นายพชร แก้วกล้า ผู้ประสานงานมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เปิดเผยว่าจากการสุ่มเก็บตัวอย่างผัก-ผลไม้ เพื่อหาสารเคมีตกค้างปี 2557 จาก 5 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ เชียงใหม่ สงขลา ขอนแก่น และยโสธร รวม 118 ตัวอย่าง ซึ่งผลการวิเคราะห์สารเคมีกำจัดศัตรูพืช พบว่าผักผลไม้เกินครึ่งหนึ่งที่จำหน่ายอยู่ทั่วไปมีสารเคมีกำจัดศัตรูพืชตกค้าง โดยพบการตกค้างที่เกินมาตรฐาน MRL หรือ ปริมาณสารพิษตกค้างสูงสุดที่กำหนดในสินค้าเกษตรของไทย มากถึงร้อยละ 46.6
หากจำแนกตามประเภทแหล่งจำหน่าย พบว่าผักผลไม้ที่พบการตกค้างของสารเคมีกำจัดศัตรูพืชมากที่สุด คือผักผลไม้ที่ได้ตรารับรองมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหาร หรือ ตรารับรองมาตรฐาน "Q" พบการตกค้างมากถึงร้อยละ 87.5 และไม่ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน MRL มากถึงร้อยละ 62.5 รองลงมาคือผักผลไม้ที่จำหน่ายในห้างค้าปลีก ส่วนแหล่งที่พบผักผลไม้เกินมาตรฐาน MRL น้อยที่สุดกลับเป็นตลาดทั่วไป โดยผลผลิตที่มีสายเคมีตกค้างมากที่สุด ได้แก่ ส้มสายน้ำผึ้ง รองลงมาคือฝรั่ง ส่วนที่พบสารตกค้างน้อยสุดคือแตงโมและพริกแดง
อย่างไรก็ตามสารเคมีที่พบตกค้างในผักผลไม้ทุกชนิด คือคลอร์ไพริฟอสและไซเปอร์เมทริน รวมทั้งสารคาร์เบนดาซิม ที่พบตกค้างในส้ม แอปเปิ้ลและสตรอว์เบอร์รี่ สูงกว่าค่า MRL หลายเท่าตัว เพราะคาร์เบนดาซิม เป็นสารดูดซึมตกค้างเข้าไปในเนื้อเยื่อผลไม้และไม่สามารถล้างออกได้ แต่ถ้าเป็นสารพิษชนิดอื่นที่ไม่ใช่สารดูดซึม หากนำผลไม้ล้างด้วยน้ำสารพิษจะลดลงได้ร้อยละ 40-80