เรื่องน่ารู้ที่เอามาฝากในวันนี้ จะต้องทำให้เพื่อนๆ ประหลาดใจแน่ๆ ค่ะ เพราะใครจะเชื่อว่า กูลิโกะขนมยอดฮิตของวัยรุ่น จากประเทศญี่ปุ่นอย่างป็อกกี้ เพรสท์ โคลลอน ไจแอนท์ คาปุลิโกะ ฯลฯ จะมีที่มาจาก “หอยนางรม” (ห๊าาา อะไรนะ) จริงค่ะ อ่านไม่ผิด หอยนางรม จริงๆ แต่เรื่องราวจะเป็นยังไง และเจ้าหอยนี่มาเกี่ยวอะไรกับขนม ถ้าพร้อมแล้วไปติดตามกันเลย…เรื่องน่ารู้ กูลิโกะ ชื่อนี้มีที่มาจาก หอยนางรม

บริษัท เอซากิ กูลิโกะ จำกัด ได้ถือกำเนิดด้วยปรัชญาที่ว่า “สุขสันต์แห่งชีวิตที่สุดแห่งรสชาติ” โดยมี นายริจิอิ เอซากิ เป็นผู้ก่อตั้งที่ประเทศญี่ปุ่น 

นายริจิอิ เอซากิ เป็นผู้ก่อตั้งที่ประเทศญี่ปุ่น

 

จุดเริ่มต้นเกิดจากการที่นายริจิอิ เอวากิ Ri-ichi Ezaki ได้เห็นชาวประมงที่บ้านเกิดทิ้งน้ำต้มหอยนางรมอยู่เป็นประจำ นายริจิอิ ก็คิดว่า น่าจะมีสารอาหารที่เป็นประโยชน์อยู่ในน้ำต้มเหล่านั้น ดังนั้นจึงนำส่งให้ทาง มหาวิทยาลัยคิวชู อิมพีเรียล วิเคราห์ให้ แต่การทดลองยังไม่ทันได้ผลอะไรออกมา ลูกชายของนายริจิอิ เกิดเป็นโรคไทฟอยด์หมอไม่รู้จะรักษาได้อย่างไร เมื่อสิ้นหวังดังนั้น ผู้เป็นพ่ออย่างนายอิซากิ ก็ขออนุญาตหมอขอให้ลูกชายได้มีโอกาสได้กินGlycogenที่สกัดออกมาจากหอยนางรม ปรากฏว่า ลูกชายแกหายป่วยจริงๆ จึงได้รู้ว่า มีสารอาหารที่ชื่อว่าไกลโคเจน Glycogen ที่สะสมอยู่ในหอยนางรม เป็นสารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมาก นายอีซากิจึงเกิดความคิดว่า ถ้าเด็กของญี่ปุ่นได้มีโอกาสกิน Glycogen นี้แบบง่ายๆ เด็กญี่ปุ่นน่าจะแข็งแรง ไม่ป่วยง่าย จึงได้นำสารไกลโครเจนมาใช้ทำขนมคาราเมลหรือน้ำตาลเหนียวๆ และทำออกมาขาย ด้วยความที่ Glycogen เป็นสิ่งที่ดีมาก แกจึงตั้งชื่อสินค้าว่า Glyco หรือGlicoในภาษาญี่ปุ่นอ่านว่า กูลิโกะ นั้นเอง

เรื่องน่ารู้ กูลิโกะ ชื่อนี้มีที่มาจาก หอยนางรม

 

เรื่องน่ารู้ โลโก้ กูลิโกะ

 

เรื่องโลโก้นี้ นายริจิอิได้ไอเดียมาจากการที่เห็นเด็กวิ่งแข่งกัน และ วิ่งเข้าเส้นชัยคนที่ชนะจะชูแขนขึ้น แกจึงเอามาเป็นสัญญลักษณ์ของการบอกว่า แข็งแรงและสัญญลักษณ์คนวิ่งเข้าเส้นชัยนี้ก็ถูกเก็บรักษาให้เป็นโลโก้ของ Glico ตลอดมา

กูลิโกะ กับกล่องลายโดราเอมอน 3D

 

และเมื่อไม่นานมานี้ กูลิโกะ ได้ออกขนมที่มากับกล่องลายโดราเอมอน 3D รุ่นลิมิเต็ดอิดิชัน สำหรับภาพยนตร์สามมิติ Stand by Me Doraemon โดยความพิเศษของกล่องนี้ คือ ด้านในกล่องจะมีภาพวาดการ์ตูนโดราเอมอน ที่ผู้ใช้สามารถระบายสีตามความต้องการ และใช้แอพที่เป็นภาษาญี่ปุ่น ที่อ่านว่า “อีซากิ กะลิโกะ” ที่แปลว่า “กูลิโกะ ระบายสี” ได้ทั้ง iOS และ Android สแกนภาพวาดบนกล่อง เพื่อสร้างภาพสามมิติเชิง augmented reality หรือ AR ขึ้นมา ซึ่งผู้ใช้ สามารถถ่ายภาพเก็บเป็นที่ระลึกได้ด้วย น่ารักมากๆ เลยละคะ

ไอศกรีมกูลิโกะ

 

อีกทั้งข่าวล่าสุดของกูลิโกะ ก็คือ ไอศกรีมกูลิโกะมีวางจำหน่ายในไทยแล้ว โดยไอศกรีมกูลิโกะ มี 3 แบบ  เหมือนที่ขายในญี่ปุ่น ราคาอยู่ที่ 20-25 บาท รู้แบบนี้ชาววัยทีนจะพลาดลองของใหม่ได้ยังไง จริงไหมค่ะ แต่ได้ข่าวมาว่าช่วงแรกนี้ ยังหาทานยากอยู่ เพราะยังไม่แพร่หลายนัก ต้องใช้เวลาตามหาแหล่งขายกันเสียหน่อย

เรียบเรียงโดย teen.mthai.com

ข้อมูล : กูลิโกะไทยแลนด์, trachoo, pantip

ภาพ : Google, pantip