อาจารย์หมออุดมศิลป์ ศรีแสงนาม...เคยเล่าให้พังว่า...
แอนแลนเดอร์...เป็นเจ้าของคอลัมน์ตอบปัญหาชีวิตที่ดังที่สุดคนหนึ่งในโลก...
เขียนคอลัมน์ให้กับหนังสือพิมพ์... ชิคาโก ทรีบูน... ออกจำหน่ายใน ชิคาโก อเมริกา...
หนังสือพิมพ์ทั่วโลก ก๊อปปี้คอลัมน์ของเธอไปลงกว่า 15,000 ฉบับ...ตั้งแต่ รัสเซีย ยันอาเยนติน่า...ทั่วทุกทวีป...ยุโรป...อเมริกาใต้...เอเชีย...เป็นคอลัมน์ที่มีคนอ่านมากที่สุดในโลก...
มีจดหมายฉบับหนึ่งลงชื่อว่า... "An american housewife"...หรือ... "แม่บ้านชาวอเมริกัน"
จดหมายเขียนถามว่า...
มีใครเหมือนฉัน...บ้างไหมหนอ...?
เธอเริ่มต้นในจดหมายว่า... "Dear Ann"
ฉันเยนะ...ก่อนแต่งงาน มีความสุขกับแฟนมาก...
เวลาอยู่ใกล้ชิดกันเนี่ยมีความสุขเหลือเกิน...เขากระซิบข้างหูฉัน...พูดเพราะๆ กับฉัน...กอดจูบ...ลูบไล้ฉัน...
หลังจากนั้นเราก็แต่งงานกัน...ช่วงแรกนั้นมีความสุขเหลือเกิน...
ถึงขณะนี้...เราแต่งงานกันมาแล้ว 6-7 ปี แล้ว
แอน...! เดี๋ยวนี้ฉันไม่มีความสุขเลย...
เดี๋ยวนี้ Sex เหมือนกับเครื่องจักร...คือวันไหนที่เขาต้องการ...เขาก็รีบๆ แป๊ปเดียว...
========================================================
รู้เลยว่า...วินาทีแรกมือขวาเขาจะโอบเอวมือซ้ายจะโอบไหล่...วินาทีถัดมาจะจูบที่ตรงไหน...สัมผัสฉันตรงไหน...และเพียงอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้า...เขาก็จะเข้าไปในร่างฉัน...แล้วก็ขยับตัวเข้าออก...เดี๋ยวเดียวเขาก็เสร็จกิจ แล้วเขาก็นอนหันข้างให้ฉัน...แม่บ้านคนนี้บอกว่า...
"แอน...ฉันไม่เคยมีความสุขเลย..."
ฉันคิดถึงวันคืนเก่าๆ
เดี๋ยวนี้เขาไม่ต้องมี Sex กับฉันก็ได้
ฉันไม่อยากมี Sex กับเขาอีกแล้ว
ขอเพียงให้เขามาพูดกับฉันเพราะๆ
โอบไหล่ฉันบ้าง เพียงเท่านั้น
ฉันก็มีความสุขซะมากกว่ามี Sex กับเขาเสียอีก แล้วแม่บ้านคนนี้ก็เขียนส่งท้ายว่า...
"มีใครเหมือนฉันบ้างไหมหนอ...?"
และลงท้ายจดหมายว่า... "An american housewife"
แอนเป็นคนฉลาดมาก... เวลาจดหมายฉบับไหนเป็นคำตอบที่ยาก...บางทีเธอจะไม่ตอบ...
วิธีไม่ตอบ...ของเธอที่ชาญฉลาดคือ...เล่นย้อนคำถาม แอนเขียนในช่องที่ควรจะเป็นคำตอบของเธอว่า...
"มีใครเหมือนฉันบ้างไหมหนอ...?"
แอนไม่นึกว่า จดหมายฉบับนี้...คำตอบแบบนี้...จะสร้างปรากฏการณ์ทางสังคมศาสตร์อย่างยิ่งใหญ่...
เพียงเช้าของวันรุ่งขึ้นเท่านั้นเอง... ตึกระฟ้าของชิคาโก้คือ "ตึกเซียร์" ซึ่งเป็นตึกที่สูงที่สุดในโลก...
มีคนทิ้งป้ายผ้า ผืนเบ้อเริ่ม...ยาว.ว.ว.ว.มาก...ลงมาจากตึกระฟ้า...เขียนตัวหนังสือเพียงสองคำว่า...
"Yes...Ann."
จำได้ไหมครับว่า...? แอนตอบว่า "มีใครเหมือนฉันบ้างไหมหนอ...?"
รุ่งขึ้นมีคนทิ้งป้ายผ้าข้อความว่า "Yes...Ann."
หลังจากนั้นเพียงอาทิตย์เดียว...มีป้ายผ้าแบบนี้เต็มเมืองชิคาโก้เลย...จดหมาย...โพสการ์ด... และโทรเลข...หลั่งไหลมายัง Office ของแอน แลนเดอร์ เพียงอาทิตย์แรก อาทิตย์เดียว เป็นแสนๆ ฉบับ...ไม่นับโทรศัพท์..
ตลอดเวลาได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่...หลังจากเรื่องนี้จบประมาณ 3-4 เดือน...แอนได้รับจดหมายทั้งหมดประมาณเจ็ดแสนฉบับ...จากทั่วโลก
เป็นการจุดประกายให้เกิดการโต้วาที อย่างสาหัสสากรรจ์...ทั้งวิทยุ...โทรทัศน์ และหนังสือพิมพ์...โต้กันอยู่เรื่องนี้...
"พูดถึงความไร้ความสุขทางเพศของแม่บ้าน"
เป็นการจุดประกายให้แม่บ้านทั้งหลาย...ที่ไม่กล้าพูดไม่กล้าจาในเรื่องนี้...
