วันที่ 20 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีนายเสรี แซ่อึ้ง เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยเมืองชัยภูมิ รับแจ้งทางวิทยุสื่อสาร ให้ไปดำเนินการจับงูเข้าบ้านนางลำไย นาดี ตั้งอยู่ที่บ้านห้วยหลัว ตำบลหนองนาแซง อำเภอเมือง จังหวัดชัยูมิ โดยเจ้าของบ้านยืนรออยู่หน้าบ้านด้วยอาการตกใจ แจ้งว่าพบงูเห่าในบริเวณอ่างล้างหน้าตัวขนาดใหญ่ จากนั้นนายเสรี ได้เข้าไปเปิดประตูห้องน้ำพบงูเห่าปลวก ยาว 60 เซนติเมตร เลื้อยสวนทางออกไปหยุดที่มุมกำแพงบ้าน ชูคอแผ่แม่เบี้ยพร้อมฉกตลอดเวลา แต่นายเสรี ใช้เวลาจับเพียง 10 นาที ก็สามารถจับได้ และเตรียมจะนำไปปล่อยที่ป่า แต่เป็นจังหวัดที่นายเสรี กำลังเปลี่ยนมือจับ งูเห่าได้แว้งกลับมากัดที่หัวแม่มือ นายเสรี จึงรีบขับรถจักรยานยนต์ไปยังโรงพยาบาลชัยภูมิที่ตั้งอยู่จากจุดเกิดเหตุประมาณ 3 กม. โดยยังถืองูเห่ามาด้วย
ขณะขับรถไปยังโรงพยาบาล พิษงูได้แล่นเข้าสู่ร่างกายจนนายเสรีเกิดอาการหน้ามืดเป็นระยะ แต่ก็สามารถประคองมาถึงห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลได้ และเกิดอาการช็อกหน้าห้องฉุกเฉิน จังหวะนั้นงูเห่าก็แว้งกัดอีกครั้งในจุดเดิม จนพยาบาลต่างแตกตื่นวิ่งหนีอลหม่าน จนในที่สุดสามารถจับงูเห่าได้ และเร่งฉีดเซรุ่มให้กับนายเสรีอย่างทันท่วงที แต่พิษได้แล่นเข้าสู่หัวใจ
อาการล่าสุดนายเสรี ยังไม่พ้นขีดอันตราย แพทย์ได้ส่งเข้าห้องไอซียู เพื่อรอดูอาการ ซึ่งจากการประเมินเบี้องต้น พบว่ามีรอยไหม้สีดำลุกลามเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจต้องตัดนิ้วทิ้ง ซึ่งขณะนี้อาการยังไม่น่าไว้วางใจ เนื่องจากงูเห่าปลวกเป็นงูเห่าที่มีพิษร้ายแรงกว่างูเห่าทั่วไป ซึ่งมีลักษณะพิเศษ คือ เมื่อพ่นพิษแล้วสามารถสร้างพิษขึ้นมาได้อย่างต่อเนื่อง
ข้อมูลครอบครัวข่าว3