เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก คุณ Tv9 Kannada

         ศาลอินเดีย สั่งแขวนคอนักโทษหญิง 2 พี่น้อง หลังก่อคดีอุกฉกรรจ์ ฆาตกรต่อเนื่อง 

         เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2557 เว็บไซต์เทเลกราฟ รายงานว่า นางสาวเรณุกา ชินด์ และ นางสาวสีมา กาวิท สองพี่น้องชาวอินเดีย ถูกสั่งประหารชีวิตด้วยการแขวนคอ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของอินเดียที่มีคำสั่งประหารชีวิตด้วยการแขวนคอต่อผู้หญิง หลังจากที่สองพี่น้อง ก่อคดีลักพาตัวเด็ก กระทำทารุณ และฆ่าเด็กอย่างโหดเหี้ยม

         โดย นางสาวเรณุกา ชินด์ และ นางสาวสีมา กาวิท ได้กลายมาเป็นสองพี่น้องฆาตกรต่อเนื่องสุดอื้อฉาวของอินเดีย เมื่อทั้งสองคนมีความผิดจากคดีฆาตกรรมต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2001 และทั้งสองคนก็ถูกศาลสั่งลงโทษประหารชีวิตในคดีลักพาตัวเด็ก 13 คน บังคับให้เด็ก ๆ ต้องทำงานเป็นนักล้วงกระเป๋า จากนั้นก็จะจัดการฆ่าเด็กทิ้ง โดยมีการเชื่อว่า ทั้ง 2 คนได้ฆ่าเด็กไปทั้งสิ้น 10 คน แต่ศาลสามารถพิสูจน์ความผิดจากการฆ่าเด็ก 5 คนเท่านั้น

         ตอนนี้ 13 ปีให้หลัง ทั้งคู่ก็ถูกตัดสินประหารชีวิตโดยการแขวนคอ ที่คุกเยอร์วดา รัฐมหาราษฏระ หลังจากที่ประธานาธิบดีของอินเดีย ได้ปฏิเสธคำขออภัยโทษ

         การเตรียมประหารสองพี่น้องในครั้งนี้ ได้ปลุกความทรงจำอันโหดร้ายของชาวอินเดีย เกี่ยวกับหนึ่งในคดีอาชญากรรมอันโหดเหี้ยมที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยที่หนึ่งในเหยื่อของทั้งสองพี่น้องนั้น คือเด็กทารกอายุต่ำกว่า 2 ขวบ ซึ่งเสียชีวิตจากการที่ศีรษะถูกฟาดเข้ากับเสาไฟฟ้าอย่างแรง ขณะที่ช่วงเวลาที่สองพี่น้องเริ่มกระทำการเข่นฆ่าทารุณอย่างต่อเนื่อง ทั้ง 2 คนยังไม่ได้เป็นผู้ใหญ่ด้วยซ้ำ นั่นคือ นางสาวสีมา กาวิท มีอายุเพียง 15 ปี เมื่อเธอเริ่มฆ่าเหยื่อคนแรก ส่วนนางสาวเรณุกา ชินด์ มีอายุเพียงแค่ 17 ปีเท่านั้น

         และที่น่าสลดใจไปกว่านั้น คือทั้งสองพี่น้องเริ่มเข้าสู่แวดวงอาชญากรรม โดยการชักนำของนางอันจนา แม่ของทั้ง 2 คน ผู้ซึ่งสอนให้ทั้งสองคนรู้จักวิธีการล้วงกระเป๋าท่ามกลางฝูงชนในตลาด ก่อนจะตระเวนล้วงกระเป๋าตามเทศกาลงานบุญในเมืองเล็ก ๆ ทั่วรัฐมหาราษฏระ ทั้งในเมืองนาสิก เมืองกลหาปุระ และเมืองพูเน อีกทั้งยังลักพาตัวเด็ก ๆ หลายคนที่พวกเธอเจอตามข้างถนน และใช้เด็ก ๆ เหล่านั้นในการดึงความสนใจของเหยื่อในขณะที่พวกเธอกำลังล้วงกระเป๋า หรือใช้เด็กตัวเล็ก ๆ ในการร้องขอความเห็นใจหากพวกเธอถูกจับขึ้นมา หรือในบางครั้ง ทั้ง 2 คนก็จะตีเด็กเป็นการลงโทษ เพื่อให้ทั้ง 2 คนสามารถหนีออกมาจากสถานการณ์นั้นได้

         จากคำให้การสอบสวนของศาลนั้น เหยื่อคนสุดท้ายของทั้ง 2 พี่น้องคือ การวางแผนแก้แค้นพ่อของนางสาวสีมา โดยที่พ่อของนางสาวสีมา ได้ทอดทิ้งแม่ไป พ่อไปแต่งงานใหม่และมีลูกกับหญิงอื่น จึงทำให้พี่น้อง 2 คนได้ช่วยแม่ในการลักพาตัวเด็กหญิงกรันตี ลูกสาวของพ่อกับผู้หญิงคนใหม่ จากนั้นนางอันจนาก็ฆ่าเด็กหญิงกรันตีและทิ้งเด็กลงในทุ่งนา จนกระทั่งทั้ง 2 คนมาถูกจับกุมตัว เนื่องจากแม่ของเด็กหญิงกรันตี ได้ไปแจ้งความต่อตำรวจ เพราะสงสัยว่านางอันจนาจะเป็นผู้กระทำการอันโหดเหี้ยมดังกล่าว

         ด้านนางอันจนา ผู้เป็นแม่ เสียชีวิตในคุกในระหว่างที่มีการไต่สวนคดี ส่วนลูกสาวทั้ง 2 คนของเธอนั้น ก็ยืนยันถึงความบริสุทธิ์ของตัวเอง โดยทนายกล่าวว่า ทั้ง 2 คนไม่ได้กระทำความผิดจริง เพราะแม้ว่าตอนแรกสามีของเรณุกาจะรับสารภาพว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการฆาตกรรมเด็ก แต่ภายหลังเขาก็ได้ปฏิเสธและแสดงหลักฐานที่ระบุว่าพวกเขาไม่ได้กระทำผิดใด ๆ