10 เทศกาลสุดแปลกรอบโลก แบบนี้ก็มีด้วย

 

 

 

 

 

ส่วนใหญ่เราจะเห็นเทศกาลรื่นเริงที่เกิดจากวัฒนธรรมของแต่ละประเทศที่สืบต่อกันมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างสีสัน ความรื่นเริงสนุกสนาน และอัพเลเวลเพิ่มมากขึ้นในทุกๆ ปี แต่กิจกรรมต่างๆ ที่คุณเคยเห็นมา อาจจะดูธรรมดาไปเลย เพราะเราจะพาไปดู 10 เทศกาลสุดแปลกรอบโลก แบบนี้ก็มีด้วย จนหลายคนอาจสงสัยว่า จัดขึ้นเพื่อ???…..อะไร ถ้าพร้อมแล้ว เราไปดูกันเลยค่ะ

เทศกาลกบกระโดด

10 เทศกาลสุดแปลกรอบโลก แบบนี้ก็มีด้วย

เริ่มจากอันดับ 10 เทศกาลกบกระโดด

ถูกจัดขึ้นมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1962 ที่รัฐโอไฮโอ เมืองวัลเลย์ สหรัฐอเมริกาได้จัดแข่งขันประจำทุกปี เพื่อสร้างความสนุกสนาน และสร้างความสามัคคีให้กับคนในชุมชน ซึ่งประเพณีนี้มีกฎระเบียบที่เข้มงวด เพื่อควบคุม สวัสดิการของเจ้า “กบ” ซึ่งเจ้าของกบที่กระโดดได้ไกลที่สุดจะได้เงินรางวัลไป โดยสถิติปี 1986 ที่บันทึกไว้คือ 21 ฟุต, 5 นิ้ว¾ โดยนาย Rosie Ribeter

เทศกาลอุ้มเมีย

อันดับ 9 เทศกาลอุ้มเมีย

จัดที่เมืองซอนกกายาวิ ประเทศฟินแลนด์ ในทุกๆ เดือนกรกฎาคมของทุกปี โดยการแข่งขันนี้เพิ่งเริ่มขึ้นในทศวรรษ 1990 แต่คนในท้องถิ่นบอกว่ามันเริ่มมานานมากแล้ว เพราะเมื่อก่อนผู้ชายจะขโมยผู้หญิงจากหมู่บ้านอื่นมาเป็นศรีภรรยา?? ผู้ที่ชนะการแข่งขันนี้จะได้เป็นเบียร์น้ำหนักเท่าตัวภรรยา!! และสถิติโลกที่รอให้ทลาย คือการอุ้มผ่านสิ่งกีดขวางระยะทาง 235.5 เมตรในเวลา 55 วินาที

เทศกาลกลิ้งเนยแข็ง

อันดับ 8 เทศกาลกลิ้งเนยแข็ง

ในชนบทของอังกฤษ การแข่งขันเก็บชีสถูกจัดขึ้นในทุกเดือนพฤษภาคม โดยที่จะนำก้อนชีสมากลิ้งลงเขาให้ผู้เข้าแข่งขันต้องวิ่งไล่ตาม ใครเก็บก้อนชีสได้ ก็นำกลับบ้านไปได้เลย ถึงแม้ฟังดูง่ายแต่เอาจริงๆ แล้วกีฬานี้มันท้าทายมากๆ เพราะชีสอาจจะกลิ้งลงด้วยความเร็วถึง 110 กม./ชม. ทำเอาผู้เข้าแข่งขันบางคนต้องเสียเลือด ได้แผล หรือแม้แต่แข้งขาหักขณะที่วิ่งไล่ตามชีสกันทุกครั้งไป

เทศกาลยูเอฟโอ

อันดับ 7 เทศกาลยูเอฟโอ

ในเดือนกรกฎาคมปี 1947 หลายๆ คนเชื่อว่า มียานต่างดาวมาลงจอดใกล้ๆ กับเมืองรอสเวลล์ มลรัฐเม็กซิโกของสหรัฐฯ จริง แต่ทางการพยายามปกปิดเรื่องดังกล่าว จนถึงตอนนี้ก็ยังคงเป็นข้อโต้แย้งกันอยู่ เทศกาลนี้จึงได้ถูกจัดขึ้นในช่วงเดือนกรกฎาคมของทุกปี เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองความเชื่อเรื่องสิ่งมีชีวิตต่างดาว ผู้คนจะพากันใส่ชุดเลียนแบบสิ่งที่พวกเค้าเชื่อว่าเป็นเอเลี่ยน และร่วมสนุกกัน

