ประโยชน์ดีๆ จากกล้วย 4 วัย

กล้วย เป็นผลไม้ที่มีสรรพคุณมากมาย สามารถนำมาทำอาหารได้หลายชนิด อีกทั้งยังดีต่อสุขภาพทั้งภาพในและภายนอก หลายคนอาจชอบทานกล้วยกันอยู่แล้ว แต่รู้ไหมว่ากล้วยนั้นไม่ได้มีประโยชน์เพียงตอนสุกเท่านั้น แต่ในทุกระยะกล้วยต่างก็มีประโยชน์ด้วยกันทั้งสิ้น วันนี้ที่นี่ดอทคอมขอนำเสนอประโยชน์จากกล้วย 4 วัย ที่ทานแล้วได้ประโยชน์

1. กล้วยดิบ

          ลักษณะที่เด่นชัดคือ มีเปลือกสีเขียวสด เนื้อกล้วยมีสีขาว หากจับดูจะแข็งกว่ากล้วยระยะอื่นๆ ในกล้วยดิบนี้จะมีรสฝาดซึ่งมีสารชื่อว่า แทนนิน ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย และช่วยป้องกันผนังกระเพาะลำไส้ไม่ให้เชื้อโรคและอาหารรสเผ็ดจัด เช่น พริก เข้าไปทำลายผนังกระเพาะลำไส้ ช่วยแก้ท้องเสีย


2. กล้วยที่เพิ่งเริ่มสุก (กล้วยห่าม)

          สังเกตุง่ายๆ คือ เปลือกยังมีสีเขียวอยู่ประปราย ลักษณะจะมีความนุ่มมากขึ้น สามารถเป็นได้ทั้งยาและอาหารที่ดีมากสำหรับคนท้องเสีย เพราะนอกจากจะช่วยแก้ท้องเสียแล้ว ยังช่วยหล่อลื่นลำไส้ ช่วยเพิ่มกากเวลาขับถ่าย กล้วยระยะนี้มีธาตุโพแทสเซียมสูงมาก ดังนั้นเวลาท้องเสียแล้วรับประทานกล้วยห่าม เท่ากับให้ธาตุโพแทสเซียมไปด้วย


3. กล้วยสุก

          จะมีสีเหลืองเพิ่มมากขึ้น และอาจมีจุดสีน้ำตาลประปราย มีความนิ่มมากขึ้น กล้วยระยะนี้เป็นยาระบายแก้ท้องผูกที่ดีที่สุด เพราะมีสารเพ็กตินอยู่มาก ช่วยเพิ่มกากในลำไส้ หากรับประทานเป็นประจำวันละ 5-6 ลูก จะเห็นผลว่าการขับถ่ายดีขึ้น 


4. กล้วยสุกงอม

          มีสีน้ำตาลมากขึ้นตามเปลือกกล้วย และมีความนิ่มมากที่สุด ส่วนใหญ่คนมักไม่นิยมรับประทานกล้วยระยะนี้ เพราะคิดว่ามันคงเน่าแล้ว กล้วยที่สุกเต็มที่จะสร้างสารที่เรียกว่า TNF ซึ่งมีความสามารถที่จะไปต่อสู้กับเซลล์ที่ผิดปกติ ยิ่งกล้วยสุกมากเท่าไหร่ ก็จะเกิดจุดสีดำที่เปลือกมากขึ้น ยิ่งมีจุดดำนี้มากขึ้นเท่าไหร่ ก็จะยิ่งทำให้เกิดภูมิต้านทานมากขึ้น 

ซึ่งในการทดลองโดยศาสตราจารย์ญี่ปุ่นแห่งมหาวิทยาลัยโตเกียว ในการเปรียบเทียบประโยชน์ที่ได้จากผลไม้ต่างๆ พบว่าว่า กล้วยให้ผลดีที่สุด มันช่วยให้เม็ดเลือดขาวเพิ่มขึ้น เพิ่มภูมิต้านทานของร่างกาย และสร้างสารต้านมะเร็ง

ต่อไปนี้เราก็สามารถทานกล้วยได้อย่างมีความสุขมากขึ้นแล้วนะคะ เพราะกล้วยทุกระยะนั้นมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากจริงๆ หากทานไม่ทัน กลัวว่าจะเน่าก่อน ก็นำไปแปรรูปเป็นอาหารอื่นๆ ที่คุณชอบก็ได้ค่ะ

เรียบเรียงโดยที่นี่ดอทคอม

ขอบคุณข้อมูลจาก :: www.thaihealth.or.th
Credit: http://variety.teenee.com/foodforbrain/63513.html
5 ก.ย. 57 เวลา 05:23 3,202 30
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...