ดื่ม น้ำอัดลมไดเอท ช่วยได้จริงหรือ ?

สำหรับผู้ที่ติดน้ำอัดลมแต่ต้องการควบคุมน้ำหนัก น้ำอัดลมปราศจากน้ำตาลหรือ น้ำอัดลมไดเอท เป็นเสมือนเครื่องดื่มจากพระเจ้า แต่ความเชื่อดังกล่าวกำลังถูกสั่นคลอน ด้วยผลการวิจัยใหม่ล่าสุด ที่ทำให้เราพบว่าสมมุติฐานนี้ไม่จริงอีกต่อไป !

ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์เทกซัส ได้ทำการเก็บข้อมูลและทำการวิจัยพฤติกรรมการดื่ม น้ำอัดลมไดเอท จากกลุ่มตัวอย่าง 474 คนในช่วงอายุระหว่าง 65-74 ปี เป็นระยะเวลา 10 ปี พบว่ากลุ่มตัวอย่างที่ดื่ม น้ำอัดลมไดเอท 2 แก้ว (หรือ 2 กระป๋อง) ต่อวันอย่างสม่ำเสมอน้ำหนักจะเพิ่มมากขึ้นถึงร้อยละ 70 เมื่อเทียบกับคนที่ไม่ดื่มน้ำอัดลม เห็นตัวเลขก็น่าตกใจนะครับ ว่าแต่ทำไมถึงเป็นอย่างนั้น

นักวิทยาศาสตร์พบว่า น้ำตาลเทียมอาจหลอกลิ้นเราได้ แต่มันไม่สามารถหลอก ‘สมอง’ ของเราได้จากการศึกษาภาพ MRI Scan ของสมอง พวกเขาพบว่าสมองสามารถแยกแยะความแตกต่างและไม่มีความพอใจต่อรสชาติของน้ำตาลเทียม นั่นหมายความว่าเมื่อสมองยังไม่พึงพอใจต่อน้ำตาลเทียมก็มีแนวโน้มที่สมองจะสั่งการให้เรากินอาหารอื่นเพิ่มขึ้นอีกเพื่อสนองความต้องการให้สมบูรณ์ ผลที่ตามก็คือ นอกเหนือจากมันไม่ช่วยลดน้ำหนักแล้ว มันยังเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคอื่นๆ ที่มากับการบริโภคน้ำตาล เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือด ทั้งโรคที่เกี่ยวข้องกับการบวนการเผาผลาญอาหาร ซึ่งส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือด ระดับคอเลสเตอรอล และไขมันรอบเอวของคุณ

อย่างไรก็ดี นักวิจัยระบุว่า การดื่มน้ำอัดลมแบบไดเอทวันละไม่เกิน 2 กระป๋อง ไม่ส่งผลร้ายใดๆ และแน่นอนว่ามันดีกว่าการดื่มน้ำอัดลมธรรมดา และยังไม่พบความเกี่ยวข้องว่าสารทดแทนน้ำตาลเหล่านี้ก่อให้เกิดมะเร็งเหมือนที่มีข่าวลือออกมาก่อนหน้านี้ จริงๆก่อนหน้านี้ 6 ปี ก็มีนักวิทยาศาสตร์ทำการวิจัยในเรื่องนี้พบว่า มีข้อมูลที่ยืนยันผลการวิจัยคล้ายๆกันว่า มีความเกี่ยวข้องกันอย่างน่าประหลาดถึงความสัมพันธ์บางประการระหว่างผู้ดื่ม น้ำอัดลมไดเอท กับการเพิ่มของน้ำหนักตัว โดยพบว่าผู้ที่ดื่มน้ำอัดลมประเภทไดเอทวันละ 1 กระป๋องจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการมีน้ำหนักมากขึ้นในช่วง 7-8 ปีข้างหน้าราวร้อยละ 65 และมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคอ้วนร้อยล่ะ 41 โดยความเสี่ยงเหล่านี้จะเพิ่มขึ้นตามปริมาณการดื่ม น้ำอัดลมไดเอท ที่ดื่มในแต่ละวันคนที่ดื่มเกิน 2 กระป๋องต่อวันก็มีความเสี่ยงมากขึ้นเรื่อยๆ

ขอแนะนำคุณอย่างนี้ครับว่า ทางที่ดีเลิกเลยดีกว่า น้ำอัดลมไม่ใช่เครื่องดื่มที่มีประโยชน์อะไรนอกจากให้ความสดชื่นเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้นเองน้ำตาลเทียมอาจหลอกลิ้นของเราได้ แต่มันไม่สามารถหลอก ‘สมอง’ ของเรา

DID YOU KNOW ?

น้ำตาลเทียมมีกี่ประเภทคนไทยคงคุ้นเคยกับชื่อขัณฑสกร ทว่ามีอย่างอื่นอีกไหมที่ใช้ทดแทนน้ำตาลและดูปลอดภัยกว่านั้น

แซคคาริน (Saccharin) หรือขัณฑสกร  จริงๆ มีความเชื่อว่าแซคคารินไม่ค่อยปลอดภัยแต่ปัจจุบันหากใช้ในปริมาณที่ควบคุมถือว่าปลอดภัยแต่ไม่ค่อยนิยมใช้ เพราะให้ความหวานมากเกินไปจนอาจทำให้รสชาติของอาหารเปลี่ยน แอสพาร์เทม (Aspartame) ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะให้รสชาติที่ใกล้เคียงกับน้ำตาลทรายที่สุด และให้ความหวานมากกว่าน้ำตาล 200-300 เท่าในปริมาณเดียวกัน ข้อเสียก็คือจะสลายตัวอย่างรวดเร็วในอุณหภูมิสูง ไซลิทอล (Xylitol) มีประโยชน์หลายอย่าง โดยเฉพาะกระตุ้นการหลั่งน้ำลาย ช่วยลดจำนวนแบคทีเรียในช่องปาก ลดการเกิดหินปูน ลดปริมาณการเกิดคราบฟัน ลดเชื้อสเตรปโตคอคคัสมิวแทนส์ ที่อาศัยอยู่ในคราบฟันลงได้ จึงนิยมผสมในหมากฝรั่ง สตีวิโอไซด์ (Stevioside) นิยมใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร เพราะมันไม่ทำให้อาหารเปลี่ยนสีเมื่อเจอความร้อนสูง ไม่ถูกย่อยสลายโดยจุลินทรีย์ ทำให้อาหารบูดเน่าช้า ให้พลังงานต่ำมากเมื่อเทียบกับน้ำตาล นอกจากในอาหาร สตีวิโอไซด์ ยังถูกใช้ในการผลิตยาสีฟันและบุหรี่
Credit: PostJung
#น้ำอัดลม
PatPuch
ผู้กำกับภาพ
สมาชิก VIP
6 ก.ย. 57 เวลา 14:36 1,447
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...