เทศกาลสาดสี

อันดับ 6 เทศกาลสาดสี

เทศกาลแปลกของชาวอินเดีย ที่เกิดขึ้นได้ในทุกที่ที่มีชาวอินเดียได้เข้าไปอยู่เป็นจำนวนมาก โดยจะเริ่มในช่วงต้นของฤดูใบไม้ผลิ และไม่ใช่เพื่อโปรยสีกันเพื่อสนุกสนานอย่างเดียวเท่านั้น แต่คนโบราณได้แฝงเอาธรรมชาติบำบัดเอาไว้ โดยใช้ผงสีจากพืชและสมุนไพรธรรมชาติ มาโปรยใส่กันทำนองกายบำบัดเพื่อสร้างภูมิต้านทานให้กับร่างกาย และถือว่าสีเหล่านี้เป็นตัวแทนของ “พลังชีวิต” ที่จะทำให้มีพลังในการดำเนินชีวิตต่อไป

เทศกาลสาดไวน์

อันดับ 5 เทศกาลสาดไวน์

ทุกๆ ปีในเมือง Haro ของประเทศสเปน จะมีการจัดงานเทศกาล Wine Festival ขึ้นงานนี้จะเริ่มด้วยการเดินขบวนของผู้คนในชุดขาวที่พากันแบกถังไวน์มา หลังจากนั้นก็จะมีการแข่งขันต่างๆ ที่เกี่ยวกับไวน์ เช่น แข่งขันดื่มไวน์ พอสนุกสนานกันได้ที่แล้วทุกคนก็จะจบงานด้วยการสาดไวน์ใส่กันจนเปียกปอน และเสื้อกลายเป็นสีม่วงไปหมด ดีไม่ดีอาจจะเมาไวน์ด้วยก็เป็นได้

เทศกาลกระโดดข้ามทารก

อันดับ 4 เทศกาลกระโดดข้ามทารก

เป็นเทศกาลของชาวคริสต์นิกายคาทอลิกในเมืองเล็กๆ ชื่อ Castrillo de Murcia ประเทศสเปน ที่เริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 1620 โดยต้องใช้เด็กทารกที่เพิ่งเกิดในปีนั้นๆ มานอนบนเสื่อ และให้ชายแต่งกายในชุดสีเหลืองแดงสดใส เป็นตัวแทนของปีศาจร้าย มากระโดดข้ามทารกเหล่านั้น เชื่อกันว่าการทำเช่นนี้จะช่วยให้เด็กๆรอดพ้นจากเงื้อมมือ

เทศกาลสวมเขา

อันดับ 3 เทศกาลสวมเขา

จัดขึ้นทุกๆ ปีในเมือง Rocca Canterano ประเทศอิตาลี เป็นเทศกาลที่มีต้นกำเนิดมาตั้งแต่สมัยยุคโรมัน เมื่อนักรบชายต้องออกไปรบ แต่พอกลับมาพวกเขาได้รู้ว่าถูกภรรยานอกใจ!! ในเทศกาลนี้จึงเป็นที่รวมตัวกันของผู้ชายเคยถูกนอกใจ พร้อมด้วยสัญลักษณ์ที่แสดงถึงการโดน ‘สวมเขา’ ในงานที่จัดขึ้นเพื่อให้เกียรติและปลอบใจชายผู้โชคร้ายเหล่านั้นนั่นเอง

เทศกาลโยนอุจจาระกวางมูส

อันดับ 2 เทศกาลโยนอุจจาระกวางมูส

จัดขึ้นในเดือนกรกฎาคมของทุกปี ที่เมืองทัลคีทนา สหรัฐอเมริกา โดยในงานจะมีผลิตภัณฑ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นงานศิลปะ หรือเครื่องประดับที่ผลิตจากอุจจาระกวาง?! ออกวางขาย และในช่วงสุดท้ายของเทศกาล จะมีการแข่งขันขึ้นบอลลูนไปเพื่อโยนอุจจาระของกวางมูสก้อนใหญ่ ลงไปที่เป้าหมายที่มีตัวเลขกำกับไว้ ใครโยนลงตัวเลขที่กำหนดก็จะเป็นผู้ชนะไป!!

อันดับ 1 เทศกาลกินแมว

เทศกาลแสนโหดร้ายนี้เคยมีที่เปรู ที่เลี้ยงแมวเพื่อมาทำเป็นอาหารในงานเทศกาลนี้โดยเฉพาะ โดยเริ่มมาจากครั้งหนึ่งชาวเมืองต้องอดอยากอย่างมาก จึงต้องออกไปจับแมวมาทำเป็นอาหาร!! ก็เลยถือยึดเอามาเป็นงานเทศกาลเพื่อรำลึกถึงช่วงเวลาที่อดอยากนั้น ทั้งยังเชื่ออีกว่าการกินแมวช่วยรักษาโรคหลอดลมอักเสบและช่วยเพิ่มอัตราการเกิดประชากรอีก!! โชคดีที่ปัจจุบันเทศกาลนี้ถูกยกเลิกไปแล้ว เพราะทนเสียงคัดค้านไม่ไหว

 

Credit: http://teen.mthai.com/variety/76824.html
7 ส.ค. 57 เวลา 11:04 1,476 80
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...