เกิดเรื่องสลดอีกครั้ง เมื่อนักศึกษาวิทยาลัยชื่อดังในจังหวัดปทุมธานี พารุ่นน้องไปทำกิจกรรมรับน้องใหม่ที่ อ.หัวหิน กรอกเหล้า และถีบลงทะเล จนนักศึกษาวัย 16 ปี เสียชีวิต
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 29 ส.ค.ที่ผ่านมา โดย กลุ่มนักศึกษาจากเทคนิคปทุมธานี ประมาณ 30 คน ได้พานักศึกษารุ่นน้องไปทำกิจกรรมรับน้องใหม่ ที่หาดทรายน้อย อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยไม่มีคณะอาจารย์มาด้วย
โดยได้ให้ นายโภไคย แสงโรจน์รัตน์ หรือ น้องกัน อายุ 16 ปี นักศึกษาชั้น ปวช.ปี 1 ดื่มสุรา แล้วกระโดดถีบลงทะเล ก่อนที่จะจับศีรษะกดกับพื้นทราย จนทำให้น้องกัน สำลักออกมาเป็นเลือด และหมดสติไป เพื่อน ๆ ได้พากันนำส่งโรงพยาบาล แต่ไม่สามารถช่วยชีวิตไว้ได้
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบที่บริเวณชายหาด มีร่องรอย การก่อกองไฟ 3 จุดรวมทั้งมีขวดเหล้า และขวดเครื่องดื่มตกอยู่ จำนวนมาก
ขณะที่ผู้เห็นเหตุการณ์ที่เป็นเจ้าของร้านอาหารและบ้านพัก เล่าว่า นักศึกษากลุ่มมากันประมาณ 30-40 คน ทั้งรุ่นพี่รุ่นน้อง มีการก่อกองไฟ ดื่มเหล้า และมีการจัดกิจกรรมรับน้องใหม่ด้วยวิธีต่างๆ ทั้งให้นักศึกษารุ่นน้องมายืนเรียงกัน จากนั้นจะมีรุ่นพี่ถีบรุ่นน้องลงไปในทะเลตั้งแต่ช่วงค่ำจนถึงรุ่งเช้า ซึ่งนักศึกษาที่เสียชีวิตสลบไปที่บริเวณชายหาด และพบว่ามีเลือดออกปาก ออกจมูก จึงมีกลุ่มนักศึกษาช่วยกันหามร่างเด็กชายคนดังกล่าวขึ้นท้ายรถยนต์กระบะออกไป
ขณะที่ตำรวจ สภ.หัวหิน ได้นำตัวนักศึกษาที่เดินทางมาด้วยกันทั้งหมด ประมาณ 30 คน มาสอบปากคำ โดยได้มีการจัดพนักงานสอบสวนแยกสอบปากคำกับนักศึกษาที่เห็นเหตุการณ์
โดยทั้งหมดให้การไปในทิศทางเดียวกันว่า รุ่นพี่ไม่ได้ใช้ความรุนแรงกับผู้ตาย เป็นเพียงการเข้าฐานรับน้องริมทะเลที่มีทั้งหมด 7 ฐาน แต่ละฐานก็จะเป็นกิจกรรม เช่น การกินขนมกันปากต่อปาก ใช้นมข้นหวานทาตัวแล้วให้เพื่อนเลีย บางฐานก็เป็นการทดสอบให้ท่องกลอน หรือร้องเพลงของคณะ หรือแผนก ถ้าร้องหรือท่องไม่ได้ก็จะถูกลงโทษด้วยการวิดพื้นบ้าง ลุกนั่งในน้ำบ้างเท่านั้น
ซึ่งคำให้การของนักศึกษาขัดแย้งกับคำให้การของผู้เห็นเหตุการณ์อย่างสิ้นเชิง เพราะชาวบ้านเห็นว่ามีการหิ้วปีกลงไปในน้ำ มีการกรอกเหล้า และจับหน้าของผู้ตายซุกพื้นทราย ถีบลงทะเล
ด้าน นายพาณุพงศ์ แสงโรจน์รัตน์ และนางศิริวิมล แสงโรจน์รัตน์ พ่อแม่ของน้องกัน เมื่อรู้ว่าลูกชายคนเดียวเสียชีวิต ก็ร่ำไห้แทบขาดใจ เพราะไม่คิดว่าการเดินทางออกมาเที่ยวทะเลที่ไม่ได้ไปกับพ่อแม่เป็นครั้งแรกต้องจบชีวิตลง
โดยทั้งคู่ บอกว่า น้องกัน เคยเป็นโรค ลูคิเมีย แต่ได้รักษาหายเมื่อ 4 ปีแล้ว แต่โดยปกติลูกชายจะไม่ค่อยแข็งแรงมีอาการเหนื่อยง่าย ก่อนออกจากบ้านมาได้ขอไปเที่ยวทะเลกับเพื่อนๆและรุ่นพี่ ซึ่งได้กำชับกับลูกว่า อย่าไปกินเหล้า ลูกชายก็รับปาก ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องร้ายแรงที่ต้องพรากลูกไปอย่างไม่มีวันกลับแบบนี้
ขณะที่ ศพของ ”น้องกัน”ได้ส่งไปผ่าพิสูจน์ที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัด คาดว่าน่าจะทราบผลอย่างเร็วได้ภายใน 3 วันนี้ โดยเบื้องต้น ยังไม่ได้ตั้งข้อหานักศึกษาคนใดเพราะยังอยู่ในระหว่างการสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้ง
ส่วนในเว็บไซด์ พันทิ มีการตั้งกระทู้ เรื่องราวเกี่ยวกับการรับน้องโหดครั้งนี้ ซึ่งมีผู้ที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก ซึ่งหลายคนบอกว่า การรับน้องควรจะมีผู้ใหญ่ หรืออาจารย์ไปดูแลอย่างใกล้ชิด และกิจกรรมการรับน้อง น่าจะเป็นกิจกรรมที่สร้างสรรค์ มากกว่าค่านิยมที่รุนแรง ถ้าหากอยากฝึกเรื่องความแข็งแกร่งของร่างกาย และจิตใจ ควรจัดไปฝึกกันที่ค่ายทหาร ไม่ใช่จัดกันเองแบบนี้
ซึ่งหลายความคิดเห็นต่างแสดงความเสียใจกับพ่อแม่ของน้องกัน ที่รักษาโรคร้ายให้หายกลับมาใช้ชีวิตแบบคนปกติได้ แต่ก็ต้องมาจบชีวิตลง เพราะความรุนแรง และอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยดูแล เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีกซ้ำซาก