เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก megafun.vn
ยามชีวิตพบอุปสรรค เขาบอกว่าต้องฟันฝ่าไปให้ได้ด้วยสองมือของตัวเอง แต่ถ้าใครได้แรงจากสองมือแล้วยังไม่พอ เราขอเติมพลังให้อีกเท่าหนึ่ง ด้วยเรื่องราวของสองแม่ลูกผู้พิการชาวสหรัฐฯ ที่พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าชีวิตไม่ได้ยาก พวกเขาทั้งคู่อยู่ได้มีความสุขดี แม้ไร้ซึ่งแขน มีแค่ขาก็ตาม
วันที่ 31 กรกฎาคม 2557 เว็บไซต์มิเรอร์ พาเราไปรู้จักกับเรื่องราวชีวิตของ ลินดา แบร์รอน (Linda Barron) คุณแม่วัย 35 ปี จากรัฐอิลลินอยส์ สหรัฐฯ และลูกชายผู้ร่าเริง ทิมมี่ ผู้ใช้ชีวิตแบบคนไร้แขนทั้งสองข้างได้แบบแฮปปี้สุด ๆ
ลินดา กำเนิดมาไร้ซึ่งแขนทั้งสองข้างโดยสิ้นเชิง ซึ่งเป็นความผิดปกติที่หาพบได้ยากจากอาการฮอลท์-โอแรม ซินโดรม (Holt-Oram syndrome) ที่ทำให้พัฒนาการของกระดูกผิดปกติ แต่นั่นไม่กระทบต่อชีวิตของเธอเลยแม้แต่น้อย พ่อแม่ของลินดาเลี้ยงดูเธออย่างเด็กปกติ ทุกคนในครอบครัวให้ความเคารพในสิ่งที่เธอเป็นและเห็นว่ามันไม่ใช่เรื่องประหลาดตรงไหน เธอใช้ชีวิตกับครอบครัวและน้อง ๆ อีก 4 คน อย่างมีความสุขในทุก ๆ วันตั้งแต่เด็กจนโต ต้องขอบคุณครอบครัวที่อบอุ่นซึ่งกลายเป็นรากฐานที่แข็งแกร่งให้เธอจนถึงตอนนี้
ลินดาได้พบรักกับ ริชาร์ด แล้วก็สร้างครอบครัวของตัวเอง เธอตั้งครรภ์โดยไม่ทันตระหนักกว่าความผิดปกติของตัวเองอาจส่งผลต่อลูกในท้องได้ ผลการตรวจครรภ์ปรากฏว่า ทิมมี่ มีอาการฮอลท์-โอแรม ซินโดรม ด้วยเช่นกัน แพทย์แนะนำให้ยุติการตั้งครรภ์ แต่เธอยืนยันว่าลูกชายของเธอจะไม่เป็นไรและจะเติบโตขึ้นมาอย่างมีความสุขได้เหมือนที่เธอเป็นแน่นอน
แล้วพ่อหนู ทิมมี่ ก็กลายเป็นสมาชิกใหม่ของครอบครัว แม้จะประสบปัญหาร่างกายอ่อนแอในช่วงแรกหลังคลอด แต่หลังจากทุกอย่างเข้าที่ ทิมมี่ก็เป็นเด็กสุขภาพดีและสุขภาพจิตดีเป็นที่สุด
"ผมก็เหมือนกับเด็กทั่ว ๆ ไปแหละครับ เหมือนกันเปี๊ยบเลย และจะเหมือนในทุก ๆ ช่วงเวลาของชีวิตด้วย" ทิมมี่ กล่าว
ทิมมี่เรียนรู้ที่จะทำสิ่งต่าง ๆ ด้วยตัวเอง เหมือนอย่างที่แม่ของเขาทำ เขานั่งเล่นเกมกับพ่อ ต่อเลโก้ อ่านหนังสือ ไปโรงเรียน ทำการบ้าน แปรงฟัน ทำกิจกรรมต่าง ๆ เหมือนเด็กทั่ว ๆ ไป แถมยังเก่งในกีฬาเทควันโดและว่ายน้ำอีกด้วย ขนาดครูใหญ่ที่โรงเรียนยังช่วยยืนยันว่า เด็กชายทิมมี่แจ่มใสร่าเริงดีมาก เพื่อน ๆ ไม่รู้สึกเลยด้วยซ้ำว่าเขามีอะไรแตกต่างออกไป
ทางด้าน ริชาร์ด คุณพ่อของทิมมี่และคนรักของลินดา เผยว่า เขาช่วยเหลือภรรยาบ้างในบางเรื่อง แม้ว่าความจริงจะทราบว่าเธอสามารถทำด้วยตัวเองได้ดีอยู่แล้วก็ตาม "ผมรู้สึกว่าผมควรจะช่วยเธอนะ ถึงจริง ๆ แล้วเธอจะทำมันได้เองก็เถอะ"
ลินดา รู้ดีว่าเมื่อ ทิมมี่ เติบโตขึ้น เขาอาจต้องเผชิญอะไรที่ยากลำบากกว่านี้ในชีวิต แต่เธอก็ค่อนข้างมั่นใจว่าลูกชายคนเก่งคนนี้จะเรียนรู้ที่จะอยู่ในสังคมกับสิ่งที่ตัวเองเป็นได้ และไม่ใช่แค่อยู่รอด แต่จะอยู่อย่างมีความสุขเหมือนกับเธอในตอนนี้ได้แน่ ๆ หวังก็แต่อยากให้เขาโชคดีเรื่องความรักเหมือนอย่างเธอด้วย
ในปัจจุบัน ลินดา ผู้ทำหน้าที่เป็นแม่บ้านควบคู่เป็นครูสอนการทำสวน ได้ลงเรียนคอร์สการพูดเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ เธออยากถ่ายทอดเรื่องราวของตัวเองออกมาเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนที่กำลังประสบความลำบากในชีวิต โดยเฉพาะครอบครัวที่อาจเป็นเหมือนเธอและทิมมี่ อยากให้รู้ว่าชีวิตไม่ได้ยากเกินไปแม้จะไร้แขนทั้งสองข้างก็ตาม
ได้รับรู้เรื่องราวของคุณลินดาและพ่อหนูทิมมี่แล้ว ก็ตระหนักขึ้นมาได้จริง ๆ ว่า จะทุกข์จะสุขก็ขึ้นอยู่กับตัวเราเองทั้งนั้น ถ้าไม่มองอุปสรรคว่ามันเป็นปัญหา ชีวิตก็มีความสุขดี เผลอ ๆ ยังแฮปปี้สุด ๆ เหมือนแม่ลูกคนเก่งคู่นี้เลยล่ะ เด็กอะไรร่าเริงสดใส มีชีวิตอยู่กับเสียงหัวเราะทุกวันจริง ;)