ที่มา http://campus.sanook.com/1373285/%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%A8%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B9%8C-%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%97%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%AD%E0%B8%B5%E0%B8%81-%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%95%E0%B8%B8%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%B2%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9E%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B8%87%E0%B8%88%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%81%E0%B9%83%E0%B8%88-%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%AB%E0%B8%B2/
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม ในช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้มีนักศึกษา นำป้ายประท้วง เกี่ยวกับ ราคาอาหาร ของโรงอาหารกลางมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ไปติดไว้ ณ บริเวณ โรงอาหารกลาง ที่มีการปรับปรุงให้เป็น กรีนแคนทีน ซึ่งเรายงานระบุว่า แต่เดิมมหาวิทยาลัย ต้องการที่จะสร้างขึ้นมาใหม่ แต่ประสบปัญหา เนื่องจากผู้รับเหมาเดิมทิ้งงานก่อสร้างไป ทำให้ต้องปรับเปลี่ยนมาเป็นการปรับปรุงแทน ซึ่งใช้เวลามากกว่าเกือบ 2 ปีแล้ว ภายหลังการปรับปรุงใหม่ ได้ให้เอกชนเข้ามาบริหารจัดการพื้นที่ รวมทั้งผลประโยชน์จากการบริหาร โดยความเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดคือ ราคาอาหารที่แต่เดิมไม่กี่ปียังสามารถบริโภคได้ในราคาที่เหมาะสม กับพุ่งขึ้นไปอย่างน่าตกใจ โดยมีการเปรียบเทียบว่า แต่เดิม ราคาอาหารอย่างเช่น ข้าวราดแกงแต่เดิม ราดกับ 1 อย่าง ราคาเพียง 17 บาท แต่ปัจจุบัน ราคาพุ่งไปอยู่ที่ 1 อย่าง 25 บาท เป็นราคาตั้งต้น น้ำดื่มโดมในราคา 5บาท ปัจจุบันเริ่มต้นที่ 7 บาท และหากต้องการห่อกลับต้องเสียเพิ่มอีก 5 บาท
ซึ่งราคาอาหารหลายอย่างมีราคาเท่ากับการขายในห้างสรรพสินค้าและยังมีเมนูอาหารอื่นๆที่ราคาขยับพุ่งขึ้นไปแพงอย่างเห็นได้ชัดขณะที่เปรียบเทียบกับโรงอาหารอื่นๆในมหาวิทยาลัยก็ยังมีราคาถูกกว่าและแม้ว่ามหาวิทยาลัยจะอยู่ใกล้กับแหล่งวัตถุดิบขนาดใหญ่อย่างเช่น ตลาดไท ก็ไม่ช่วยให้ต้นทุนการปรุงอาหารขยับขึ้นอย่างเหมาะสมแต่อย่างใด
เมื่อตรวจสอบ รายงานการประชุม สภามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ วันที่ 18 ก.พ. 2556 (http://cwweb2.tu.ac.th/quesdata/Data/B182.pdf)
วันที่ 18 ก.พ. 56 สภามหาวิทยาลัยมีมติอนุมัติการปรับปรุงโรงอาหารกลาง โดยมี TNP เป็นคู่สัญญา โดยลักษณะโครงการคือก่อสร้างอาคารใหม่ พร้อมบริหารค่าเช่าเป็นเวลา 30 ปี (ลักษณะเดียวกันกับทียูโดม) โดยพื้นที่ชั้นล่างเป็นโรงอาหาร โดยให้สิทธิผู้ค้ารายเดิมเข้าทำสัญญาก่อน และมหาวิทยาลัยมีส่วนร่วมในการกำหนดคุณภาพและราคา
วันที่ 1 ก.ค. 56 สภามีมติให้อธิการพิจารณารายละเอียดสัญญาที่ต่างไปจากกรอบที่สภาอนุมัติ และให้เสนอสภาพิจารณาอีกครั้ง (http://cwweb2.tu.ac.th/Datasource/B187.pdf)
ล่าสุด เดือน สิงหาคม 57 โรงอาหารกลางใหม่เปิด โดยเป็นเพียงการปรับปรุงและบริหารโดย เอกชนรายใหญ่ ซึ่งต่างไปจากกรอบที่สภาเคยอนุมัติไว้เมื่อ 18 ก.พ.56
และเป็นบริษัทที่เพิ่งจดทะเบียน เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2555 (ข้อมูลจากรมพัฒนาธรุกิจการค้า ตามภาพ)
แต่เมื่อตรวจสอบ หามติสภาหลังจาก 1 ก.ค. 56 ที่เกี่ยวกับการปรับปรุงโรงอาหารกลางยังไม่พบรายงานแต่อย่างใด
(http://cwweb2.tu.ac.th/ เว็บไซต์สภามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์)
