เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - ทางการสหรัฐฯ เปิดเผยรายงานล่าสุดซึ่งพบว่าตัวเลขชาวอเมริกันขอสละสัญชาติเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง
กระทรวงการคลังสหรัฐฯ เปิดเผยรายงานรายไตรมาสล่าสุดซึ่งพบว่า ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้มีชาวอเมริกันยื่นเรื่องขอ “สละสัญชาติอเมริกัน” สูงถึง 1,577 ราย และในจำนวนนี้มี 576 รายที่ยื่นขอสละสัญชาติในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี
ก่อนหน้านี้ ในปี 2013 ที่ผ่านมา รายงานของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ระบุว่า ยอดชาวอเมริกันที่ขอสละสัญชาติในปีที่แล้วมีทั้งสิ้น 2,999 คน ถือเป็นตัวเลขที่เพิ่มสูงขึ้นถึง “221 เปอร์เซ็นต์” จากเมื่อปี 2012 ที่มียอดผู้ขอสละสัญชาติเพียง 932 คน
ด้านชัค ชูเมอร์ สมาชิกวุฒิสภาสหรัฐฯ จากมลรัฐนิวยอร์ก สังกัดพรรคเดโมแครต ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในตัวตั้งตัวตีสำคัญในการผลักดันร่างกฎหมายเรียกเก็บภาษี “exit tax” ในอัตราที่สูงถึง 30 เปอร์เซ็นต์แก่ผู้ขอสละสัญชาติ ออกมายอมรับว่าเหตุผลสำคัญที่ทำให้ชาวอเมริกันยื่นเรื่องขอสละสัญชาติของตัวเองเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง คือ เหตุผลด้านภาษี จากการที่สหรัฐฯ มีอัตราการจัดเก็บภาษีเงินได้ทั้งในส่วนของบุคคลธรรมดาและบรรดาผู้ประกอบธุรกิจ ในอัตราที่สูงกว่าหลายประเทศทั่วโลก กล่าวคือ อัตราการจัดเก็บภาษีเงินได้ในสหรัฐฯ ที่มีอัตราสูงสุดถึง 39.6 เปอร์เซ็นต์
และนั่นทำให้ชาวอเมริกันโดยเฉพาะในกลุ่มที่ “มีฐานะ” จำนวนมากไม่ต้องการถูกเรียกเก็บภาษีในอัตราสูงดังกล่าว และคนกลุ่มนี้ซึ่งส่วนใหญ่มีธุรกิจในต่างแดน มักเลือกที่จะสละสัญชาติอเมริกันและไปถือสัญชาติของประเทศอื่นๆ ที่มีอัตราการจัดเก็บภาษีรายได้ที่ต่ำกว่า หรือให้สิทธิพิเศษต่างๆ ทั้งทางเศรษฐกิจและสังคมมากกว่า
ก่อนหน้านี้ นางแอนนา เม บูลล็อก หรือชื่อที่รู้จักกันในวงการเพลง คือ “ทินา เทอร์เนอร์” นักร้องแนวโซล-อาร์แอนด์บี ชื่อดังระดับตำนานได้ประกาศขอสละสัญชาติอเมริกัน และยื่นเรื่องขอเป็นพลเมืองสวิสกับรัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์แทน
ขณะเดียวกัน “เอดูอาร์โด ซาเวริน” ผู้ร่วมก่อตั้งเครือข่ายสังคมออนไลน์หมายเลขหนึ่งของโลกอย่าง “เฟซบุ๊ก” ได้ประกาศสละการถือสัญชาติอเมริกันเมื่อเดือนกันยายนปี 2011 และหันไปยื่นเรื่องขอถือสัญชาติสิงคโปร์
โดยการสละสัญชาติของซาเวรินมีขึ้นหลังจากที่รัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีลี เซียน ลุง แห่งสิงคโปร์ ประกาศจะให้สิทธิพิเศษด้านภาษีและการลงทุนกับเขา ท่ามกลางการตั้งข้อสังเกตของหลายฝ่ายว่า การตัดสินใจสละสัญชาติอเมริกันของซาเวรินมีขึ้นก่อนที่เฟซบุ๊กจะเสนอขายหุ้นต่อสาธารณชนเพียงไม่นาน
ทั้งนี้ สหรัฐอเมริกายังถือเป็นประเทศเดียวในโลกที่มีการเรียกเก็บภาษีต่อพลเมืองของตน ที่มิได้มีถิ่นพำนักในสหรัฐฯ ในอัตราและเงื่อนไขเดียวกับพลเมืองอเมริกันที่อาศัยอยู่ภายในประเทศ
ที่มา: http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9570000090244