กล้าออกมาพูดว่า... "ไม่พอใจบทรักของสามี" ซึ่งเหมือนกับแผ่นเสียงตกร่อง...หนักขนาดไหน...?
บางคนบรรยายว่า...เหมือนกับอ่านหนังสือเล่มเดียว... อ่านเล่มนี้มา 30 ปี
รู้เลยว่า...เปิดหน้าแรก...ย่อหน้าแรกจะเป็นยังไง...เดินเรื่องและจบยังไง...เบื่อจนไม่รู้จะเบื่อยังไง... แต่ไม่รู้จะพูดกับใคร...บอกกับใครไม่ได้...
และนี่คือสิ่งที่เราเพิ่งค้นพบระยะหลังนี้เองว่า...มีภรรยาและมีแม่บ้านทั้งในอเมริกาและประเทศอื่นๆ ทั่วโลก ที่ไม่เคยมีความสุขสุดยอดหรือ Orgasm มากกว่า 40%...
ตกใจเลยนะครับ...พวกนักวิชาการไม่เชื่อว่าเป็นไปได้ยังไง...?
ในเมื่อ Sex เป็นเรื่องที่คนปฏิบัติกันเป็นประจำเยอะแยะ...ใฝ่แสวงหากัน...น่าจะเป็นเรื่องที่ให้ความสุขแก่ภรรยาได้...
แต่ในความเป็นจริง...หลังแต่งงานแล้วพบว่า มากกว่า 40% ของแม่บ้านอเมริกา...ไม่มี Orgasm
========================================================
สามีเห็นแก่ตัว
วันนี้เรายังต้องมาพูดกันถึงจุดนี้...เพราะจุดนี้เป็นจุดที่ผู้คนไม่ค่อยพูดถึงกัน...
เพราะฝ่ายเจ้าตัวเอง คือฝ่ายแม่บ้าน...ก็ไม่รู้จะไปร้องแร่แห่กระเฌอให้ใครรู้ เพราะว่าอายขายหน้าเขา...บางคนแม้แต่แม่ของตัวเองยังไม่กล้าเล่าให้ฟัง...
เพราะเรื่องพรรณนี้ถ้าเล่าไปก็มักกลัวว่า จะถูกสังคมตราหน้าว่าเป็นคนแรดมาก.ก.ก.ก...
เพราะฉะนั้นก็ได้แต่กัดฟันอดทนไป...
ผู้ชายเมื่อมีความต้องการ ก็จะรีบๆ ทำ... เอาแต่ใจ...เอาแต่ได้ของเขา... พอสมใจเสร็จกิจแล้วเขาก็หลับ...กรนอย่างสบายใจ...
ไม่เคยคำนึงว่าผู้หญิงจะรู้สึกยังไง...
พอสามีหลับก็แอบร้องไห้ในห้องน้ำ...เพราะกลัวสามีตื่น...
ขนาดร้องไห้ยังกลัวสามีตื่น...ทั้งๆ ที่เขาเป็นคนทำให้เราต้องร้องไห้แท้ๆ...
คำพูดของคนไข้ผู้หญิงที่มาปรึกษาหมอส่วนใหญ่...จะพูดเหมือนกันหมดคือ...สามีเป็นคนเห็นแก่ตัว...
ไม่ใช่เรื่องเงิน เรื่องทอง...หรือเรื่องอื่นๆ...สามีจำนวนมากดี้ดี...
เป็นพ่อที่ดี...เป็นสามีที่ดี...ดีในทุกเรื่อง...เป็นคนทำงานในวิชาชีพของตัวเองได้ดี... แต่บทบาทบนเตียงอย่างเดียวเท่านั้น ที่เขาไม่รู้จะร้องกับใคร...? จะบอกกับใครได้ว่า...
"สามีเห็นแก่ตัวในเรื่องนี้"
========================================================
ความเจ็บปวด ทุกข์ทรมาน ทั้งกายและใจ
คุณผู้หญิงจะเกิดความเจ็บปวดทุกข์ทรมาน...ทั้งร่างกายและจิตใจเป็นอย่างมาก...เมื่อไม่ถึงจุดสุดยอด ขณะมีเพศสัมพันธ์...
ขณะที่คุณผู้หญิงเกิดอารมณ์เพศ ขณะมีเพศสัมพันธ์...เลือดในร่างกายจะถูกฉีดไปหล่อเลี้ยงอวัยวะเพศ...ทั้งภายในและภายนอกจำนวนมาก... รวมถึงเต้านมและมดลูก... เป็นผลให้อวัยวะเพศทั้งหมดขยายตัวใหญ่ขึ้นเป็น 2-3 เท่าของขนาดปกติ...
มีอาการแข็งตัวและร้อน...มีการเกร็งตัวและบีบรัดอย่างต่อเนื่อง...
ถ้าคุณผู้หญิงถึงจุดสุดยอด... อาการเหล่านี้จะหายไป...ร่างกายกลับเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 5-30 นาที
คุณจะรู้สึกโล่ง โปร่ง สบาย มีความสุขมากที่สุดในชีวิต...
แต่ถ้าไม่ถึงจุดสุดยอด...อาการเหล่านี้จะคงอยู่อย่างนั้น นานมาก...นานเป็นวันๆ ไม่ยอมสลายตัว...
ปัญหาที่เกิดตามมาคือ... เกิดการเจ็บปวดบริเวณอวัยวะเพศ ส่วนที่เลือดถูกส่งไปหล่อเลี้ยง... เกิดความเจ็บปวด ตึงกล้ามเนื้อ ร้อนและเครียด...
และถ้าเป็นบ่อยๆ จะเกิดอาการนอนไม่หลับ...วิตกกังวล...ปวดหัวเรื้อรัง...ปวดท้องน้อยเรื้อรัง...เป็นโรคซึมเศร้า...เป็นโรคประสาท...ต้องกินยานอนหลับเป็นประจำ...จนติด
กลายเป็นคนขี้หงุดหงิด...โมโหง่าย...เจ้าอารมณ์...จุกจิกจู้จี้ขี้บ่น...ขี้หึง และไม่มีเหตุผล...บุคลิกภาพเปลี่ยนไป...
