การย้ายทีมของนักเตะนั้น นอกจากจะมีเรื่องค่าจ้างและข้อตกลงต่างๆ ในสัญญาแล้ว ยังมีอีกเรื่องหนึ่งที่นับว่าเป็นเรื่องสำคัญและเป็นเรื่องใหญ่ทีเดียวสำหรับนักเตะบางคน นั่นก็คือ หมายเลขเสื้อ

เรื่องนี้มักจะกลายเป็นปัญหาอยู่เสมอ ในปี 1928 เริ่มมีการนำหมายเลขเสื้อมาใช้ แล้วก็เลยกลายเป็นที่นิยมกันเรื่อยมา เพราะจะเป็นเรื่องง่ายขึ้น ถ้านักเตะทุกคนมีหมายเลขประจำตัว โดยผู้รักษาประตูก็จะได้ เบอร์ 1 กองหลังเบอร์ 2-5 กองกลาง ก็จะเป็นเบอร์ 6 และ 8 ส่วนปีกก็จะเป็นหมายเลข 7 และ 11 สุดท้ายศูนย์หน้าก็จะเป็นเบอร์ 9 และ 10

แต่ในปัจจุบันนี้ ปัญหาที่เกิดขึ้นก็คือ มีนักเตะหลายคนที่จะขอใช้เลขนำโชคของพวกเขานั้น เป็นเบอร์เสื้อ ในการเซ็นสัญญาฉบับใหม่

รายแรกที่จะพูดถึงได้แก่ ฮิชาม เซรูอัลลี่ นักเตะโมร็อคโค ที่ใส่เสื้อหมายเลข 0 ให้กับทีมอาเบอร์ดีน ในลีกสก็อตติช เมื่อปี 2000 จนเป็นเหตุให้ทางพรีเมียร์ลีกของทางสก็อตแลนด์ และอังกฤษ ต้องสั่งห้ามใช้เบอร์ 0 ในปีถัดมา

ต่อมาเป็นเบอร์เสื้อของผู้รักษาประตู ส่วนใหญ่จะได้เสื้อหมายเลข 1 แต่เมื่อมาเจอนักเตะไฮโปรไฟล์ อย่าง ออสวัลโด้ อาดิเลส นั้น ผู้รักษาก็ต้องยอมมอบเสื้อเบอร์ 1 ให้นักเตะอาร์เจนไตน์รายนี้ไป ทั้งที่เมื่อตอนที่เขาช่วยให้ทีมชาติอาร์เจนติน่าคว้าแชปม์โลกในปี 1978 นั้น เขายังใส่เสื้อเบอร์ 2 อยู่เลย และหลังจากนั้นมาอีกสี่ปี เขาก็ได้ใส่เสื้อหมายเลข 1 และตั้งแต่ปี 1978 ถึง 1986 อาร์เจนติน่าจะมอบเบอร์เสื้อให้กับนักเตะ เรียงตามลำดับตัวอักษรของนามสกุล และมาเลิกเอาที่ตอนมาราโดน่าต้องการใส่เสื้อหมายเลข 10

รายต่อมาเป็นผู้รักษาประตูจอมสร้างสีสัน ฮอร์เก้ คัมโปส ไม่เรื่องน่าประหลาดใจเลยที่เขาจะไม่สนเสื้อหมายเลข 1 แต่กลับไปใส่เสื้อเบอร์ 9 และ 19 แทน และเป็นเรื่องปกติที่จะเห็นเขาเลี้ยงลูกมาจนถึงกลางสนาม เพราะเคยเป็นอดีตศูนย์หน้าที่ใส่เสื้อหมายเลข 9 มาแล้วนั่นเอง

เลขนำโชคของ อซาโมอาห์ กียาน คือ หมายเลข 3 แต่หลังจากเซ็นสัญญากับซันเดอร์แลนด์ เขาไม่สามารถใส่เสื้อเบอร์ที่ต้องการได้ ก็เลยต้องเลือกใช้เบอร์ 33



ยูโตะ นากาโตโมะ ปกติแล้วจะใส่เสื้อหมายเลข 5 เวลาเล่นให้กับทีมชาติญี่ปุ่น แต่พอย้ายมาอยู่กับทีม เอซี มิลาน ก็ต้องยอมใส่หมายเลข 55 แทน



ติดตามอ่านเพิ่มเติมได้ที่ http://www.keela360.com/home/view.aspx?id=2400