ลดค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพด้วยอาหารเจ

ลดค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพด้วยอาหารเจ 
 
           อาหารเจ ช่วยให้ร่างกายได้ปรับสมดุล ทำให้สุขภาพกาย สุขภาพใจ และสุขภาพการเงินดีขึ้น
 
           สำหรับการลดค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพด้วยอาหารเจนั้น ต้องบอกว่าการกินเจถือเป็นการดีท็อกซ์ให้กับร่างกาย ซึ่งในแต่ละปีเราควรต้องดีท็อกซ์ร่างกายสักหน แต่ปีนี้ถือว่าเป็นปีที่โชคดีมาก ๆ เพราะเรามีโอกาสดีท็อกซ์ถึง 2 รอบ ซึ่งครั้งแรกตรงกับวันที่ 24 กันยายน - 2 ตุลาคม 2557 และครั้งที่ 2 ตรงกับวันที่ 24 ตุลาคม - 1 พฤศจิกายน 2557 ซึ่งนานถึง 132 ปีจึงจะมีสักครั้งหนึ่ง
 
           อาหารเจ มีความสำคัญกับคนสมัยนี้ เพราะหลายคนมักไม่กินผัก ผลไม้ ทำให้มีปัญหาระบบขับถ่าย ท้องผูกเรื้อรัง รวมถึงผิวพรรณไม่สดใส ซึ่งนอกจากผลเสียต่อสุขภาพที่เรารู้จากตัวเราเองแล้ว ยังก่อให้เกิดภัยเงียบเข้ามาด้วย ไม่ว่าจะเป็นคอเลสเตอรอลสูง โรคความดันโลหิตสูง หากเราไม่รักษาและดูแลให้ดีก็อาจพัฒนาเป็นโรคหัวใจโตเพราะหัวใจทำงานหนัก และอาจทำให้ตับทำงานผิดปกติ ส่งผลให้เป็นโรคเบาหวาน และโรคไตต่อไปได้ ซึ่งการเกิดโรคเหล่านี้ส่วนใหญ่เกิดจากการรับประทานเนื้อสัตว์ ไขมันจากสัตว์ และเครื่องในสัตว์มากเกินไป ประกอบกับการไม่ได้ออกกำลังกาย การรับประทานผักผลไม้น้อย รวมถึงภาวะความเครียด การพักผ่อนไม่เพียงพอ จึงทำให้มีโอกาสเกิดโรคต่าง ๆ ได้ง่าย
 
           ดังนั้นในแต่ละปี เพื่อให้ร่างกายได้ปรับสมดุลและเพื่อให้ได้สุขภาพที่ดีกลับคืนมา เราจึงต้องปฏิบัติตัวอย่างเหมาะสม ด้วยการงดเว้นการกินอาหารที่เป็นเนื้อสัตว์หรือผลิตภัณฑ์จากสัตว์ทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นไข่ นม เนย ก็งดเว้นทั้งหมด รวมถึงการงดเว้นผักฉุน 5 ชนิดด้วย ได้แก่ กระเทียม หัวหอม หลักเกียว กุ้ยฉ่าย ใบยาสูบ เพราะผักฉุนทั้ง 5 ชนิด แม้ว่าจะเป็นผักเช่นกัน แต่เป็นผักที่มีรสหนัก มีกลิ่นรุนแรง ให้โทษต่อพลังธาตุทั้ง 5 เช่น ธาตุไฟ ธาตุน้ำ ธาตุดิน ธาตุไม้ และธาตุโลหะในร่างกาย ทำให้อวัยวะหลักสำคัญภายในทำงานไม่ปกติ ซึ่งผักดังกล่าวมีฤทธิ์กระตุ้นจิตใจ อารมณ์ให้เร่าร้อน ใจคอหงุดหงิด โกรธง่าย
 
           ในช่วงกินเจนี้ก็อย่าได้หลงลืม คิดว่าเป็นผักแล้วจะกินได้ทุกอย่าง (ในช่วงปกติที่เรารับประทานเนื้อสัตว์ ผักบางชนิดจะให้คุณต่อร่างกาย แต่ในช่วงที่เรากินอาหารเจ ผักเหล่านี้จะให้โทษ) ดังนั้นต้องสังเกตให้ดี ๆ ก่อนค่ะ ส่วนผักชนิดอื่นที่หลายคนสงสัยว่ากินได้หรือไม่ เพราะมีกลิ่นแรงเช่นกัน อย่างเช่น สะตอ หรือชะอมนั้น ไม่ถือว่าอยู่ในข่ายที่คนกินเจกินไม่ได้ สรุปแล้วแม้จะเป็นผักที่มีกลิ่นแรง แต่ไม่จัดอยู่ในผักฉุน 5 ชนิดตามที่กล่าวมาก็ยังคงกินได้ตามปกติค่ะ
 
           และในช่วงระหว่างกินเจนี้นอกจากการกินอาหารสะอาดปราศจากเนื้อสัตว์และผักฉุนแล้ว ควรทำจิตใจให้สะอาดด้วย หรือเรียกว่า "ถือศีล กินเจ" หากทำเช่นนี้ได้ทุกปีจะช่วยให้ร่างกายและจิตใจได้ผ่อนคลาย ที่สำคัญคือช่วยให้สุขภาพทางการเงินแข็งแรงด้วย เพราะไม่ต้องเสียเงินไปกับค่ารักษาพยาบาลแพง ๆ เป็นอีกทางหนึ่งที่ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพและอินเทรนด์ด้วยนะคะ ดังนั้นเทศกาลกินเจปีนี้มากินเจด้วยกันนะคะ
Credit: PostJung
#อาหารเจ
PatPuch
ผู้กำกับภาพ
สมาชิก VIP
23 ก.ย. 57 เวลา 09:35 1,088
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...