ผู้หญิงที่แต่งงานแล้วตกอยู่ในภาวะดังกล่าวเป็นจำนวนมาก...จนผู้ชายเหมาเอาว่าผู้หญิงทุกคนเมื่อแต่งงานแล้ว...จะต้องเป็นอย่างนี้...แถมนำเรื่องนี้ไปเล่าต่อให้เพื่อนๆ ในวงเหล้าฟังว่า...
เมียกู...จุกจิก...จู้จี้...ขี้บ่น...แก่ง่าย...ตายยาก...พูดมาก...กินจุ...หน้าเหมือนหมู...ดุเหมือนเสือ...
แล้วหัวร่อเอิ๊กอ๊าก...อย่างสนุกสนาน...ไม่ได้สำนึกเลยว่า...ปัญหาที่คุณนำมาเล่านั้น...มีสาเหตุมาจากความบกพร่อง...ความไม่ประสาเรื่องเพศ...ความไม่ใฝ่รู้...และความไม่รับผิดชอบของตัวคุณเอง...
ผู้หญิงจึงขนานนามสัตว์เลือดอุ่น...นิสัยเอาแต่ใจตนเอง...และสมองไม่แข็งแรง ประเภทนี้ว่าพวก...
"เห็นแก่ตัว"
ในกลุ่มนี้สงสัยมีชื่อผมร่วมอยู่ด้วย...ทั้งที่ผมไม่ค่อยเต็มใจ...
========================================================
สถิติที่น่าสนใจ
การสำรวจหญิงที่แต่งงานแล้วพบว่า
- 40% ถึงจุดสุดยอดขณะร่วมเพศ
- 60% ไม่ถึงจุดสุดยอด...และจำนวนมากที่ไม่เคย รู้จักว่าความสุขสุดยอดเป็นอย่างไร
สาเหตุที่ผู้หญิงไม่ถึงจุดสุดยอด
1. เล้าโลมไม่เพียงพอ...ไม่ตรงจุดสำคัญ
2. ร่วมเพศไม่นานพอ
3. ฝ่ายหญิงมีสภาพจิตใจไม่ปกติ...วิตก...กังวล...หวาดกลัว
4. สภาพแวดล้อมไม่เหมาะสม
5. ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดเป็นโรคหรือมีความผิดปกติเกี่ยวกับเพศสัมพันธ์
- ฝ่ายชายเป็นโรคหลั่งเร็ว
- ฝ่ายหญิงเป็นโรคกามตายด้าน
ต้นเหตุเกิดจากฝ่ายชาย...มีประสบการณ์และความรู้เรื่องเพศไม่เพียงพอ...และไม่พยายามศึกษาเพิ่มเติม
ในขณะที่ฝ่ายหญิง...ก็ไม่เคยเรียนรู้...ไม่ศึกษาจากตำรา...จึงไม่สามารถให้คำปรึกษา...หรือช่วยกันแก้ไขสถานการณ์ให้ดีขึ้นได้...
========================================================
ประสบการณ์พยาบาลสาว
มีเรื่องเล่าว่าผู้หญิงคนหนึ่ง...เป็นพยาบาลทำงานในโรงพยาบาล...รักนวลสงวนตัว...รักษาพรหมจรรย์สุดชีวิต...จนถึงวันแต่งงาน...
เมื่อทำพิธีส่งตัวเจ้าสาวเข้าหอ...
เจ้าบ่าวซึ่งรอวันนี้ด้วยใจจดใจจ่อมาตลอดชีวิต...ไม่จำเป็นต้องรีรออะไรอีกแล้ว... วินาทีทองอย่างนี้ มีไม่กี่ครั้งในชีวิต...
ประเวณีสัมพันธ์เริ่มขึ้นด้วยความตื่นเต้น...เร้าใจ...และจินตนาการที่ชื่นมื่นของทั้งสองฝ่าย...
เหตุการณ์ประหลาดได้อุบัติขึ้น...บนความตื่นตระหนกของทั้งคู่...โดยไม่มีใครเชื้อเชิญ...
ในขณะที่ฝ่ายชายกำลังพาสมุนคู่ชีพ...ตะลุยฝ่าวงล้อมของฝ่ายหญิงอยู่นั้น...
ยิ่งลุย...ยิ่งเฉย...ยิ่งลุย...ยิ่งชา...
ในที่สุดก็หมดความรู้สึก...Mission imposible...ถูกยกเลิกกลางคัน...
ชีวิตคู่วันแรกล้มเหลวโดยสิ้นเชิง...
เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความงุนงง...สงสัย...ให้แก่ฝ่ายชายเป็นที่สุด...
ตามหลักสูตร สปช.ที่ร่ำเรียนมา...ยิ่งบุกตะลุย...จะยิ่งมัน...ยิ่งเสียว...ลุยถี่เท่าไร...รุนแรงเท่าไร...ความหฤหรรษ์ก็ควรจะเพิ่มเป็นทวีคูณ...แต่นี่กลับเป็นตรงกันข้าม
อดรนทนไม่ไหว...จึงจับเข่าคุยกับภรรยา หาสาเหตุของรักล่มครั้งนี้...
ในที่สุดภรรยามาสารภาพว่า...
เธอวิตก...กังวล...หวาดกลัว...เพราะได้รับการบอกเล่าว่า...วันแรกของการแต่งงานจะเป็นวันที่เธอต้องเจ็บปวดที่สุด...
เพื่อความไม่ประมาทเธอจึงนำครีมยาชา...จากโรงพยาบาลมาทาช่องคลอด เพื่อกันเจ็บ...
