เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก วรณัน
เกิดเหตุพ่อบังเกิดเกล้าจับลูกแฝดวัย 1 เดือน ฟาดลงกับพื้นจนกะโหลกแตก เสียชีวิต หลังเมายาบ้าอย่างหนัก หลอนว่าภรรยาเป็นสายตำรวจ
วันที่ 30 สิงหาคม 2557 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเหตุชายเมายาเสพติดคลุ้มคลั่งอาละวาด ทำร้ายลูกวัยทารกจนเสียชีวิต ทราบชื่อคือ นายเจษฎา ศรีหนองดุม อายุ 31 ปี ที่ปากซอยโรงหมูเจริญทรัพย์ ต.สามพี่น้อง อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี โดยชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ช่วยกันล้อมจับชายคนดังกล่าวไว้ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ที่เกิดเหตุบริเวณกลางถนนพบศพ ด.ช.เอ (นามสมมติ) อายุเพียง 1 เดือน กะโหลกศีรษะแตก เสียชีวิตอย่างน่าสยดสยอง โดยมี นางชไมพร ช้างพลีอายุ 25 ปี แม่เด็กยืนอุ้มลูกซึ่งเป็นแฝดพี่ของ ด.ช.เอ ร้องไห้อย่างน่าสงสาร โดยมีญาติ ๆ และเพื่อนบ้านช่วยกันปลอบใจ ส่วนคนที่ก่อเหตุก็คือพ่อแท้ ๆ ของ ด.ช.เอ ซึ่งอยู่ในอาการคลุ้มคลั่ง ชาวบ้านช่วยกันรุมประชาทัณฑ์ก่อนจับมัดไว้เพื่อรอส่งให้เจ้าหน้าที่
ทั้งนี้ นางชไมพร เล่าว่า ตนอยู่กับนายเจษฎามาประมาณปีกว่าแล้ว กระทั่งมีลูกแฝดด้วยกัน ก่อนเกิดเหตุช่วงหัวค่ำสามีขี่รถจักรยานยนต์พาตนอุ้มลูกซ้อนท้ายไปตามบ้านเพื่อนและญาติ กระทั่งดึกตนเห็นว่าลูกง่วงนอนจึงชวนสามีกลับบ้าน แต่ระหว่างทาง จู่ ๆ สามีซึ่งเสพยาบ้ามาก่อนหน้าเกิดอาการจิตหลอน คิดว่าตนเป็นสายให้กับตำรวจ จึงเกิดปากเสียงทะเลาะกันอย่างรุนแรง จนรถจักรยานยนต์เสียหลักล้มลง และสามีที่คลุ้มคลั่งหนักขึ้น ตรงเข้าไปบีบคอพร้อมแย่งลูกแฝดคนเล็กออกจากอ้อมแขนตนไป ก่อนจะจับขาลูกฟาดลงกับพื้นถนนอย่างแรงจนกะโหลกแตกเสียชีวิตอย่างน่าเวทนาต่อหน้าต่อตา ด้วยความตกใจตนจึงรีบอุ้มแฝดคนพี่วิ่งหนีไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้เคียง
ต่อมา หลังก่อเหตุสามีทิ้งศพลูกไว้ที่กลางถนน และตามมาอาละวาดตะโกนให้เอาลูกแฝดอีกคนออกมาเพื่อที่จะทำร้าย จนชาวบ้านที่เป็นกลุ่มผู้ชายทนไม่ไหวกรูกันเข้ารุมประชาทัณฑ์สามีตนจนสะบักสะบอม ก่อนจับมัดมือมัดเท้าแล้วแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาควบคุมตัวดังกล่าว
จากการตรวจสอบประวัติ เจ้าหน้าที่ บอกว่า นายเจษฎาเคยถูกจับคดียาเสพติดมาแล้ว เพิ่งพ้นโทษเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แต่ยังไม่เลิกพฤติกรรมมั่วสุมเสพยาบ้า ก่อนเกิดเหตุนายเจษฎาแอบไปเสพยาบ้ากับพวกจนเกิดอาการเมายาคลุ้มคลั่งและทำร้ายลูกชายตัวเองจนเสียชีวิต จนถึงขณะนี้ยังคลุ้มคลั่งโวยวายตลอดเวลาไม่สามารถสอบปากคำได้
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก