เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

          ขึ้นเงินเดือนข้าราชการ 8% วงถกคลังสรุป พร้อมให้ปรับเพิ่มค่าครองชีพ ปรับฐานเงินเดือน เตรียมส่งเรื่องให้ คสช. พิจารณา ด้านรัฐวิสาหกิจเล็งขอปรับขึ้นด้วย

          สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้สั่งการให้ฝ่ายกิจการพิเศษไปพิจารณาแนวทางการปรับเพิ่มค่าตอบแทนของข้าราชการ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นนั้น

          ล่าสุดวันนี้ (4 สิงหาคม 2557) มีความคืบหน้าในดังกล่าว โดยแหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้หารือกันในเรื่องนี้แล้ว และได้ข้อสรุป 4 ประเด็น คือ

           ปรับฐานเงินเดือนทั้งระบบเพิ่มอีก 8% ของฐานอัตราเงินเดือนเดิม โดยคำนวณวงเงินงบประมาณในรอบ 3 เดือนและ 6 เดือนแล้วแต่ความเหมาะสม 

           ปรับเพิ่มเงินค่าครองชีพชั่วคราวให้ข้าราชการชั้นผู้น้อย โดยไม่ปรับเพิ่มเงินเดือน เพื่อมิให้กระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจ จากกรอบเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราว 1,500 บาท รวมเงินเดือนต้องไม่ต่ำกว่า 9,000 บาท แต่ไม่สูงกว่า 12,285 บาท ให้ปรับเพิ่มเป็นค่าครองชีพชั่วคราว 2,000 บาท เมื่อรวมกับเงินเดือนแล้วต้องไม่ต่ำกว่า 10,000 บาท และต้องไม่สูงกว่า 13,285 บาท โดยให้แต่ละหน่วยงานไปคำนวณวงเงินแล้วแจ้งผลมายังกรมบัญชีกลาง 

           ยกฐานอัตราเงินเดือนและเพิ่มอัตราเงินเดือนให้เหมาะสม 

           ปรับปรุงเงินตอบแทนการทำงานนอกเวลาทำการ และค่าตอบแทนอื่น ๆ โดยให้แต่ละหน่วยงานไปตกลงกับกรมบัญชีกลาง

          ทั้งนี้ ทุกปี ทางสำนักงบประมาณได้จัดสรรวงเงินเพื่อจ่ายเงินเดือนข้าราชการเพิ่มปีละ 6% อยู่แล้ว โดยปีงบประมาณ 2557 นี้ งบเงินเดือนข้าราชการกว่า 2 ล้านคนอยู่ที่ 5.99 แสนล้านบาท ขณะที่ในปี 2558 อยู่ที่ 6.3 แสนล้านบาท แต่ถ้าหากจะมีการปรับเพิ่มจาก 6% เป็น 8% จะต้องใช้เงินเพิ่มอีกประมาณ 1.2 หมื่นล้านบาท สำหรับการเพิ่มเงินค่าครองชีพนั้นขึ้นอยู่กับแต่ละหน่วยงานเอง เพราะเป็นงบของแต่ละหน่วยงาน อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวต้องรอ คสช. สรุปก่อนว่าจะดำเนินการอย่างไร

          ขณะที่ นายดำรงค์ ไวยคณี ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า หากจะมีการปรับขึ้นเงินเดือนให้ข้าราชการจริง ก็ต้องปรับขึ้นทั้งระบบคือทั้งข้าราชการและรัฐวิสาหกิจ ซึ่งจะต้องหารือกับคณะกรรมการแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์กันต่อไป 

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก

Credit: http://money.kapook.com/view94943.html