ทั้งนี้ผู้ประกอบการร้านอาหารรายหนึ่ง ซึ่งอยู่กับมหาวิทยาลัยมาเป็นเวลนานาน ระบุว่า ราคาการเช่าที่สูงขึ้นจากเดิมมาก และยังไม่มีการจ้างพนักงานทำความสะอาดจานโรงอาหารเหมือนแต่ก่อน ทำให้แต่ละร้านต้องรับภาระที่จะต้องมาจ้างพนักงานล้างจานของตัวเองเพิ่มขึ้น และจากคำพูดที่ได้ทราบมาว่าทางเครือบริษัทเอกชนรายใหญ่ ได้มีการพูดกับผู้ค้าว่า "อยู่ได้ก็อยู่ อยู่ไม่ได้ก็ไป" ทำให้ไม่เพียงแค่นักศึกษาเท่านั้นที่ประสบปัญหาแต่ร้านค้าต่างๆ ก็ประสบปัญหาด้วยเช่นกัน
ในขณะเดียวกันก็ ยังมีร้านค้าหลายร้านที่ยืนยันจะขายราคาเดิมให้กับนักศึกษาถึงแม้ว่าตัวเองจะได้กำไรน้อยลงก็ตาม โดยระบุว่า ถึงแม้จะได้กำไรน้อยลงแต่จะให้ทำใจ "ขายแพงๆ" ก็ขายไม่ลง และยังจะให้ในปริมาณที่นักศึกษาสามารถกินอิ่มได้เหมือนเดิม
ข้าวไข่พะโล้ 1 ฟ้อง เดิมขายที่ราคา 20 บาท (กับข้าว1อย่าง) ปัจจุบัน 25 บาท
อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวที่เป็นนักศึกษา ระบุว่า สาเหตุที่ นักศึกษารวมทั้งประชาคม รู้สึกเดือดร้อนกับราคาอาหารที่โรงอาหารกลาง มธ.ศูนย์รังสิตมาก เพราะ เป็นโรงอหารที่ใหญ่ที่สุด และในชีวิตประจำวันของแต่ละคน ที่ใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ โดยเฉพาะเด็กหอ รวมทั้งนักศึกษาที่รายรับน้อย โรงอาหารแห่งนี้เสมือนเป็นที่พึ่ง ให้ได้อิ่มท้องในราคาที่เหมาะสม ขณะที่ นักศึกษาบางคนกล่าวว่า แม้จะได้เรียนโดยรับทุน และกู้เงินเรียน แต่ค่าครองชีพกับราคาอาหารก็พุ่งขึ้นไปสูงอย่างน่าตกใจ จึงขอร้องให้ผู้บริหารที่เกี่ยวข้องเข้ามาแก้ไขปัญหาดังกล่าวนี้อย่างรวดเร็ว บางรายถึงขนาดกล่าวว่า หากผู้บริหารมีเวลาที่จะไปปฏิรูปบ้านเมือง ก็ขอให้สละเวลามาดูแลปากท้องของประชาคมบ้าง
ทั้งนี้ มีรายงานว่า มหาวิทยาลัยได้มอบสิทธิสัมปทานให้กับ บริษัทเอกชนรายใหญ่รายหนึ่ง เข้ามาบริหารจัดการพื้นที่ร้านค้า ในโรงอาหารกลาง โดยร่วมกับสำนักงานจัดการทรัพย์สิน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ปริญา เทวานฤมิตรกุล รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ยังได้กล่าวยอมรับในเฟซบุ๊ก ที่มีนักศึกษาไปถามข้อสงสัยเกี่ยวกับประเด็นนี้ ว่า บริษัทที่จะเข้ามาทำโรงอาหารใหม่ในตอนทำประชาพิจารณ์ เค้าเลิกโครงการไปครับ เลิกไปดื้อๆเลย เข้าใจว่ามีปัญหาเรื่องเงินลงทุน ทางศูนย์รังสิตที่เป็นผู้รับผิดชอบโรงอาหารกลางก็เลยไปให้ CPF ของเครือ CP มาทำแทน ซึ่งงบมีน้อยกว่ามาก (โครงการเดิมประมาณ 100-200ล้าน ส่วนของ CPF แค่ 20 ล้าน) ก็เลยเป็นแบบที่เห็น
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ฝ่ายการนักศึกษาจะไม่ใช่ผู้มีอำนาจหน้าที่ในเรื่องโรงอาหาร แต่ในฐานะที่ผมเป็นคนรับผิดชอบในการทำประชาพิจารณ์ครั้งนั้น ก็ต้องรับผิดชอบด้วย ความจริงเมื่อผมทราบเรื่องในภายหลังว่า CPF มาทำแทน ก็ได้แจ้งทาง อมธ.และสภานักศึกษา ให้ทราบแล้วแต่เข้าใจว่าไม่ทั่วถึง ก็ต้องขออภัยในสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยครับ
โดยกล่าวถึงราคาอาหารที่แพงขึ้นอย่างมากอีกว่า หลักการที่มหาวิทยาลัยกำหนดให้ CPF ที่เป็นผู้มาลงทุนปรับปรุงโรงอาหารกลางต้องทำคือ ต้องมีเมนู 25 บาทต่อไป ซึ่งที่ปรากฎถึงแม้ 25 บาทยังมีแต่เมนูที่แพงกว่านั้นมันแพงเกินไป ผมเห็นด้วยครับว่าต้องแก้ไข และยังระบุว่า จะรีบคุยกับศูนย์รังสิตที่ดูแลโรงอาหารกลาง และคงต้องเจรจากับ CPF ให้ปรับปรุงเรื่องราคาครับ
ทั้งนี้ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ปริญญา เคยให้สัมภาษณ์ ผ่าน TUTV PRTU ว่า มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีนโยบายสร้างโรงอาหารกลาง ให้เป็น U MALL เพื่อให้บริการ และพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาคมธรรมศาสตร์ ติดตามชมจากคลิป