ขอขอบคุณภาพประกอบจาก
สาวป่วยโรคตุ่มน้ำพอง เจอ 1 ในล้านคน คาดติดเชื้อจากจัดฟัน วอนช่วยเพราะไม่มีเงินรักษา ไปสมัครงานไม่มีใครรับ เนื่องจากคิดว่าเป็นเอดส์ เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2557 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางสาวกรรณิการ์ ศรีทัน หรือ น้องแวว อายุ 24 ปี ได้ร้องเรียนขอความช่วยเหลือ เนื่องจากตัวเองมีอาการป่วยติดเชื้ออย่างรุนแรง เป็นตุ่มทั่วลำตัว จึงรุดไปตรวจสอบที่บ้านเลขที่ 175 หมู่ที่ 7 ต.เหมืองหม้อ อ.เมือง จ.แพร่ ทั้งนี้ เมื่อไปถึงพบน้องแวว ใบหน้ามีแผลเป็นตุ่มพุพอง บริเวณลำตัวก็มีตุ่มลักษณะนี้กระจายอยู่มากมายเช่นเดียวกัน โดยน้องแวว เล่าว่า ตอนตนอายุ 17 ปี ระหว่างเรียนหนังสือที่วิทยาลัยอาชีวศึกษาแพร่ ตนก็เข้ารับการจัดฟันที่คลินิกแห่งหนึ่งในตัวเมืองแพร่ ซึ่งจัดฟันใส่เหล็กได้ประมาณ 6 เดือน ก็เกิดอาการปวดและเป็นแผลในปาก จึงกลับไปหมอ ด้านหมอก็ให้ยามาทาและบอกว่าขดลวดมันทะลุเข้าไปแทงแก้ม หลังจากนั้นถึงแม้ว่าตนทายาตลอด แต่อาการก็ยังไม่หาย อีกทั้งยังรุนแรงเพิ่มขึ้นอีก มีอาการคันทั้งตัว แม่ก็พาไปรักษาทางการแพทย์พื้นบ้าน ใช้ยาสมุรไพร แต่ก็ไม่หาย เลยไปรักษาที่โรงพยาบาลแพร่ แต่อาการก็ไม่ดีขึ้นอีก จึงเดินทางไปรักษาที่โรงพยาบาลสวนดอก ที่เชียงใหม่ โดยในช่วงที่รักษาตัวนั้น ตนต้องพักการเรียนเอาไว้ เนื่องจากต้องคอยรักษาอาการตัวเองอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งเมื่อปี 2554 ตนก็เข้าเรียนต่อชั้น ปวส. ที่วิทยาลัยเทคนิคแพร่ ซึ่งตนก็พยายามเรียนไปด้วยและต้องไปหาหมอเป็นประจำ แต่เมื่อปี 2556 อาการก็เริ่มหนักขึ้นไปอีก แม่จึงเอาบ้านไปจำนองเพื่อนำเงินมารักษาตน จนเมื่อ 2 ปีที่แล้ว พ่อกับแม่แยกทางกัน ต่างฝ่ายต่างมีครอบครัว ตนจึงต้องอยู่บ้านหลังนี้ตามลำพังมาตลอด 2 ปี ด้วยความยากลำบาก ไม่มีเงินจะซื้อยา ต้องไปหาหมอเป็นประจำทุกเดือน แถมบ้านที่อยู่ก็กำลังจะถูกยึดด้วย
สำหรับโรคนี้ น้องแวว เผยว่า แพทย์ที่เชียงใหม่วินิจฉัยว่าเป็นโรคตุ่มน้ำพอง โรคนี้จะเกิดกับคน 1 ในล้านเท่านั้น แพทย์บอกให้รักษาต่อเนื่อง แต่ตนก็ไม่มีปัญญาไปรักษาเพราะไม่มีเงิน ไปสมัครงานที่ไหนเขาก็ไม่รับ บางคนก็คิดว่าติดเอดส์ แถมแฟนที่เคยคบก็ทิ้งไปตั้งแต่เริ่มป่วยเป็นโรคนี้ ซึ่งตนคิดว่าสาเหตุที่เป็นโรคนี้น่าจะติดเชื้อตอนจัดฟัน
ส่วนอาการโรคตุ่มน้ำพอง น้องแววบอกว่า มันจะมีอาการคันและทุกวันนี้ก็เริ่มจะรุนแรง ตนอยากไปรักษาโรงพยาบาลเฉพาะทางเรื่องโรคผิวหนัง แต่ก็จนปัญญา เพราะไม่มีเงินทอง ส่วนตัวเองก็อยู่คนเดียวต้องหากินเองทุกวัน เป็นเงินที่แม่ให้ไว้บ้าง พ่อเอามาให้บ้าง ก็ซื้อกินทุกวัน หากินเองและอาหารก็ต้องเลือก เพราะกินทุกอย่างอย่างคนอื่นก็ไม่ได้ จริง ๆ แล้วตนก็มีแรงอยู่ อยากทำงานเหมือนกัน แต่เมื่อไปทำงานที่ไหนก็ไม่มีใครรับ
น้องแวว กล่าวด้วยว่า การขอความช่วยเหลือในครั้งนี้ เนื่องจากเพื่อนแนะมาให้ขอช่วยเหลือผ่านผู้สื่อข่าว เผื่อว่าจะมีผู้ใจบุญ เมตตา ช่วยค่ารักษาพยาบาล ตนต้องขอกราบขอบพระคุณอย่างมาก อย่างน้อยตนเองก็ยังพอมีหวังขึ้นมาบ้าง