แต่เธอลืมคิดไปว่า...สมุนคู่ชีพของสามี...จะพลอยได้รับอานิสสงส์ของยาชาอันนั้นด้วย...
========================================================
การแก้ปัญหา
ผลการสำรวจพบว่า...สาเหตุที่ผู้หญิงไม่ถึงจุดสุดยอด...ส่วนใหญ่เกิดจาก ความเป็นคนหัวไวของคุณผู้ชาย... พอเกิดอารมณ์ปุ๊บ...ก็คว้าเทียนระเบิดถ้ำทันที...
ไม่เปิดโอกาสให้ฝ่ายหญิง...ได้มีโอกาสเตรียมตัว...เตรียมใจ...เตรียมกาย...และตั้งหลักเพื่อเตรียมการต้อนรับเลย...
โดยธรรมชาติ...อวัยวะเพศชายเมื่อแข็งตัวปุ๊บ...สามารถร่วมเพศได้ทันที...การแข็งตัวใช้เวลาเพียง 10-20 วินาทีเท่านั้น
แต่อวัยวะเพศหญิง...ต้องรอให้มีหล่อลื่นมาเลี้ยงให้ทั่วบริเวณจตุรัสรักเสียก่อน...แขกผู้มาเยือนจึงจะสามารถเข้าไปได้...ต้องใช้เวลาในการเล้าโลม 10-20 นาที
การรีบร้อนร่วมรักในขณะที่ฝ่ายหญิงยังไม่พร้อม...จะทำให้ภายในถ้ำคูหาสวรรค์ฝืด...สร้างความเจ็บปวด ทุกข์ทรมานให้ฝ่ายหญิงเป็นอย่างมาก...และจำนวนไม่น้อยที่เกลียดและกลัวการร่วมเพศไปเลย...
ผู้เชี่ยวชาญ จึงช่วยกันค้นหาวิธี...สร้างความสุขสุดยอดให้กับคู่สามีภรรยาทั้งหลาย...ให้ได้ขึ้นสวรรค์พร้อมกันอย่างมีความสุข...โดยกำหนดขั้นตอนการปฏิบัติไว้ 5 ขั้นตอน...ให้ชื่อสูตรรัก แผนรบนี้ว่า...
"ยุทธการ กามเทพวิถี" ...มีขั้นตอนเรียงตามลำดับดังนี้
ชักชวนเริงสวาท
เร้าเส้นประสาทเสียก่อน
พาจรสู่ความสุข
กระตุกขึ้นสวรรค์
ฝากฝันก่อนพลันจาก
หลายท่านถามว่า ทำไมต้องกระตุกขึ้นสู่สวรรค์ด้วย...? ดึงขึ้นสวรรค์เฉยๆ ไม่ได้หรือ...?
ไม่ได้หรอกครับ...เพราะคุณผู้หญิงส่วนมากขี้อาย...ดึงเบาๆ ไม่ขึ้นหรอกครับ...
ทีนี้ลองมาดูวิทยายุทธที่ว่านะครับ...ว่าแต่ละขั้นตอนมีวิธีการอย่างไร
ชักชวนเริงสวาทผมหมายถึงชวนภรรยาตัวเองนะครับ...ไม่ใช่พอมีอารมณ์ตรงไหน...ก็ชวนสาวใกล้ตัวเริงสวาท...มีสิทธิ์ตายโดยไม่ต้องขออนุญาต...เพสสัมพันธ์ที่ดีและสมบูรณ์จะต้องมีความรักเป็นพื้นฐานเสมอ...เมื่อฝ่ายชายมีความต้องการทางเพศ...ก็ต้องสื่อสารให้ภรรยาทราบ...ด้วยการพูดคุยและบอกกล่าว...ไม่ใช่บอกด้วยกระแสจิต...แล้วจู่โจม...
========================================================
การจะชักชวนเธอให้เต็มใจร่วมกิจกรรมสวาทสัมพันธ์...
ต้องเริ่มต้นด้วยความรัก...ความเข้าใจ...สื่อภาษาคำพูดที่นุ่มนวล...หวานหู...ยกย่องชมเชยซึ่งกันและกัน...สถานที่ต้องมิดชิดเหมาะสม...
เริ่มจากการเอาอกเอาใจ...เอื้ออาทร...เอาใจใส่ดูแล...ชงกาแฟให้...ทานอาหารด้วยกัน...อาบน้ำพร้อมกัน...ตัดเล็บให้...เกาหลัง...นวดเฟ้น...หยอกล้อ...หัวร่อต่อกระซิก...สร้างความรู้สึกและบรรยากาศที่ชวนลงทุน...เพื่อเป็นการเตรียมจิตใจให้ทั้งสองฝ่ายเปิดใจต้อนรับซึ่งกันและกัน...
เมื่อจิตใจเปิดรับแล้ว...ก็หาสถานที่ที่เหมาะสม...เป็นที่ลับหูลับตาคน... สะอาดสะอ้าน...นุ่มสบาย...มีกลิ่นหอมรัญจวญใจ...เสียงดนตรีนุ่มนวล ไพเราะรื่นหู...แสงไฟอ่อนสลัวๆ...
ให้บรรยากาศโรแมนติค และเร้าอารมณ์ของทั้งคู่...ให้ตกอยู่ในภวังค์...ลืมสติ...ลืมตัว...ลืมทุกข์โศก...โรคภัย...ลืมหนี้ลืมสินไปชั่วขณะ
กล้ามเนื้อบริเวณปากซอยกามเทพจะแข็งแรงมาก...ถ้าเจ้าของไม่ยินยอมพร้อมใจ...ใครก็เข้าไปไม่ได้...และถ้าฝ่าฝืนจะสร้างความเจ็บปวดให้กับทั้งสองฝ่ายเป็นอย่างมาก...
มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับความแข็งแรงของกล้ามเนื้อส่วนนี้ว่า...
========================================================
ผิดที่ผิดทาง
หนุ่มสาวคู่หนึ่งไปเที่ยวงานวัดด้วยกัน...ความใกล้ชิด สนิทสนม กอดเบียด เสียดสีกันในงาน...ทำให้ความรักของทั้งสองเกิดสุกงอมในคืนนี้เอง...
ชายหนุ่มจึงยึดป่าช้าข้างวัด เป็นรังรักเฉพาะกิจ...เพราะเงียบสงบและเป็นเส้นทางอโคจรของบุคคลทั่วไป...
ปฏิบัติการอันสุนทรตามบัญชาสวรรค์ ก็เริ่มขึ้น...
ผู้ชายน่ะ โอ.เค...แต่ลืมนึกไปว่าฝ่ายหญิง...กลัวผี...
ในขณะที่ฝ่ายชายกำลังขับเคลื่อนคาร์ดิแลคคันงามเข้าประตูดรงรถของฝ่ายหญิง...สุนัขตัวหนึ่งวิ่งผ่านเหตุการณ์โดยมิได้นัดหมาย...
ฝ่ายหญิงตกใจสุดขีด...สมองสั่งให้กล้ามเนื้อทุกมัดทำงาน...บีบรัดตัวอย่างแรง...ประตูโรงรถปิดตายทันที..
ฝ่ายชายร้องโอด โอย โหยหวน เพราะไม่สามารถ ถอยรถคันงามออกจากโรงรถมฤตยูได้...
ถูกบีบรัดเจ็บปวด...เหมือนมีใครเอาหนังสติ๊กมารัดปลายนิ้วไว้...
เดือดร้อนคนที่มาเที่ยวงาน...ต้องช่วยกันหามทั้งสองคนขึ้นรถปิคอัพ...ส่งโรงพยาบาล...ท่ามกลางผู้มาห้อมล้อมเพื่อให้กำลังใจหลายร้อยคน..
การหามก็ต้องหามเป็นคู่...เหมือนข้าวต้มมัด...ขณะหามต้องเอาผ้าผืนใหญ่ๆ มาคลุมไว้... ไม่ให้คนดูเห็นภาพกีฬามันๆ ...
ผมได้แต่นั่งภาวนาว่า...ขออย่าให้เหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นกับผมเลย...ผมคงทำใจไม่ได้...
ในที่สุดคู่นี้ต้องดมยาสลบ...เพราะฉีดยาชาให้แล้ว กล้ามเนื้อก็ยังไม่คลายตัว...
========================================================
หอกระตุกขวัญ
อีกเรื่องนะครับ...
นักศึกษาชายมหาวิทยาลัยมีชื่อแห่งหนึ่ง...ความรักขยายตัวเต็มที่จนไม่สามารถจะหักห้ามสะกดสะกดใจ ให้หลับใหลเป็นปรกติเหมือนเดิมต่อไปได้...
จึงตัดสินใจปีนหอหญิง...เข้าหาสาวคนรักซึ่งเรียนอยู่มหาวิทยาลัยเดียวกัน
สาวเจ้าไม่ค่อยจะเต็มใจเท่าไรนัก...เพราะกลัวว่าเพื่อนร่วมห้องที่ออกไปซื้อก๋วยเตี๋ยว...จะเข้ามาพบเหตุการณ์สะท้านจิตเข้า...แต่ก็ไม่สามารถต่อสู้กับแรงปรารถนาได้...
ขณะที่กิจกรรมนอกหลักสูตร กำลังดำเนินไปอย่างเร่งรีบ...
เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น...ก๊อกๆๆๆ
กล้ามเนื้อทุกมัดของหญิงสาวทำงานพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย...
ฝ่ายชายไม่สามารถดึงอาวุธประจำกายออกจากฝักได้...
เรื่องที่ควรเป็นความลับของทั้งคู่...ก็เลยรู้กันทั้งมหาวิทยาลัย...
เศร้าจริงๆๆ...
เมื่อเหตุการณ์สงบลง...สาวเจ้าเลยต้องเปลี่ยนชื่อใหม่...เป็นชื่อญี่ปุ่น...เพื่อไม่ให้คนจำได้...ชื่อว่า "อายจัง"...
เห็นไหมครับว่า...ถ้ำคูหาสวรรค์ของคุณผู้หญิงแข็งแรงขนาดไหน...? ถ้าใช้ไม่ถูกวิธีหรือไม่ศึกษาวิธีใช้ให้ดี...จะเกิดโทษและสร้างความเดือดร้อนให้แก่ทั้งสองฝ่าย...
คุณผู้ชายจึงต้องใช้เทคนิค...วิธีการที่จะเปิดช่องทางรักนี้...ด้วยรหัสลับที่มีชื่อว่า
"การเล้าโลม"
========================================================
เร้าเส้นประสาทเสียก่อน
เมื่อจิตใจและสถานที่พร้อมแล้ว...เป้าหมายต่อไปคือ ร่างกาย
ถ้ำคูหาสวรรค์มีระบบอัตโนมัติมากมาย... ถ้ารีบร้อน หัวไวใจเร็ว ด่วนได้... มีสิทธิ์เจอ Dead lock...ถึงเสียชีวิต เสียผู้เสียคน เสียศักดิ์ศรีของความเป็นชายได้...
คนไทยเป็นคนมีครู...จะทำอะไรต้องไหว้ครูก่อน... เพื่อเตรียมความพร้อม ดูทางหนีทีไล่...เพื่อวางแผนเผด็จศึก...แต่ในการต่อสู้ของสงครามใต้สะดือ เขาไม่เรียกไหว้ครู...แต่ใช้คำว่า... "รำทวน" ...ก็คือ "การเล้าโลม" นั่นแหละ
การเล้าโลมคือ...การสัมผัส...กอดจูบ...ลูบคลำ...บริเวณอวัยวะที่เป็นศูนย์รวมของเส้นประสาททั่วร่างกาย...
