ตีแผ่เรื่องสลด เด็กชายเร่ร่อนในปากีฯ นับล้าน ถูกผู้ชายข่มขืน

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ภาพประกอบจาก NICOLAS ASFOURI / AFP

            ตีแผ่เรื่องราวสุดสลด เด็กชายเร่ร่อนในปากีสถานนับล้านตกเป็นเหยื่อกามารมณ์ชายโสด

            เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2557 เว็บไซต์เดลี่เมลของอังกฤษ เปิดเผยเรื่องราวน่าสลดใจในมุมหนึ่งของเมืองเปชวาร์ ทางตอนเหนือของปากีสถาน เมื่อเด็กชายเร่ร่อนนับล้านต้องใช้ชีวิตอย่างไม่มีหลักมีแหล่งตามท้องถนน และเกือบทั้งหมดได้ตกเป็นเหยื่อของชายวัยผู้ใหญ่ที่ใช้พวกเขาเป็นเครื่องมือสนองตัณหาทางเพศ แลกกับค่าตอบแทนราคาถูก จนเด็กชายหลายรายต้องอยู่กับฝันร้ายไปตลอดชีวิต ขณะที่อีกหลายรายไม่สามารถพาตัวเองออกจากวังวนอันโหดร้ายนี้ได้ พวกเขาเติบโตขึ้นและกลายเป็นผู้กระทำต่อเด็กชายคนอื่น ๆ เสียเอง

            จากบทความดังกล่าวซึ่งมีที่มาจากสารคดีเรื่อง Pakistan's Secret Shame ระบุว่า ปากีสถานมีเด็กเร่ร่อนที่อาศัยอยู่ตามท้องถนนราว ๆ 1.5 ล้านคนทั่วประเทศ ส่วนใหญ่เป็นเด็กผู้ชาย พวกเขามีชะตาชีวิตไม่แตกต่างกันมากนัก นั่นคือ กว่า 90 เปอร์เซ็นต์ล้วนเป็นเหยื่อกามารมณ์ของชายโสด ไม่มีครอบครัว และส่วนใหญ่เป็นคนขับรถเมล์ พวกเขามีเพศสัมพันธ์กับเด็กชายข้างถนนได้หมดไม่เว้นแม้แต่เด็กชายที่อายุเพียง 6 ขวบเท่านั้น และที่น่าตกใจไปกว่านั้น คือชายโสดผู้นิยมการมีเพศสัมพันธ์กับเด็กข้างถนนเหล่านี้ ไม่ได้รู้สึกผิดกับการกระทำเช่นนี้เสียด้วย

            โดย อิจาซ พนักงานขับรถเมล์ในปากีสถานในวัย 20 ต้น ๆ ได้เปิดเผยว่าเขาเองเป็นชายโสดที่ขับรถเมล์ตระเวนไปตามท้องถนนในเมืองเปชวาร์ทุกวัน เพื่อหาเลี้ยงปากท้อง และเมื่อตกกลางคืน เขาก็มีชีวิตเหมือนกับชายโสดอีกหลาย ๆ คน นั่นคือตระเวนหาเด็กชายเร่ร่อนมาเป็นเครื่องมือสนองตัณหาทางเพศ โดยให้ค่าตอบแทนเป็นเงินเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่เมื่อไรที่ไม่มีเงินก็จะข่มขืน พร้อมเล่าถึงประสบการณ์ของตัวเองให้ฟังว่า ครั้งหนึ่งมีเด็กชายคนหนึ่งขึ้นมาบนรถ แล้วผู้ชายบนรถก็พากันมีเพศสัมพันธ์กับเด็ก เขาเองก็ถูกเชิญชวนให้ทำเช่นนั้น จึงร่วมเอี่ยวด้วย เพราะยังไงเด็กคนนั้นก็เป็นผู้ชายด้วยกันเอง พร้อมกับบอกว่าตั้งแต่เขาขับรถเมล์มาก็ข่มขืนเด็กชายไปกว่า 12 คนแล้ว

            เช่นเดียวกับชายโสดอีกหลายคน พวกเขารู้สึกว่าการข่มขืนเด็กผู้ชายนั้นไม่ใช่เรื่องแปลกหรือผิดอะไร โดยจากการสำรวจความเห็นผู้ชายปากีสถาน 1,800 ราย พบว่า 3 ใน 4 ของผู้ชายจำนวนนี้มองว่าการข่มขืนเด็กผู้ชายไม่ใช่เรื่องโหดร้ายอะไรเลย เป็นเรื่องปกติเสียด้วยซ้ำ

