ภัยร้ายในบ้าน ไม่เห็นด้วยตาเปล่าแต่อันตรายถึงชีวิตเชียวนะ

 

 

 

 

 

ภัยร้ายในบ้าน ไม่เห็นด้วยตาเปล่าแต่อันตรายถึงชีวิตเชียวนะ
 

                 แม้จะทำความสะอาดบ้านอย่างสะอาดหมดจดทุกซอกทุกมุม จนมั่นใจแล้วว่าบ้านอาจจะไร้เชื้อโรค แต่เชื่อไหมว่าภายในบ้านของเราก็อาจจะมีภัยร้ายซุกซ่อนอยู่ด้วยก็ได้ ภัยร้ายจะมีอะไรนั้นมาดูกันดีกว่า




1. สารก่อภูมิแพ้ เชื่อว่าหลายๆ ครอบครัวที่มีลูกน้อยคงจะไม่อยากให้ลูกสุดห่วง ต้องใกล้ชิดกับโรคภัยต่างๆ 

ยิ่งอาการภูมิแพ้ที่เกิดจากภายในบ้านแล้วนั้นเราควรหมั่นตรวจเช็คความสะอาด รู้มั๊ย...สารที่กระตุ้นให้เกิดอาการทางภูมิแพ้ได้แก่ 

โรคหอบหืด โรคแพ้อากาศ และโรคผื่นภูมิแพ้ทางผิวหนัง สารก่อภูมิแพ้สามารถแบ่งได้ง่ายๆ เป็นสารก่อภูมิแพ้ในที่อยู่อาศัยและนอกที่อยู่อาศัย

สารก่อภูมิแพ้ที่สำคัญในประเทศไทย ได้แก่ตัวไรฝุ่น รองลงมาคือ แมลงสาบ แมวและสุนัข เกสรหญ้า เชื้อราตามลำดับ





2. สารฟอร์มัลดีไฮด์ มักแอบซุกซ่อนตัวอยู่ในบ้านเราเองตลอดเวลา นอกจากนั้น ยังสามารถระเหยต่อเนื่องได้นานถึง 15 ปี 

สาเหตุที่เรามองไม่เห็น เพราะฟอร์มาลดีไฮด์เป็นส่วนประกอบหลักของกาว จึงมักมาจากเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ เช่น ไม้อัด และในพื้นที่อื่นๆ ที่มีการใช้กาว รวมไปถึงผ้าหุ้มเฟอร์นิเจอร์ พรม วัสดุฉนวน น้ำยาทำความสะอาด ยาฆ่าแมลง และแม้กระทั่งสีทาบ้านที่ไม่ได้มาตรฐาน 






สาเหตุของความอันตรายในที่อยู่อาศัย


พบว่าการทดสอบทางผิวหนังที่แสดงว่าผู้ป่วยแพ้ต่อไรฝุ่น ในผู้ป่วยหอบหืดและผู้ป่วยที่เป็นภูมิแพ้ทางจมูกในประเทศไทยมีได้ประมาณ 70-90% ตัวไรฝุ่นเป็นสารก่อภูมิแพ้ที่สำคัญที่สุด ตัวไรฝุ่นเป็นแมลงขนาดเล็กที่มี 8 ขา ชอบอาศัยอยู่ตามบริเวณที่มีความอบอุ่นและชุ่มชื้น อาหารที่สำคัญของตัวไรฝุ่นคือสะเก็ดผิวหนังมนุษย์ จึงพบตัวไรฝุ่นมากตามที่นอน ผ้าห่ม พรม ผ้าม่าน และเฟอร์นิเจอร์ ตัวไรฝุ่นมีชีวิตอยู่ได้ประมาณ 2 เดือน








นอกจากนั้นเองสารฟอร์มัลดีไฮด์ที่แฝงกายอยู่ในบ้านนั้น จัดเป็นสารระเหยเป็นพิษ VOCs ซึ่งเป็นหนึ่งในสารก่อมะเร็งที่พบในบ้านมากที่สุด โดยไม่สามารถเห็นด้วยตาเปล่าได้ หากสูดดมเข้าไปเป็นเวลานาน สารฟอร์มัลดีไฮด์จะมีพิษต่อระบบทางเดินหายใจ แม้จะปริมาณต่ำๆ ถ้าถูกตาจะระคายเคืองตามากสำหรับผู้ที่แพ้ และหากสูดดมเข้าไปจะทำให้หลอดลมบวม แสบจมูก เจ็บคอ ไอ หายใจไม่ออก ปอดอักเสบ น้ำท่วมปอด ทำให้เป็นแผลหรือถึงขั้นตาบอด ซึ่งผู้ที่เป็นภูมิแพ้ไม่ควรทำงานกับสารฟอร์มัลดีไฮด์อีกด้วย ไม่ใช่เพียงผู้ที่เป็นภูมิแพ้หรือมีอาการแพ้สารฟอร์มาลดีไฮด์เท่านั้น แต่เพราะฟอร์มาลดีไฮด์เป็นหนึ่งในสารก่อมะเร็งจึงส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาวแน่นอน หรืออาจเป็นอันตรายถึงชีวิต