การเล้าโลมที่ถูกต้อง...และใช้เวลานานพอ... จะทำให้โรงงานของคุณผู้หญิงขยายตัวใหญ่ขึ้นเป็น 2-3 เท่าจากขนาดปกติ...
บริเวณทางเข้าตลอดเส้นทาง...ต่อมอัตโนมัติจะผลิตน้ำหล่อลื่นมาหล่อเลี้ยง...เพื่ออำนวยความสะดวก...เปรียบเสมือนการเตรียมน้ำเตรียมท่าไว้ต้อนรับ... "อาคันตุกะผู้มาเยือน"...ให้ได้รับความสะดวกสบายและราบรื่น...
ในร่างกายของคนเรา...ไม่ได้มีพื้นที่ที่ไวต่อการสัมผัสเหมือนกันทั้งหมดนะครับ...มีเพียงบางพื้นที่เท่านั้น...
เหมือนกับที่ดินในกรุงเทพฯ...แต่ละพื้นที่ราคาไม่เท่ากัน...แถวสีลมก็แพงหน่อย...ขยับออกนอกเมือง...แถวชานเมืองก็ถูกลง...
ผิวหนังของคนเราก็เช่นกัน...มีความไวไม่เท่ากัน พื้นที่ที่มีความไวต่อการกระตุ้นมากๆ เราเรียกบริเวณนั้นว่า... พื้นที่วาบหวิวสยิวเสียว "...หมอเรียกว่า..."Erogenous Zone"
========================================================
พื้นที่วาบหวิว สยิวเสียว
ทีนี้เราลองมาดูซิครับว่า...มีผิวหนังตรงไหนบ้างครับที่ไวต่อความรู้สึก... และคุ้มค่าต่อการกระตุ้นเพื่อเร้าอารมณ์...
พื้นที่ที่เร้าอารมณ์ส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่ที่มีผิวหนังบางๆ เช่น เปลือกตา...ติ่งหู...ซอกคอ...
แต่ถ้าเป็นหัวเข่า...เป็นไงครับ...?
เลียเท่าไรก็ไม่มีความรู้สึก...หยิกยังไม่เจ็บเลย...
เพราะฉะนั้นถ้าวันนี้สามีมาทำอะไรแถวๆ หัวเข่า...บอกเขาว่าอย่าเสียเวลาเลย...มันไม่คุ้มค่ากับการลงทุนหรอก...หาที่อื่นที่มันสร้างสรรค์กว่านี้ดีกว่า...
เราลองมาดูพื้นที่วาบหวิว สยิวเสียวในร่างกายของเรานะครับว่า...มีส่วนไหนบ้าง...?
- เริ่มต้นที่หน้าผาก...แก้ม...ใบหู...ขอบหู...ติ่งหู...สัมผัสเบาๆ ด้วยริมฝีปาก แค่นี้พอแล้ว...วาบหวิวแล้ว...
บางคนไม่สะใจ เอาลิ้นล้วงเข้าไปในรูหู...ไม่รู้จะล้วงเข้าไปหาขุมสมบัติอะไร...?
- ต่อมาก็ ริมฝีปาก...แก้ม...ใบหน้า...คาง...ซอกคอ...แขน...เนินหัวไหล่...
เวลาบรรยาย...พูดถึงเนินหัวไหล่...พูดผิดบ่อย...เผลอปากเรียกเป็นเนินหัวเหน่า...
เผลอบ่อยครับ...บางทีอธิบายเรื่องช่องปาก...เรียกกระพุ้งแก้มเป็นอุ้งเชิงกราน...ก็เคย...
- บริเวณเนินหัวไหล่จะสยิวมากครับ...ใต้ท้องแขน...รักแร้...โดยเฉพาะรักแร้นี่ไวมากครับ... แต่อาจได้รับรสชาติของสาเหร่ายทะเลเป็นของแถม...บางครั้งมีเส้นผมติดฟันมาด้วย...อันนี้ลงทุนมากไปนะครับ...ไม่แนะนำให้ทำทุกวัน...
- ต่อมาก็ หน้าอก...เต้านม...หัวนม...หัวนมเป็นจุดที่คุ้มค่าแก่การลงทุนเป็นอย่างยิ่ง...เพราะไวต่อการกระตุ้นมาก...บางคนถึงกับบิดตัวและมีเสียงครางเบาๆ...
- ต่อมาก็...สีข้าง...หน้าท้อง...สะดือ...บริเวณรอบสะดือ...รู้จักสะดือไหมครับ...?
มีนักเขียนขี้เล่นให้คำจำกัดความของสะดือว่า...สะดือเป็นพืชตระกูลเดียวกับสะเดา...ถ้าเอาลิ้นเลีย...จะมีรสเค็มปะแล่มๆ ผมไม่ทราบว่าจริงหรือเปล่า...? ใครอยากรู้ก็ทดลองดู...
- ต่อจากนั้นคณะสำรวจก็เคลื่อนต่ำลง...ไปถึงหน้าท้องน้อย...ก็จะพบจตุรัสรัก...ซึ่งเข้าใจว่าเป็นญาติกับ...จตุรัสเทียนอันเหมิน...แต่มีรูปร่างที่ต่างกัน
บริเวณจตุรัสรักนี้...ทุกจุดที่สัมผัสเจ้าของจะรู้สึกสั่นสะท้านไปทั้งตัว...เพราะเป็นศูนย์รวมของเส้นประสาท...โดยเฉพาะไข่มุกอันดามัน...ไวต่อการสัมผัสสูงสุด...ถ้าสัมผัสนุ่มนวลและใช้เวลานานพอ...คุณผู้หญิงจะสามารถถึงจุดสุดยอดได้...