            ด้าน นาอีม เด็กชายวัย 13 ปี หนึ่งในเหยื่อกามารมณ์ของบรรดาชายโสด ได้เล่าถึงชะตาชีวิตของตัวเองว่า เขากลายเป็นเด็กชายเร่ร่อนตั้งแต่อายุ 8 ขวบ หลังจากพ่อแม่เขาเสียชีวิตและเขาหนีการตบตีของพี่ชายออกมาใช้ชีวิตตามท้องถนน จากนั้นชีวิตของเขาก็เข้าสู่ความดำมืด เขาติดเฮโรอีนและทำร้ายตัวเองอยู่เสมอเพื่อระบายอารมณ์โมโหของตัวเอง และแม้ว่าตอนนี้เขาจะขายตัวเพื่อนำเงินมาซื้อยาเสพติด แต่ก็ถึงกับน้ำตาไหลเมื่อพูดถึงประสบการณ์ชีวิตอันโหดร้าย

            "มีครั้งหนึ่งผมนอนหลับอยู่บนถนน แล้วก็มีผู้ชาย 4 คน ลากตัวผมไปบนรถ คนหนึ่งเป็นคนขับรถเมล์ นอกนั้นเป็นพวกติดเฮโรอีน ทั้งหมดข่มขืนผม ส่วนการขายตัวครั้งแรกของผม เกิดขึ้นเพราะผมไม่มีเงินจริง ๆ ผมมีเพศสัมพันธ์กับผู้ชาย 3 ครั้ง แลกกับเงิน 880 บาท ผมอายุเพียง 8 ขวบตอนนั้น ยังเด็กมากจริง ๆ แต่หลังจากวันนั้นผมก็กินข้าวไม่ได้อยู่ 2-3 วัน ผมร้องไห้ทั้งคืน ถามตัวเองว่าผมทำอะไรลงไป ผมหาเงินด้วยวิธีนี้"

            อย่างไรก็ดีหลังจากที่นาอีมเล่าเรื่องประสบการณ์น่าสลดนี้ เขาก็ได้สารภาพต่อว่าเขาไม่ได้เป็นเพียงผู้ถูกกระทำเท่านั้น แต่เป็นผู้กระทำเสียเองด้วย โดยวันหนึ่งเขาได้เจอกับเด็กชายวัย 10-11 ปี เขาพาเด็กชายคนนี้ไปดูหนังและใช้เงินไปกับเด็กคนนี้ และเมื่อออกจากโรงหนัง เด็กชายกลับบอกว่าไม่อยากจะทำเช่นนี้อีกแล้ว เขาเลยข่มขืนเด็กชาย

            เหตุการณ์ดังกล่าวได้สะท้อนให้เห็นสังคมที่น่าหวาดกลัวในปากีสถาน เพราะไม่ใช่แค่นาอีมเท่านั้นที่ประสบชะตากรรมเช่นนี้ แต่ยังมีเด็กชายอีกมากมายที่ต้องตกเป็นเหยื่อตัณหาของผู้ชายด้วยกันเองเพื่อแลกเงินประทังชีวิต ซึ่งทางด้านอิมราน คาน อดีตนักการเมืองท้องถิ่น ได้เปิดเผยว่า นี่เป็นหนึ่งในปัญหาที่น่าเศร้าและน่าอับอายของสังคมปากีสถาน เขารู้สึกอายมากกับสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ มันน่าละอายจริง ๆ ที่เราไม่สามารถปกป้องพวกเด็ก ๆ ได้เลย

            ขณะที่ อิจาซ พนักงานขับรถเมล์ผู้สารภาพว่าข่มขืนเด็กชายมา 12 รายได้เปิดเผยทิ้งท้ายว่า"ผมอยากมีภรรยาดี ๆ สักคนนะ แต่ตอนนี้ยังไม่มี จะให้ทำอย่างไรได้ เรารู้ว่านี่เป็นพฤติกรรมที่ขัดต่อหลักศาสนาอิสลาม พระเจ้าทรงไม่ปลาบปลื้มหรอก แต่เราก็ไม่อาจห้ามความปรารถนาของตัวเองได้เหมือนกัน"