ฮือฮา! สาวสวยรั้ว มธ. ยึดอาชีพทำนา อนุรักษ์วิถีไทเลย

 

 

 

ฮือฮา สาวสวยวัย 24 ปี จบธรรมศาสตร์ ยึดอาชีพทำนา เดินตามรอยเท้าพ่อหลวง ใช้เนื้อที่ 8 ไร่ ปลูกข้าว พืชสวนครัว และศูนย์เรียนรู้ เผยต้องลองผิดลองถูกจนเริ่มประสบความสำเร็จ 

เมื่อวันที่ 2 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีมีผู้ใช้สังคมออนไลน์ ทั้งทวิตเตอร์และเฟซบุ๊ก ได้โพสต์และแชร์ข้อความว่าพบชาวนาสวยน่ารักที่สุดในประเทศไทย จบจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กลับมาทำนาที่ภูเรือเรือนไม้รีสอร์ต จนเป็นที่ฮือฮาในโลกโซเชียลนั้น 

หลังทราบข่าว ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจหาข้อมูลในอำเภอภูเรือ จนพบบุคคลดังกล่าวมีตัวตนและสวยน่ารักสมคำร่ำลือ ทราบชื่อ น้องหนูดี หรือ นางสาวจิตชนก ต๊ะวิชัย อายุ 24 ปี จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คณะสังคมสงเคราะศาสตร์ เมื่อปี พ.ศ.2555 เป็นบุตรสาวเพียงคนเดียวของ นางอุบล ต๊ะวิชัย อายุ 59 ปี อดีตข้าราชการครู และเป็นเจ้าของร้านอาหารและรีสอร์ตชื่อดัง ชื่อภูเรือเรือนไม้รีสอร์ต

เมื่อไปถึงพบ นางอุบล ต๊ะวิชัย มารดาของน้องหนูดี อดีตข้าราชการครู ได้ออกมาต้อนรับผู้สื่อข่าว พร้อมพาไปพบน้องหนูดี ซึ่งกำลังดำนาอยู่ที่แปลงนาด้านหลัง จากการสังเกตบริเวณบ้านพบว่ามีเนื้อที่ขนาดใหญ่ประมาณ 15 ไร่ โดยด้านหน้าเปิดเป็นร้านอาหารและรีสอร์ตหลายสิบห้อง ส่วนด้านหลังของรีสอร์ต เมื่อมองออกไปพบว่ามีการปลูกแปลงข้าวกว่า 8 ไร่ และพื้นที่ทำการเกษตรประเภทผักสวนครัว โรงสีข้าว ยุ้งข้าว และอาคารไม้เก่าเปิดเป็นศูนย์การเรียนรู้เกษตรพอเพียง จนกระทั่งพบน้องหนูดี ซึ่งกำลังดำนาอยู่กับคนงาน

เมื่อน้องหนูดีเห็นผู้สื่อข่าว ได้ละมือจากการดำนา มาต้อนรับเป็นอย่างดี พร้อมเล่าความเป็นมาว่า ตนเองเป็นลูกคนเดียวของคุณแม่อุบล ส่วนคุณพ่อได้เสียไปแล้ว จบจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ เมื่อปี พ.ศ.2555 เมื่อจบการศึกษาแล้วได้กลับมาบ้าน มาทำตามความฝันของตนเองที่ต้องการเป็นเกษตรกรชาวนาตามรอยพระราชดำริของในหลวง เกษตรพอเพียง โดยที่มีคุณแม่คอยเป็นกำลังใจและเป็นที่ปรึกษา คอยชี้แนะว่าควรจะเริ่มต้นตรงไหน เรียนผิดเรียนถูกด้วยตนเอง จนปัจจุบันถือว่าประสบความสำเร็จ เหลือเพียงศูนย์การเรียนรู้เกษตรพอเพียงเท่านั้น

