คนรักสัตว์ จี้ถอนใบอนุญาตพาต้า ร้องหาบ้านใหม่ให้ กอริลลา

 

บัวน้อย กอริลลายักษ์ที่อยู่ในสวนสัตว์พาต้า


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก change.org

            ตัวแทนกลุ่มคนรักสัตว์ จี้ถอนใบอนุญาตพาต้า เล็งหาบ้านใหม่ให้ บัวน้อย กอริลลา ที่น่าสงสาร หลังอยู่ในกรงลอยฟ้าเกือบ 30 ปี

            เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2557 นางศิลจิรา อภัยทาน ตัวแทนกลุ่มคนรักสัตว์ ผู้รณรงค์โครงการหาบ้านใหม่ให้ "บัวน้อย" กอริลลายักษ์ที่อยู่ในสวนสัตว์พาต้า ผ่านเว็บไซต์ change.org ระบุว่า ตนรณรงค์เรียกร้องให้กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เพิกถอนใบอนุญาตสวนสัตว์ลอยฟ้าพาต้า และตั้งคณะทำงานเพื่อพิจารณาหาบ้านหลังใหม่ให้บัวน้อยมากว่า 1 ปี ซึ่งล่าสุด นายนิพนธ์ โชติบาล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ ได้ตอบรับในการแก้ปัญหาเรื่องนี้ โดยเปิดโอกาสให้เข้าพบเพื่อยื่นหนังสือในวันพุธที่ 24 กันยายน 2557 เวลา 14.00 น ที่กรมอุทยานฯ

            ทั้งนี้ในการเข้าพบดังกล่าว นางศิลจิรา ระบุว่า ตนจะนำรายชื่อกว่า 3.5 หมื่นชื่อ รวมถึงความเห็นของผู้ร่วมลงชื่อไปยื่นให้อธิบดีกรมอุทยานฯ เพื่อให้รับรู้ถึงเสียงเรียกร้องของประชาชนแทนสัตว์ต่าง ๆ และเจ้าบัวน้อย ในสวนสัตว์พาต้า ซึ่งการเรียกร้องนี้ควรจะถูกพิจารณาและแก้ไขอย่างจริงจังเสียที
 
            นางศิลจิรา กล่าวต่อว่า ตนเองนั้นใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในต่างประเทศ จำได้ว่าติดตามเรื่องนี้ตั้งแต่กลับมาเยี่ยมประเทศไทยเมื่อปี 2528 ก็เห็นบัวน้อยถูกขังอยู่ในกรงเหล็ก กลับมาอีกครั้งก็ยังเห็นอยู่บัวน้อยต้องอยู่ในนั้นมานานเกือบ 30 ปี ไม่ได้เห็นเดือนเห็นตะวันหรือเห็นต้นไม้ตามธรรมชาติของสัตว์เลย ตนจึงต้องลุกมารณรงค์เรื่องนี้อย่างจริงจัง ไม่ใช่เพราะต้องการจะช่วยบัวน้อยอย่างเดียว แต่เป็นการช่วยสัตว์ป่าหายากอื่น ๆ ที่ร่วมชะตากรรมในกรงขังลอยฟ้าด้วย



 สำหรับความคาดหวังในการรณรงค์ครั้งนี้ นางศิลจิรา บอกว่า ต้องการให้กรมอุทยานฯ เพิกถอนใบอนุญาตสวนสัตว์พาต้า เพราะใบอนุญาตดังกล่าวหมดอายุมาตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่ทำไมยังดำเนินกิจการได้ ทั้งที่สวนสัตว์มีสภาพทรุดโทรม จึงอยากให้ทุกคนจับตาดูว่า อธิบดีกรมอุทยานฯ จะประกาศถอนใบอนุญาตสวนสัตว์ลอยฟ้าหรือไม่ บัวน้อยและเพื่อน ๆ จะมีชะตากรรมอย่างไร
 
            นอกจากนี้ นางศิลจิรา ยังระบุด้วยว่า ทั้งกรมอุทยานฯ และสวนสัตว์พาต้า ควรยอมรับที่จะเรียนรู้ร่วมกันถึงข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นจากการพรากสัตว์ป่าจากถิ่นกำเนิด โดยขาดดุลยพินิจในแง่มุมของการอนุรักษ์ ขาดสถานที่เลี้ยงดูที่เหมาะสม และขาดผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาสัตว์ป่า ถึงเวลาที่กรมอุทยานฯ ควรเพิกถอนใบอนุญาตสวนสัตว์ลอยฟ้า และถึงเวลาที่เจ้าของบัวน้อยควรเปิดใจให้ภาครัฐและหน่วยงานอนุรักษ์ทั้งในและต่างประเทศที่เชี่ยวชาญเรื่องกอริลลาร่วมกันตั้งคณะทำงาน เพื่อให้ความช่วยเหลือในการหาบทสรุปของที่อยู่ใหม่ที่ไม่ใช่บนยอดตึกเช่นนี้

            สำหรับ บัวน้อย กอริลลาในสวนสัตว์พาต้า ห้างสรรพสินค้าเก่าแก่ย่านฝั่งธนบุรี ตกเป็นข่าวตลอดมา เมื่อมีผู้พบเห็นสภาพความเป็นอยู่และความเซื่องซึมของสัตว์จนเกิดความสงสาร บ้างถ่ายรูป บ้างแสดงความคิดเห็นผ่านทางโลกโซเชียลมีเดีย เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปดูแล ขณะเดียวกันก็มีผู้ออกมารณรงค์อย่างจริงจัง ซึ่งเมื่อปรากฏเป็นข่าว เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบจะออกมาเคลื่อนไหว รับปากจะแก้ปัญหานี้ แต่สุดท้ายเมื่อความสนใจของสาธารณชนซาลง ทุกอย่างก็กลับเข้าสู่รอยเดิม

            ตัวอย่างเช่นเมื่อปีที่แล้ว นาตาลี เดวิส นักแสดงชื่อดัง ผู้เริ่มโครงการระดมทุนช่วยเหลือเพื่อไถ่สัตว์ออกจากสวนสัตว์พาต้า ได้โพสต์ภาพสัตว์ในสวนสัตว์พาต้า อาทิ กอริลลา, ลิงอุรังอุตัง, เพนกวิน พร้อมระบุว่า เป็นภาพที่เธอถ่ายจากสวนสัตว์พาต้าปิ่นเกล้า ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า ทางสวนสัตว์ยังไม่มีการปรับปรุงการดูแลสัตว์ให้ดีขึ้น นอกจากนี้เธอยังได้โพสต์ข้อความในอินสตาแกรมพร้อมภาพกอริลลา พร้อมวอนให้คนไทยมาร่วมกันช่วยเหลือสัตว์เหล่านี้ด้วย
 


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก 

Credit: http://hilight.kapook.com/view/108486
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...