- ต่อมาก็...ขาอ่อน...ขาด้านใน...ข้อพับ...ข้อพับก็เป็นบริเวณที่ไวมาก...หน้าแข้ง...น่อง...หลังเท้า...ซอกนิ้วเท้า...ถ้ายังไม่สะใจ...ต้องการตื่นเต้นมากกว่านี้...ก็แนะนำที่ฝ่าเท้าครับ...ก่อนจู่โจมพิสูจน์ความสะอาดก่อนนะครับ...
คุณผู้ชายที่น่ารักครับ...ได้หน้าแล้วอย่าลืมหลัง...ผมหมายถึงด้านหลังนะครับ...ไม่ใช่ประตูหลัง...พื้นที่ด้านหลังก็มีความไวต่อการเร้าอารมณ์ไม่ต่างกัน... อย่าปล่อยให้เป็นพื้นที่รกร้างว่างเปล่า
- ไล่ตั้งแต่ ต้นคอ...แผ่นหลัง...ร่องหลัง...ใช้มือลูบเบาๆ ตลอดแนวกระดูกสันหลัง...จะให้ความรู้สึกวาบหวิวและจั๊กจี้เล็กน้อยมีอาการขนลุก...กระเบนเหน็บ...แก้มก้นและสัมผัสเบาๆ ที่ก้นย้อย...เท่านี้ก็จะทำให้คุณผู้หญิงรู้สึกวาบหวิว เสียวซาบซ่าไปทั้งตัวแล้วครับ...
========================================================
G-spot
ทุกอย่างในโลก...ล้วนมีเส้นทางลัดนำไปสู่ความสำเร็จเสมอ...การเล้าโลมเพื่อกระตุ้นอารมณ์เพศก็เช่นกัน... คุณหมอท่านหนึ่งค้นพบจุดสำคัญที่เป็นเส้นทางลัดนี้...โดยตั้งชื่อว่า "G-spot"
สถานที่ตั้ง...อยู่บริเวณถ้ำคูหาสวรรค์ด้านบน (ในท่านอน)... ลึกเข้าไปประมาณ 1-2 ข้อนิ้วมือ...มีลักษณะเป็นกล้ามเนื้อหนาๆ เป็นลอนๆ สากๆ...เป็นคลื่นเล็กน้อยถึงปานกลางคล้ายเพดานปาก
จุดนี้เป็นศูนย์รวมความบันเทิงแหล่งที่ 2...เราเรียกว่า... "Entertainment Complex" ไปที่ไหนไม่สนุกสะใจ...มาที่นี่รับรองไม่ผิดหวัง...
ใช้ปลายนิ้วกลางสัมผัสเบาๆ...จะมีอาการสะดุ้งเล็กน้อย...ให้ความรู้สึก วาบหวิว ซาบซ่า...ยิ่งกว่าดื่มอาร์ซีซะอีก...
เป็นเสมือนคันเร่งของรถยนต์...ทำหน้าที่เร่งความเร็วของอารมณ์ปรารถนาให้ลุกโชติช่วงชัชวาล...ทันอกทันใจผู้นิยมความเร็วทั้งหลาย...
ภาวะดังกล่าวทำให้มีน้ำหล่อลื่นออกมามาก อาจทำให้เกิดภาวะน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้
ถ้าสัมผัสให้นานพอ...จะทำให้คุณผู้หญิงถึงสวรรค์โดยไม่รู้ตัว...
เมื่อประเทศชาติมีปัญหา...รัฐบาลก็ใช้มาตรการ... "กระตุ้นเศรษฐกิจ"...
เพื่อป้องกันไม่ให้ชีวิตคู่มีปัญหา...ผมเสนอให้ใช้มาตรการ... "กระตุ้น G-spot"...
========================================================
คุณผู้หญิงอย่าเสียสิทธิ์
การเล้าโลม และการโรมรัน...ไม่ได้สงวนสิทธิ์ไว้เฉพาะผู้ชายเท่านั้น...คุณผู้หญิงก็มีสิทธิเท่าเทียมกัน...สามารถเล้าโลมให้คุณผู้ชายได้เหมือนกัน...
คุณผู้ชายร้อยทั้งร้อย...จะชอบและติดอกติดใจเป็นอันมาก...แต่ไม่กล้าพูดไม่กล้าเอ่ยปาก...เพราะโดยปกติแล้วคุณผู้ชายส่วนใหญ่เป็นคนเคารพเมีย...
นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป...เพื่อความรัก และความอยู่เย็นเป็นสุขของครอบครัว... คุณผู้หญิงต้องใช้สิทธิ์ของตัวเองให้ครบถ้วนนะครับ...
เพราะถ้าคุณไม่ใช่สิทธิ์ที่มีอยู่...คนอื่นที่คุณไม่ปรารถนาจะมาใช้สิทธิ์แทนคุณ...เมื่อนั้นครอบครัวจะมีปัญหา...
บางคนถามว่าไม่เคยทำ...จะเริ่มต้นยังไงดี...?
ง่ายมากครับ...ก็เริ่มต้นเหมือนกับที่คุณผู้ชายเขาทำนั้นแหละครับ...เดินตามได้ทุกสเต็ปเลย...พียงแต่ขั้นตอนสุดท้ายต้องเปลี่ยน...ให้สังเกตเวลาคนแก่กินกล้วย...คนแก่ที่ไม่มีฟันน่ะครับ...จะใช้ริมฝีปากเม้มและเอาลิ้นดุนๆ...
นั้นแหละครับคือวิธีที่ถูกต้อง...ข้อสำคัญอย่าให้โดนฟัน นะครับ...
มือที่อยู่ว่างๆ...ก็ลูบไล้ลูกกอล์ฟเล่นแก้เซ็งไปพร้อมกัน...
เพียงแค่นี้คุณผู้ชายก็หนีไปไหนไม่รอดแล้วครับ...อยู่ในกำมือของคุณผู้หญิงโดยสิ้นเชิง...จะบีบก็ตาย จะคายก็รอด...เรียกว่า... "รวบอำนาจเบ็ดเสร็จ"
สาเหตุที่สามีไปติดหมอนวด หรือหญิงบริการ...ส่วนใหญ่เพราะได้รับการบริการที่ประทับใจอย่างนี้...
