เว็บไซต์ข่าวสหรัฐ “ฮัฟฟิงตัน โพสต์” รายงานจากรัฐคอนเนตทิคัต ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 18 ส.ค.ว่า นางสาวอเล็กซ์ แลนแคสเตอร์ ชาวอังกฤษวัย 23 ปี พบรักกับนายทุกเคอร์ แบลนด์ฟอร์ด วัย 23 ปี ชาวอเมริกันในเดือนส.ค.2555 

ขณะที่เธอเดินทางมาศึกษาที่มหาวิทยาลัยในรัฐคอนเนตทิคัตของสหรัฐ นางสาวแลนแคสเตอร์เผยว่า นายแบลนด์ฟอร์ด เป็นผู้ชายที่ดี พวกเขาคบหากันอย่างหวานชื่น โดยในทุกวันที่ 10 ของทุกเดือนพวกเขาจะไปรับประทานอาหารในร้านหรูกันเพื่อฉลองวันที่ทั้งคู่พบกันครั้งแรก นอกจากนี้ นางสาวแลนแคสเตอร์ ยังสนิทสนมกับครอบครัวของฝ่ายชายจนเป็นเหมือนครอบครัวเดียวกันอีกด้วย

นางสาวแลนแคสเตอร์ กลัวว่า ความสัมพันธ์ของทั้งคู่จะสิ้นสุดลงเมื่อถึงเวลาที่เธอต้องเดินทางกลับอังกฤษ เธอจึงตอบตกลงแต่งงานกับนายแบลนด์ฟอร์ดทันที โดยทั้งคู่วางแผนว่า จะจัดงานแต่งงานที่รัฐคอนเนตทิคัต ทั้งนี้ เธอจัดแจงเรื่องชุดแต่งงาน บัตรเชิญ และค่าตั๋วเครื่องบินสำหรับนายแบลนด์ฟอร์ดเพื่อให้เดินทางมาพบเธอ 

เหตุการณ์เริ่มผิดปกติเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เมื่อมีผู้ชายที่อ้างว่าเป็นพ่อของนายแบลนด์ฟอร์ด โทรศัพท์มาหาเธอพร้อมบอกว่า นายแบลนด์ฟอร์ด เป็นโรคซึมเศร้า พวกเขาพยายามนำตัวเขาไปรักษาในโรงพยาบาลจิตเวชแล้วแต่เขาฆ่าตัวตายด้วยการกระโดดตัดหน้ารถจนเสียชีวิตเสียก่อน 

ข่าวนี้ทำให้นางสาวแลนแคสเตอร์หัวใจสลาย ทั้งนี้ เธอได้โทรศัพท์กลับไปที่บ้านของนายแบลนด์ฟอร์ด และได้คุยกับแม่ของเขา พบว่า นายแบลนด์ฟอร์ดยังคงสบายดี ไม่ได้เจ็บป่วยอะไร แม่ของเขาคิดว่า เธอและนายแบลนด์ฟอร์ดเลิกรากันไปแล้ว อีกทั้งยังไม่ทราบเรื่องงานแต่งงานอีกด้วย

เธอยังมาค้นพบทีหลังด้วยว่า สถานที่จัดงานแต่งงานของทั้งคู่ที่เธอจ่ายเงินไปแล้วนั้น ไม่ได้มีการจองไว้อย่างที่เคยคุยกัน นายแบลนด์ฟอร์ดเมื่อรู้ว่านางสาวแลนแคสเตอร์รู้ความจริงแล้ว จึงส่งข้อความขอโทษ และเงินที่เหลือครึ่งหนึ่งจากที่เขาเป็นหนี้เธอในการใช้จ่ายเพื่องานแต่งงานมูลค่า 1,200 ดอลลาร์สหรัฐ (38,280 บาท) กลับมาให้

นางสาวแลนแคสเตอร์ เผยว่า เธอไม่มีทางยกโทษให้นายแบลนด์ฟอร์ดเด็ดขาดที่เขาวางแผนว่า ตนเองเสียชีวิต เพียงเพราะไม่ต้องการแต่งงานกับเธอแล้ว ทั้งนี้ เขาให้เหตุผลว่า เขาไม่อยากแต่งงานเพราะ ทั้งคู่อยู่คนละประเทศ สร้างความลำบากให้ชีวิตคู่แม้เธอจะเป็นผู้หญิงที่ดีมากก็ตาม อย่างไรก็ตาม เขาไม่กล้าสู้ความจริงและคิดว่า หาทางทำเช่นไรก็ได้ให้งานแต่งงานถูกเลื่อนออกไป

Credit: http://variety.teenee.com/foodforbrain/63208.html