ทุกคนรู้กันดีอยู่แล้วว่า ยาเสพติด หรือที่เราเรียกกันบ้านๆว่า ยาบ้า นั้นเป็นสิ่งไม่ดี มีโทษร้ายแรงทั้งผู้ค้าและผู้เสพ ทำร้ายสุุขภาพและคนรอบข้าง ตลอดเวลาที่ผ่านมามักจะมีเหตุการณ์ร้ายๆ เกิดขึ้นจากการเสพยาบ้าอยู่ตลอดเวลา แล้วเรื่องเหล่านี้ก็ดูจะยังไม่หมดไปจากสังคมไทยซะที ดังนั้นคนในสังคม ครอบครัว จะต้องช่วยกันดูแลสอดส่องคนรอบข้างนะคะ วันนี้ทีนเอ็มไทยนำเกร็ดความรู้เกี่ยวกับ ต้นกำเนิดยาบ้าในไทย มาฝากเพื่อนๆ กันคะ โดยความจริงแล้วจุดเริ่มต้นนั้นมาจากผู้หญฺงคนหนึ่งที่ชื่อ “กัลยาณี อร่ามเวชอนันต์“ ผู้บุกเบิกยาม้าในขณะนั้น และถึงแม้เธอจะโดนจับขังคุก แต่ความเลวร้ายที่เธอได้เริ่มก่อขึ้นนั้นมันแพร่กระจายเหมือนเชื้อโรคไปยังลูกหลานอีกหลายๆ คนเลยทีเดียว...
รู้แล้วอึ้งเลย! เรื่องจริงต้นกำเนิดยาบ้าในไทย
ก่อนที่ยาบ้าจะระบาดเหมือนทุกวันนี้ จุดกำเนิดของยาบ้ามาจากผู้หญิงไทยคนหนึ่งส่งลูกไปเรียนวิชาเคมีที่ประเทศไต้หวัน เพื่อกลับมาผลิตยาบ้ารายแรกของเมืองไทย ผู้หญิงคนนี้ปัจจุบันถูกจำคุกอยู่ที่เรือนจำลาดยาว ชื่อของเธอคือ กัลยาณี อร่ามเวชอนันต์ เธอกลายมาเป็นประวัติศาสตร์วงการค้ายาบ้า เมื่อครั้งยังใช้ชื่อว่า “ยาม้า” ชื่อของเธอถูกบันทึกไว้ในฐานะ ผู้ผลิตยาม้ารายแรกของเมืองไทย เธอถูกจับพร้อมสามีและลูกชาย 2 คน ที่เรียนจบด้านเคมีจากไต้หวัน
ที่บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่บางกรวย จังหวัดนนทบุรี ซึ่งเป็นที่ที่ครอบครัวของเธอเช่าไว้เพื่อผลิตยาม้า เธอถูกจับในเดือนพฤศจิกายน 2530 เพียงไม่กี่วันหลังจากยาม้าถูกประกาศให้เป็นยาต้องห้าม ซึ่งห่อนหน้านั้นยาม้าสามารถนำเข้าจากต่างประเทศเพื่อใช้กับม้าแข่งได้
ฟังดูแล้วเหมือนว่าเรื่องทุกอย่างจบได้ด้วยดี แต่! อย่าเพิ่งมโนโลกสวย .. แม้กัลยาณีและครอบครัวจะถูกคุมขัง แต่การผลิตยาม้านั้นไม่ได้หยุดไปด้วย คนงานที่ช่วยผลิตในโรงงานของกัลยาณีได้เรียนรู้สูตรจากลูกชาย 2 คน ของเธอที่เรียนรู้ดด้านวิชาเคมีมา และได้ขยายธุรกิจต่อ บางคนแยกไปทำเอง จนสูตรยาม้าที่กัลยาณีเคยใช้ยี่ห้อว่า “เปาบุ้นจิ้น” ในครั้งแรกนั้นได้ขยายเป็นยี่ห้อต่งๆ มากมาย แหล่งผลิตที่เคยกระจุกตัวอยู่รอบๆ กรุงเทพฯ ถูกตำรวจทลายจนหมด จนต้องกระจายไปสู่ภูมิภาค กระทั่งสุดท้ายประมาณกลางปี 2538 คนงานของกัลยาณีบางคนที่แยกมาผลิตเอง ได้ขยายไปสู่ชายแดนเขตพม่า ด้วยการจ่ายค่าคุ้มครองให้ชนกลุ่มน้อยและทหารพม่าบางกลุ่ม
โรงงานของคนไทยได้เติบโต และขยายมากในพื้นที่พม่า จนในที่สุดชนกลุ่มน้อยที่แตกตัวออกมาจากขุนส่า และกลุ่มว้า เริ่มสนใจธุรกิจม้าจึงทั้งขอและบังคับให้เจ้าของคนไทยยอมบอกสูตรให้ และสุดท้ายธุรกจยาม้าก็ได้ไปตกอยู่ในมือของชนกลุ่มน้อยต่างๆ ของพม่าทั้งหมด
การผลิตและทำการตลาดของชนกลุ่มน้อยใช้ประสบการณ์จากการค้าเฮโลอีนทำให้ยาม้าได้แพร่ระบาดในประเทศไทยอย่างรวดเร็วจนน่าเป็นห่วง ไม่น่าที่จะเชื่อว่าโรงงานผลิตยาม้าที่เกิดขึ้นมากมายในประเทศพม่าบริเวณชายแดนภาคเหนือของประเทศไทย ที่แท้ก็มีต้นกำเนิดมาจากคนไทยเรานี่เอง สถานการณ์การผลิตยาบ้าในพื้นที่ชายอดน ปฏิบัติการของตำรวจภาคเหนือ ทำได้เพียงการตรวจค้นและจับยาม้าที่นำมาซ่อนตามหมู่บ้านคนไทยตามชายแดนเพื่อรอส่งให้ลูกค้าในไทย
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดมีข้อมูลระบุว่า หลายครั้งที่พวกนี้นำยาบ้าที่ผลิตแล้วมาซุกซ่อนไว้ที่หมู่บ้านอีก้อ ผาฮี้ อ.แม่สาย มีชาวเขาหลายหลังที่มีพฤติกรรมรวยผิดปกติแต่ผู้ใหญ่บ้านที่นี่ยืนยันว่า รวมเพราะทำไร่กาแฟ เพีงยไม่กี่ปีผู้ผลิตยาบ้าชาวไทยถ่ายทอดสูตรให้กับชนกลุ่มน้อยและชาวเขารวมกันผลิตยาบ้าขึ้นมาอย่างมากมาย พร้อมที่จะทะลักเข้าสู่ประเทศไทยตลอดเวลา ท่าหากเจ้าหน้าที่ปล่อยปะละเลยไม่ใส่ใจอย่างจริงจัง นี่คือเหตุการณ์ที่มียาบ้ามากมายอย่งเช่นทุกวันนี้
เรียบเรียงเขียนโดย teen.mthai.com
ขอบคุณข้อมูล ITV