========================================================
ทำไมจึงต้องเล้าโลม
โดยปกติคุณผู้หญิงจะเป็นพวกไฟฟ้าแรงต่ำ... ความไวต่อความรู้สึกทางเพศช้า...
เพราะขนบธรรมเนียม...ประเพณี...วัฒนธรรม...และความเชื่อตามคำสอนที่บอกต่อๆ กันมา ว่า...เรื่องเพศสกปรก...หยาบคาย...น่ารังเกียจ...เป็นเรื่องที่ผู้หญิงเสียเปรียบ...
เวลาจะมีความสัมพันธ์ทางเพศ...คุณผู้หญิงจึงรู้สึกเหนียม...อาย...เก้อ...เขิน...
ต้องใช้เวลานาน...ในการทำใจ...และเตรียมความพร้อม...
อวัยวะเพศของคุณผู้หญิง...เป็นกล้ามเนื้อที่แข็งแรง...ในภาวะปกติจะหดตัวและแห้ง...ถ้าไม่ได้รับการเล้าโลมที่นานพอ...จะไม่มีหล่อลื่น...และไม่ขยายตัว...ทำให้เกิดอาการเจ็บและแสบขณะปฏิบัติภารกิจ...อาจทำให้ฝ่ายหญิงหมดอารมณ์...และเบื่อ...กลัวการทำกิจกรรมไปเลย...
ส่วนคุณผู้ชาย เมื่อมีอารมณ์เพศหรือความต้องการทางเพศ...ปลัดจะตัวแข็ง ชูคอได้ภายใน 10 วินาที... เมื่อปลัดโตเต็มที่ก็สามารถต่อกรกับคู่ขาได้ทันที...ไม่มีความจำเป็นต้องรีรออะไรอีก...
นี่คือความแตกต่าง...ของธรรมชาติระหว่างผู้ชายกับผู้หญิง
หมอบางท่านเปรียบความไวของผู้ชายเหมือนเตาแก๊ส ผู้หญิงเหมือนเตาถ่าน
ดังนั้นคุณผู้ชายจึงต้องทำความเข้าใจในเรื่องนี้...ต้องใช้เวลาเล้าโลมให้พอเพียง...จนกว่าเธอจะยินยอมพร้อมใจ...
ถ้าคุณใจเร็วด่วนได้...รีบร้อนเกินไป...แทนที่คุณจะได้พายเรือในคลองดำเนินสะดวก... คุณก็จะไปโผล่คลองแสนแสบโดยไม่รู้ตัว...
========================================================
เวลาเล้าโลมที่เหมาะสม
จากการสำรวจพบว่า ระยะเวลาในการเล้าโลมมีผลต่อการถึงจุดสุดยอดของฝ่ายหญิงเป็นอย่างมาก...มีตำราต่างประเทศบางเล่มบันทึกสถิติไว้น่าสนใจว่า...
- ใช้เวลาเล้าโลม 1-10 นาที... โอกาสที่ฝ่ายหญิงจะถึงจุดสุดยอด 40%
- ใช้เวลาเล้าโลม 15-20 นาที... โอกาสที่ฝ่ายหญิงจะถึงจุดสุดยอด 50%
- ใช้เวลาเล้าโลม 20 นาทีขึ้นไป... โอกาสที่ฝ่ายหญิงจะถึงจุดสุดยอด 60%
- แต่ถ้าเล้าโลมถึงหนึ่งชั่วโมง... ทั้งคู่จะหมดอารมณ์...นานเกินไปครับ
คุณสามีที่มีนิสัยมือไว ใจเร็ว ด่วนได้...พอเกิดอารมณ์ปั้บ...ก็จุดเทียนระเบิดถ้ำทันที...ตอนนี้ต้องเปลี่ยนยุทธวิธีเสียใหม่นะครับ...ต้องรู้จักไหว้ครู...ระลึกถึงครูบาอาจารย์เสียบ้าง...
========================================================
ผลจากการกระตุ้นอารมณ์เพศ
- ทำให้หัวใจเต้นเร็วขึ้น...การไหลเวียนของโลหิตทั่วร่างกายและกล้ามเนื้อหัวใจดีขึ้น
- ป้องกันเส้นเลือดตีบตันของหัวใจได้ดีเยี่ยม
- ไขมันในส้นเลือดจะถูกดูดซับออกจากร่างกาย
- การกอดรัดฟัดเหวี่ยง เป็นการบริหารกล้ามเนื้อทุกส่วนของร่างกาย...อาการปวดข้อ ปวดหลัง...จะบรรเทาลง
========================================================
ประตูสวรรค์
เมื่อเราดำเนินการอย่างเป็นขั้นตอนมาถึงตรงนี้แล้ว...ประตูสวรรค์ก็จะเปิดรอ...พร้อมให้ผู้โดยสาร Check in... เพื่อเข้าไปหาความสุข...ความบันเทิง...กับการบริการแบบเหนือเมฆ...เหนือความคาดหมาย...
เวลาเป็นเงินเป็นทอง...คุณผู้ชายไม่ควรรีรอให้เนิ่นนาน...ดันหลังท่านปลัดเข้าไปเลย... ตอนนี้ทางสะดวกแล้ว...
ผู้ชายบางคนไม่ได้เรียนการปกครองมา...ควบคุมปลัดไม่อยู่...
มันก้มหน้าไม่สนใจใยดีประตูที่เปิดรอ...ทำให้ผู้เป็นเจ้าของหัวเสีย...และรู้สึกเสียหน้าเป็นอย่างยิ่ง...
สถานการณ์อย่างนี้ต้องใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดในการแก้ปัญหา...ต้องใช้แผนสยบบร