กองทัพสั่งลุยคดีรุกภูเรือ เมินตระกูลดังอยู่เบื้องหลัง

นำเสนอข่าวโดยทีมงาน Sanook.com

(6 ก.ย.) พ.อ.สมหมาย บุษบา คณะทำงานด้านกฎหมาย กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย กองทัพภาคที่ 2 เปิดเผยถึงกรณีที่ได้มีการเข้าตรวจยึดบ้านพักตากอากาศในพื้นที่ อำเภอภูเรือ จังหวัดเลย ว่า ภายหลังจากที่ได้รับการร้องขอจากผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ถึงกรณีที่มีนายทุนบุกรุกเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าภูเปือย ป่าภูขี้เถ้า และป่าภูเรือ (ภูผาสาด) ท้องที่บ้านหนองบง ม.4 ต.หนองบัว อ.ภูเรือ จ.เลย ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าได้มีการสร้างบ้านพักตากอากาศอยู่บนพื้นที่ยอดเขาเขตป่าสงวนจริง แต่จากการตรวจสอบไม่พบเจ้าของบ้าน แต่มีผู้ที่เช่าพื้นที่ทำการเพาะปลูกขิงในบริเวณดังกล่าวบอกว่า ได้ขอเช่าพื้นที่จาก ป้าจิตร โดยได้เช่า 1 แปลง เป็นเนื้อที่ 3 ไร่ 2 งาน ในราคาไร่ละ 1,500 บาท รวมเป็นเงิน 4,500 บาท ต่อปี

แต่จากการตรวจสอบบริเวณโดยรอบของตัวบ้านพักตากอากาศ พบว่า ได้มีการนำเอกสารแจ้งคำสั่งไม่ฟ้องนายพลวัต พิมลธารานุกูล เรื่องก่อสร้างแผ้วถางหรือเผาป่าหรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่าหรือเข้ายึดถือ ของสำนักงานอัยการจังหวัดเลย ที่ อส(ลย)0031/4221 ลงวันที่ 25 กันยายน 2549 ติดไว้ที่บริเวณด้านหน้าบ้านพัก เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการเก็บเอกสารดังกล่าวมาทำการตรวจสอบ แต่ในเบื้องต้นเอกสารดังกล่าวไม่ควรที่จะมีการนำมาขยายเพื่อแสดงเป็นประโยชน์ส่วนตัวได้ และการที่อัยการสั่งไม่ฟ้องก็เป็นดุลยพินิจซึ่งก็ถือได้ว่าเป็นคำสั่งที่เด็ดขาด

แต่เมื่อปรากฏว่ามีการบุกรุกต่อเนื่อง ก็จะต้องมีการดำเนินคดีใหม่ พนักงานสอบสวนก็จะต้องรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อทำการสั่งฟ้องใหม่ ซึ่งตนเองได้กำชับให้พนักงานสอบสวนในเรื่องการทำที่ดินสาธารณะหรือที่ดินของรัฐ จะต้องมีการนำแผนที่ทางอากาศมาประกอบในสำนวนการฟ้องด้วย เพื่อเป็นหลักฐานว่าพื้นที่ในสมัยก่อนกับปัจจุบัน มีความแตกต่างกันมากน้อยเพียงใด ส่วนกรณีที่มี ตระกูลชื่อดัง เข้ามาเป็นผู้ครอบครองพื้นที่โดยมีนอมีนี ในการถือครองนั้น ในเรื่องนี้ได้มอบหมายให้เจ้าของพื้นที่ คือ ป่าไม้จังหวัดเลย เพราะจะสามารถรู้ได้ว่าเจ้าของบ้านที่แท้จริงคือใคร ส่วนที่ทราบในปัจจุบันนั้นเป็นเพียง นอมีนี

"ล่าสุดทางป่าไม้จังหวัดเลย ก็ได้มีการเข้าตรวจสอบพื้นที่ พร้อมทั้งได้มีการมอบหมายหน้าที่ในการดำเนินการ โดยตัวอาคารที่ได้มีการก่อสร้าง ก็มอบให้ทาง อบต.ออกคำสั่งการปกครองในการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง ในส่วนของพืชผลทางการเกษตร ก็จะต้องบังคับใช้กฎหมายตามมาตรา 25 ของป่าไม้ โดยการดำเนินการทุกอย่างจะต้องมีการรายงานผลการดำเนินการทุกขั้นตอน โดยมีการรายงานผ่านทางจังหวัด แต่ในส่วนของกองทัพภาคที่ 2 ก็จะดูแลและกำกับในภาพรวม เนื่องจากกรณีนี้เป็นกรณีที่มีประชาชนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก ส่วนในกรณีที่มีตระกูลชื่อดังเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับการบุกรุกพื้นที่ของรัฐในครั้งนี้ ตนเองยืนยันว่าไม่หนักใจอะไร เพราะที่ผ่านมา ตนได้ทำงานด้วยความเป็นข้าราชการไม่ได้เป็นการกลั่นแกล้งใครๆ ทั้งสิ้น" พ.อ.สมหมาย กล่าว

Credit: http://news.sanook.com/
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...