๓๐ วัน
ในโลกแห่งมหาอำนาจทางอินเทอร์เน็ต ที่อยู่ร่วมกับเฟสบุ๊คได้แก่ ไมโครซอฟท์ – ผู้ทำให้คอมพิวเตอร์ทั่วโลกใช้งานง่าย กูเกิ้ล – ผู้จัดระบบข้อมูลให้กับโลก ไม่ว่าจะเก็บไว้ทีเว็บไหน เละเทะแค่ไหน กูเก้ลหาพบแน่ และยูทู้บ – ผู้ทำให้เราท่องเว็บแบบบันเทิงและสนุก มีทั้งภาพและเพลง ทั้งสามมหาอำนาจเมื่อมาเทียบกับเฟสบุ๊คแล้ว ท่าทางจะทาบไม่ติด เพราะเฟสบุ๊คทำให้เราได้พบเพื่อน หาของดี ส่งภาพไปแบ่งปันกับเพื่อน เล่าเรื่องให้เพื่อนฟัง เล่นเกม ซุบซิบ จนไปถึงการรายงานข่าว หาที่ทานอาหาร รวมทั้งบอกเลิกกับแฟน หรือพบกับคู่รัก
ในช่วงวิกฤติพฤษภา๕๓ ของไทย หลายๆคนบอกผมว่าต้องเข้าไปลงทะเบียนเป็นผู้ใช้ทวิตเตอร์หรือไม่ก็เฟสบุ๊ค เพื่อให้ตัวเองไม่ตกข่าว ทั้งนี้เพราะได้เห็นแล้ว ว่าการรายงานข่าวทางการ หรือสื่อดั้งเดิมมันไม่พอเพียง มันช้า และอาจจะลำเอียง รวมทั้งการสื่อสารเชิงกลุ่มที่ไม่ต้องเสียเงินค่้า SMS และนัดหมายกันเองโดยไม่ต้องพึ่งสื่อมวลชน
ในสัปดาห์ที่จะถึงนี้ คงจะมีการรายงานกันมาก ว่าใช้เฟสบุ๊คและทวิตเตอร์กันในช่วงวิกฤติกันอย่างไร
ผมได้แวะชมเว็บของ time magazine ซึ่งมีอัลบั้มภาพบรรยาการคนทำงานในเฟสบุ๊ค จำนวน ๑๓ รูป น่าสนใจดี จึงขอลิ๊งค์ภาพเหล่านั้นมาบางส่วนเพื่อให้เราได้ชมกัน น่าสนใจดี และแตกต่างกับภาพห้องทำงานใน Googleplex ที่หลายท่านเคยเห็นมาก่อน
ภายในสำนักงานใหญ่ของเฟสบุ๊ค
พนักงานส่วนใหญ่ของเฟสบุ๊คประมาณ ๕๐๐ คน นั่้งทำงานอยู่ในห้องขนาดใหญ่มาก ไม่มีฝาผนังหรือการกั้นระหว่างกันแต่อย่างใด บริษัทออกแบบให้เป็นเช่นนี้เพื่อต้องการย้ำปรัชญา “ความเปิด” ของบริษัท อายุเฉลี่ยของพนักงานอยู่ที่สามสิบกว่าปี
บรรยากาศในห้องอาหาร
อาหารในห้องอาหาร จะมีทางเลือกสำหรับอาหารเพื่อสุขภาพ
พนักงานจำนวนหนึ่งของเฟสบุ๊คมาจากประเทศต่างๆ เพื่อระดมกำลังอาสาสมัครจากผู้ใช้ ให้มาช่วยกันแปลเว็บไซต์เป็นภาษาต่างๆกว่า ๗๐ ภาษา
บรรยากาศรวมๆของที่ทำงาน จะไม่ต่างไปจากหอพักนักศึกษามากนัก ซึ่งเป็นความคิดของ Mark Zuckerberg ผู้ก่อตั้งบริษัทคิดเอาไว้ตั้งแต่เริ่มบริษัท
เฟสบุ๊กกำลังเข้าสู่ป้าย ๕๐๐ ล้านคนในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้ และนอกจากจะเป็นมหาอำนาจในเว็บแล้ว ก็ยังเป็นพลังด้านวัฒนธรรมแบบใหม่ๆของคนยุคใหม่ ที่ชอบเปิดเผยความเป็นตัวของตัวเอง….