นำเสนอข่าวโดยทีมงาน Sanook.com

(6 ก.ย.) จากกรณี น.ส.สายฝน มาน้อย อายุ 26 ปี ชาว จ.กำแพงเพชร ซึ่งพิการเดินไม่ได้ เข้าร้องทุกข์ต่อ พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รอง ผบก.ป. หลังถูกอดีตนักเรียนรุ่นพี่ 7 คน รุมทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส และกลายเป็นคนพิการเดินไม่ได้ในที่สุด เหตุเกิดเมื่อปี 2545 โดยมีผู้ก่อเหตุ 4 คนยอมเข้ามอบตัวในปี 2552 แต่ยังขาดผู้ร่วมก่อเหตุอีก 3 คนที่ยังลอยนวลอยู่ ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นลูกสาวของนายตำรวจคนหนึ่ง จึงเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมในคดี

หลังรับแจ้ง ทาง พ.ต.อ.ประสพโชค จึงได้มอบหมายให้ชุดสืบสวน กก.2 บก.ป.เร่งสืบสวนติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่เหลือ ซึ่งยังหลบหนีคดีอยู่

ล่าสุด พ.ต.ท.ต่อศักดิ์ ปานกลิ่นพุฒ สว.กก.2 บก.ป. ร.ต.อ.เอนก บุญตา รอง สว.กก.2 บก.ป. ร่วมกันนำกำลังจับกุมตัว น.ส.บังอร แสงลุน อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 136 หมู่ 13 ต.บ้านเดื่อ อ.เมือง จ.หนองคาย ได้บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 11 บ้านนาศรี ต.สะอาด อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น

จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ โดยอ้างว่า ขณะเกิดเหตุกำลังนั่งกินข้าวอยู่ในโรงอาหารของโรงเรียน แต่ช่วงที่กลุ่มเพื่อนตนรุมทำร้ายผู้เสียหายนั้น ไม่ได้ร่วมก่อเหตุด้วย ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้ได้โทรศัพท์ไปพูดคุยกับทางผู้เสียหายในฐานะที่เป็นรุ่นพี่ที่โรงเรียนแล้วว่า ไม่ได้ร่วมรุมทำร้ายแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ทางตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ ต้องทำการสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง เบื้องต้นแจ้งข้อหา "ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายสาหัส" ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางพลี ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ด้าน พ.ต.ต.ภูวนาถ แก่นจันทร์ สว.สส.สภ.บางพลี กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ทางตำรวจ สภ.บางพลี ได้ติดตามจับกุมตัวที่เหลือทั้ง 3 ราย โดยสามารถจับกุม น.ส.ศิรินันท์ จันดา ได้เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2557 จากนั้นได้จับกุม น.ส.มัทรียา สุดสวาท ซึ่งทางผู้เสียหายให้การว่า เป็นลูกสาวของข้าราชการตำรวจ ยศดาบตำรวจ ได้เมื่อวันที่ 4 กันยายน ที่ผ่านมา โดยผู้ต้องหาทั้งสองให้การยอมรับสารภาพ จึงแจ้งข้อหา ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายสาหัส จากนั้นนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีไปแล้ว ก่อนทางตำรวจ บก.ป.ดำเนินการติดตามจับกุมรายสุดท้ายได้ดังกล่าว