               การป้องกันภัยอันตรายภายในบ้าน

              การขจัดตัวไรฝุ่นและสารก่อภูมิแพ้จากตัวไรฝุ่น การลดปริมาณตัวไรฝุ่นและสารก่อภูมิแพ้ของไรฝุ่นสามารถทำได้หลายวิธีนอกจากนั้นยังรวมถึงวิธีป้องกันสารฟอร์มาลดีไฮด์ที่จะก่ออันตรายถึงคนในครอบครัวเราด้วย

 

การคลุมที่นอนและเครื่องนอนต่างๆ สามารถทำได้โดยใช้พลาสติกหรือผ้ากันไรฝุ่น วิธีนี้เป็นเพียงการไม่ให้ไรฝุ่นและสารก่อภูมิแพ้มาถึงตัวเราอีกด้วย
 


การล้าง ควรซักผ้าปูที่นอน ปลอกหมอนและผ้าห่มด้วยการต้มที่อุณหภูมิมากกว่า 55 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 30 นาที ทุกๆ 1-2 สัปดาห์

 

การดูดฝุ่นในบ้านที่มีพรม สามารถช่วยลดปริมาณสารก่อภูมิแพ้ได้ หากใช้เครื่องดูดฝุ่นที่มีตัวกรองประสิทธิภาพสูง (HEPS FILTER) อย่างไรก็ตามตัวไรฝุ่น สามารถยึดเกาะติดพรม ทำให้ไม่สามารถขจัดตัวไรฝุ่นออกไปได้ทั้งหมด ทางที่ดีไม่ควรมีพรมในบ้าน
 

              ส่วนการป้องกันจากสารฟอร์มาลดีไฮด์นั้น ปัจจุบันมีเทคโนโลยีที่ชื่อว่า Air Detoxify หรือ เรียกว่าเป็นการฟอกอากาศให้บริสุทธิ์ แต่ใช้เทคโนโลยีของสีในการดูดสารพิษออก ซึ่งเป็นการคิดค้นขึ้นมาเพื่อย่อยสลายสารฟอร์มาลดีไฮด์ที่เป็นอันตรายของคนในครอบครัวโดยทำปฏิกิริยาเปลี่ยนสารพิษให้กลายเป็นไอน้ำ เป็นเทคนิคเดียวกับที่สีทาบ้าน TOA Supershield Duraclean Oxygen Plus ที่นำไปใช้ในการผลิตสีทาบ้านอีกด้วย ซึ่งทำให้สีในบ้านนั้น คล้ายกับ “เครื่องฟอกอากาศ” ที่ปลอดภัยเพราะผลิตจากวัตถุดิบจากธรรมชาติ นอกจากนี้ยัง ยับยั้ง ป้องกัน และย่อยสลาย แบคทีเรีย เชื้อรา ช่วยป้องกันสารฟอร์มัลดีไฮด์ที่เป็นอันตรายลดลงได้มากกว่า 90% ภายในระยะเวลา 1-2 วันอีกด้วย (จากการทดสอบที่สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย) จึงดีต่อสุขภาพของคนที่เป็นโรคภูมิแพ้แน่นอน

 

และที่สำคัญกลิ่นที่อ่อนปลอดภัยมากๆ จนแทบไม่ได้กลิ่น โดยจะจางหายไปภายใน 1 ชั่วโมง หลังจากการทาสี จึงทำให้สามารถเข้าใช้งานได้แทบจะทันทีหลังจากทาสีเสร็จอีกด้วย


 
 

ใช้วัสดุธรรมชาติ เช่น แกรนิต สแตนเลสสตีล จะปลอดภัยกว่า ถ้าจำเป็นต้องใช้เฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากไม้อัด ก็อาจเลือกใช้ประเภทเกรดสำหรับใช้ภายนอก (Exterior–grade) เพราะจะปลดปล่อยฟอร์มัลดีไฮด์ออกมาน้อยกว่าเนื่องจากใช้กาวฟีนอล-ฟอร์มัลดีไฮด์
ที่มา:
 
Credit: http://board.postjung.com/806673.html
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...