"ตลอดเวลาที่เรียนอยู่กรุงเทพฯ จิตใจคิดถึงที่นี่ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของเรา และความสุขแท้จริงของเราคือที่นี่ ความรู้ความสามารถที่เรียนมาสามารถนำมาสอนน้องๆ นักเรียนที่นี่ได้ จึงได้เริ่มศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมจากผู้ใหญ่ในพื้นที่ว่า เกษตรพอเพียงทำอย่างไร เรียนผิด เรียนถูก สะสมประสบการณ์ก็เริ่มรู้ จึงได้เอาพื้นที่แปลงนาว่างเปล่าจำนวน 8 ไร่ มาปลูกข้าวเจ้า ข้าวเหนียว ข้าวไรซ์เบอร์รี่ จนประสบความสำเร็จ โดยไม่ใช้ปุ๋ยเคมี แต่มาใช้ปุ๋ยอินทรีย์แทน จนข้าวที่ปลูกไว้กินเองได้ผลผลิตเป็นจำนวนมาก ก็แบ่งจ่ายให้ชาวบ้านไปกินและส่วนหนึ่งบรรจุถุงขาย โดยไม่ได้หวังกำไร เพียงแต่อยากให้เด็กรุ่นใหม่รู้จักวิถีชีวิตพื้นบ้านของชาวไทเลย"

น้องหนูดี หรือ นางสาวจิตชนก ต๊ะวิชัย

ชาวนาสาววัย 24 ดีกรี ปริญญาตรี จาก ม.ธรรมศาสตร์ เล่าต่อว่า ทุกอย่างเป็นการเริ่มต้น นึกถึง และน้อมนำพระราชดำรัสของพระเจ้าอยู่หัว เกษตรพอเพียง จดจำมาตลอด ส่วนศูนย์การเรียนรู้เป็นอาคารไม้เก่าที่มาปรับปรุงให้ดูดี ไว้เป็นที่เรียนรู้วิถีชีวิตคนไทย ตอนนี้สำเร็จไปแล้วกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งในศูนย์เรียนรู้นั้นมีสิ่งของเก่าที่เด็กรุ่นใหม่แทบจะไม่เคยเห็นแล้ว เช่น เครื่องโม่ข้าว ที่ทำมาจากไม้ไผ่และดินเหนียว ในปัจจุบันหาดูได้ยากมาก และอุปกรณ์เครื่องครัว อุปกรณ์การจับปลาต่างๆ ทุกวันนี้จะมีหน่วยงานและน้องๆ ในเขตอำเภอภูเรือ มาดู มาเยี่ยมศูนย์การเรียนรู้ แต่ก็ไม่มากนัก เพราะศูนย์การเรียนรู้ของเราไม่ได้ประชาสัมพันธ์เท่าไหร่ อาศัยคนที่เคยมาบอกต่อๆ กันไป

"ส่วนประเด็นหนึ่งที่มีคนถามมากว่า ทำไมจบจากธรรมศาสตร์ ไม่หางานดีๆ ทำที่กรุงเทพฯ มาหมกมุ่นทำนาอยู่ที่นี่ทำไม ได้ก็ไม่คุ้ม ความเจริญก็ไม่มีเท่ากรุงเทพฯ ก็บอกแล้วว่าเราเป็นตัวของเรา จิตใจอยู่ที่นี่ ใจเราอยู่ที่นี่ และนี่คือบ้านของเรา ใช้ชีวิตวิถีพอเพียง ตามที่ในหลวงเคยสอน แค่นี้เราก็มีความสุขมากแล้ว การจะใช้ชีวิตอย่างคนสังคมเมือง ไฮเทคโนโลยีนั้น มันไม่ใช่ตัวตนของเรา สิ่งที่นำไปใช้เพื่อถ่ายทอดความรู้สอนเด็กรุ่นน้อง ให้รักความเป็นคนไทเลย ซึ่งมีภาษาของเรา และวิถีชีวิตที่พอเพียงของคนไทเลย ที่บ้านเรามีอะไรอีกหลายอย่าง ที่เรายังไม่รู้ ไม่เคยเรียน แต่เราได้เห็น แต่เราไม่เคยนำมันมาใช้เป็นประโยชน์" น้องหนูดี กล่าว

Credit: http://www.thairath.co.th/content/440661
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...