สยอง! IS แพร่คลิปฆ่าตัดหัวนักข่าวมะกันรายที่ 2 ตอบโต้ “โอบามา” ไม่หยุดโจมตี

 

 

       
       
       
       
       รอยเตอร์/เอเอฟพี - กบฏรัฐอิสลาม (ไอเอส) เผยแพร่วิดีโอที่อ้างว่าเป็นภาพการลงทัณฑ์ตัดศีรษะนายสตีเฟน ซอตลอฟฟ์ เมื่อวันอังคาร (2 ก.ย.) นับเป็นการสังหารโหดตัวประกันอเมริการายที่ 2 ในเวลาห่างกันแค่ 2 สัปดาห์ ขณะที่พวกเขาเพิ่มเดิมพันตอบโต้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของวอชิงตันในอิรัก พร้อมส่งสารถึงโอบามา ขู่ว่าหากยังเดินหน้าถล่มนักรบของพวกเขาก็จะได้เห็นมีดปักคอพลเรือนสหรัฐฯ อยู่เรื่อยๆ
       
       กลุ่มเฝ้าระวังก่อการร้าย SITE ระบุว่า ชายสวมหน้ากากในวิดีโอยังขู่ปลิดชีพตัวประกันชาวอังกฤษอีกคน ที่พวกนักรบบอกว่าชื่อ เดวิด ไฮน์ส และเตือนรัฐบาลชาติต่างๆให้ถอยห่างจากพันธมิตรที่ชั่วร้ายอย่างอเมริกา
       
       ดูเหมือนว่าเพชฌฆาตรายนี้น่าจะเป็นคนเดียวกับที่พูดจาภาษาอังกฤษสำเนียงแบบคนอังกฤษแท้ๆ ที่ปรากฏตัวในวิดีโอฆ่าตัดศีรษะนายเจมส์ โพลีย์ ผู้สื่อข่าวสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ขณะเดียวกัน ฉากแห่งการสังหารก็ถูกจัดขึ้นกลางทะเลทราย และตัวประกันก็สวมชุดสวมชุดสีส้มแบบเดียวกับชุดนักโทษในฐานทัพเรือกวนตานาโมเหมือนกันอีกด้วย
       
       “ข้ากลับมาแล้ว โอบามา และข้ากลับมาเพราะนโยบายต่างประเทศต่อรัฐอิสลามที่หยิ่งจองหองของแก เพราะแกยังดื้อด้านเดินหน้าโจมตีทางอากาศ แม้ว่าเราจะเตือนอย่างจริงจัง” ชายคนดังกล่าวบอก “ดังนั้น เมื่อขีปนาวุธของแกยังโจมตีผู้คนของเรา มีดของเราก็ยังจะทิ่มแทงเชือดคอประชาชนของแกเช่นกัน”
       
       ซอตลอฟฟ์ได้กล่าวในวิดีโอว่า เขาต้อง “ชดใช้” ให้แก่การแทรกแซงในอิรักของสหรัฐฯ ด้วยชีวิต
  กบฏรัฐอิสลาม(ไอเอส) เผยแพร่วิดีโอที่อ้างว่าเป็นภาพการลงทัณฑ์ตัดศีรษะนายสตีเฟน ซอตลอฟฟ์ ชาวสหรัฐฯ        นายซอตลอฟฟ์ ผู้สื่อข่าวอิสระ ถูกลักพาตัวในซีเรียเมื่อเดือนสิงหาคม 2013 และไม่กี่วันที่ผ่านมา มารดาของเขาวิงวอนผ่านวิดีโอขอความเมตตาให้นายอาบู บาการ์ อัล-บักดาดี หัวหน้ากลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ไว้ชีวิตและปล่อยตัวบุตรชาย โดยเธอยืนยันว่าบุตรชายไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดกับภารกิจทางทหารของรัฐบาลสหรัฐฯ และเดินทางไปยังตะวันออกกลางเพื่อทำข่าวตามหน้าที่เท่านั้น
       
       ในวิดีโอที่เผยแพร่เมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว พวกรัฐอิสลามกล่าวว่าการตายของนายโพลีย์ คือการแก้แค้นต่อปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของสหรัฐฯ ต่อนักรบของพวกเขาในอิรัก และชะตากรรมของนายซอตลอฟฟ์ อยู่ที่การตัดสินใจของประธานาธิบดีบารัค โอบามา
       
       สหรัฐฯ กลับมาโจมตีทางอากาศในอิรักเมื่อเดือนสิงหาคม ถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ยุติการรุกรานทางทหารในปี 2011 โดยการจู่โจมดังกล่าวมีขึ้นตามหลังนักรบรัฐอิสลาม ตีกวาดรุกคืบยึดพื้นที่บริเวณกว้างของอิรัก และประกาศจัดตั้ง “รัฐอิสลาม” ที่ปกครองด้วยระบบคอลีฟะห์ (กาหลิบ) บนดินแดนที่พวกเขายึดครองในอิรักและซีเรีย
       
       ที่วอชิงตัน ทำเนียบขาวบอกว่ายังไม่ขอยืนยันคลิปนี้ โดยเจน ซากี โฆษกกระทรวงหารต่างประเทศบอกว่าหน่วยงานต่างๆ ด้านข่าวกรองของสหรัฐฯ กำลังเร่งมือตรวจสอบเพื่อสรุปว่ามันเป็นของจริงหรือไม่ “ถ้าวิดีโอนี้เป็นของจริง เราก็รู้สึกสะอิดสะเอียดต่อการกระทำอันโหดเหี้ยมเอาชีวิตพลเมืองผู้บริสุทธิ์ของสหรัฐฯ อีกคน เราขอส่งกำลังใจถึงครอบครัวซอตลอฟฟ์”
       
       ด้านนายเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีอังกฤษเมื่อวันอังคาร (2 ก.ย.) ก็ประณามวิดีโอของพวกรัฐอิสลาม ที่เผยภาพการฆ่าตัดศีรษะผู้สื่อข่าวสหรัฐฯ รายที่ 2 และขู่ปลิดชีพตัวประกันชาวอังกฤษอีกคนว่า “น่าขยะแขยง”