นายชิเกฮารุ ชิมามูระ นักสรีระวิทยาพืชชาวญี่ปุ่น อาศัยอาคารซึ่งเคยเป็นโรงงานผลิตเซมิคอนดัคเตอร์ของบริษัทโซนี ที่มีพื้นที่ 2,300 ตารางเมตร เป็นพื้นที่ในการทำฟาร์มในร่มที่ทำสถิติกลายเป็นฟาร์มในร่มขนาดใหญ่ที่สุดของโลก สามารถผลิตผักกาดหอมได้มากถึง 10,000 หัวต่อวัน

ฟาร์มในอาคารของชิมามูระ อาศัยแปลงผักกาดหอมที่เป็นชั้นๆ ใช้หลอดไฟแอลอีดีให้แสงสว่างเพื่อการสังเคราะห์แสงของผักกาดหอมแทนแสงอาทิตย์ หลอดไฟแอลอีดีดังกล่าวผลิตขึ้นมาเป็นพิเศษ ภายใต้โครงการวิจัยร่วมกับบริษัท ยีอี ซึ่งออกแบบมาให้กระจายแสงได้บางกว่าหลอดไฟแอลอีดีปกติ แต่สม่ำเสมอมากกว่า ในเวลาเดียวกันตัวหลอดและวัสดุอุปกรณ์ที่ประกอบเป็นหลอดก็ต้องทนชื้นได้มากกว่าหลอดธรรมดาทั่วๆ ไป

การใช้หลอดไฟแอลอีดีแทนแสงอาทิตย์ ทำให้ชิมามูระสามารถปรับเปลี่ยนวัฏจักรกลางวันและกลางคืนได้ตามความต้องการ เพื่อให้เกิดการสังเคราะห์แสงของพืชเกิดขึ้นได้นานกว่า ผลลัพธ์ที่ได้น่าสนใจอย่างยิ่ง เพราะฟาร์มในร่มของชิมามูระสามารถลดความสูญเสียของผักกาดหอมที่ใช้การไม่ได้ลงจากฟาร์มทั่วๆ ไปที่อยู่ในอัตรา 50 เปอร์เซ็นต์ ลงมาเหลือเพียงแค่ 10 เปอร์เซ็นต์ ในเวลาเดียวกันก็สามารถทำให้ผักกาดหอมในฟาร์มของเขาโตเร็วกว่าในฟาร์มทั่วไปถึง สองเท่าครึ่ง แต่การใช้วิธีควบคุมความชื้นและบรรยากาศภายในฟาร์มทำให้ฟาร์มแอลอีดีของชิมามูระใช้น้ำในการปลูกผักทั้งหมดเพียง 1 เปอร์เซ็นต์ ของน้ำที่ใช้ในฟาร์มผักตามปกติ

เพราะความสำเร็จดังกล่าวนี้ ฟาร์มในร่มแบบเดียวกับของ ชิเกฮารุ ชิมามูระ จึงได้รับความสนใจและกำลังมีผู้วางแผนนำไปใช้ทั้งที่ ฮ่องกงและทางตะวันออกของรัสเซียอีกด้วย

Credit matichon