เป็นที่รู้กันดีว่าเอเชียคือมนต์เสน่ห์ของฝั่งตะวันนออกที่ชาวตะวันตกหลายชาติหลายภาษาอยากจะมาสัมผัสกันสักครั้ง เพราะมีความเป็นเอกลักษณ์ มีวัฒนธรรมที่อ่อนช้อย และตราตรึงใจ วันนี้เราเลยจะพาไปรู้จัก 10 อันดับของสถานที่ท่องเที่ยวที่เรียกได้ว่า พูดถึงเอเชีย ใครๆ ต้องนึกถึงสถานที่เหล่านี้ เพราะเป็นสถานที่สำคัญที่ได้ชื่อว่าเป็นเอกลักษณ์ของเอเชียค่ะ 

 

อันดับที่ 10 พระบรมมหาราชวัง : กรุงเทพฯ ประเทศไทย

พระบรมมหาราชวัง ที่เราคนไทยรู้จักกันเป็นอย่างดีค่ะ ที่นี่เป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์ ตั้งแต่รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช จนถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งในปัจจุบัน พระบรมมหาราชวังเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ที่ได้รับความนิยมมากเป็นอันดับที่ 16 ของโลกเลยทีเดียว น่าภูมิใจแทนคนไทยจริงๆ ค่ะ

 

อันดับที่ 9 ป้อมเมห์รานการห์ :  จ๊อดปูร์ ประเทศอินเดีย

ป้อมเมห์รานการห์ โชธปุระ ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเก่าของจ๊อดปูร์ หรือเมืองที่คนไทยมักจะเรียกกันติดปากว่า “โยธะปุระ” เป็น 1 ใน 4 พระราชวังที่ใหญ่ที่สุดในอินเดีย ป้อมปราการนี้ถูกสร้างบนเนินเขาสูง 122 เมตร ใน ค.ศ.1459 และยาวเหยียดข้ามเขาถึง 125 ลูกทีเดียวค่ะ ภายในตกแต่งประดับประดาด้วยแก้วหลากสี แบ่งเป็นท้องพระโรงขนาดใหญ่อีกหลายแห่ง สมกับเป็นเอกลักษณ์ของเอเชียจริงๆ 

 

อันดับที่ 8 วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร (วัดโพธิ์) : กรุงเทพฯ ประเทศไทย

เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่อยู่ในประเทศไทย วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร หรือที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดีในชื่อ “วัดโพธิ์ ท่าเตียน” เป็นวัดสำคัญแห่งหนึ่งของประเทศไทย และเปรียบเสมือนเป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของประเทศอีกด้วยค่ะ เนื่องจากเป็นที่รวมจารึกสรรพวิชาหลายแขนง ซึ่งทางยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกความทรงจำโลกของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกในปี 2551 

 

อันดับที่ 7 พระราชวังแอมเบอร์ ฟอร์ท : ชัยปุระ อินเดีย

ราชวังแอมเบอร์ ฟอร์ท เดิมเคยเป็นราชธานีของเมืองชัยปุระค่ะ สร้างขึ้นโดยมหาราชาแมนสิงห์ ใน ปี ค.ศ. 1592 ป้อมแห่งนี้เป็นต้นแบบที่ดีของสถาปัตยกรรมแบบราชปุต (Rajput) นอกจากนี้ในสมัยก่อนด้านล่างของป้อมยังเป็นทะเลสาบที่มีความสวยงามมากอีกด้วย ภายในพระราชวังแอมเบอร์ ฟอร์ท ประกอบด้วยพระตำหนักต่างๆ ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมค่ะ

 

อันดับที่ 6 วิหารทองคำ-ฮิรมันดิร ซาฮิบ : อัมริตซาร์ อินเดีย

พระวิหารฮัรมัรดิร ซาฮิบ หรือวิหารทองคำนั้น เป็นศาสนสถานที่ศักดิ์สิทธิ์มากที่สุดแห่งหนึ่งของศาสนาซิกข์ค่ะตั้งอยู่ในเมืองอัมริตซาร์ ประเทศอินเดีย ตั้งอยู่ท่ามกลางน้ำที่ล้อมรอบอยู่ทั้งสี่ทิศ พระวิหารนี้เป็นสถานที่สำคัญที่ชาวซิกข์ทุกคนปรารถนาที่จะมาเยี่ยมคารวะและได้ลงไปอาบน้ำในสระอันศักดิ์สิทธิ์ที่จะช่วยชำระล้างจิตวิญญาณที่ขุ่นมัวของเราทุกคนให้สะอาดตามความเชื่อของศาสนาซิกข์นั่นเองค่ะ

 

อันดับที่ 5 พระมหาธาตุเจดีย์ชเวดากอง : ย่างกุ้ง พม่า

หลังจากที่วนเวียนกันอยู่ในไทยบ้าง อินเดียบ้าง ตอนนี้ข้ามมาที่เมียร์มาร์กันบ้างแล้วค่ะ พระมหาธาตุเจดีย์ชเวดากอง ตั้งอยู่บริเวณเนินเขาเชียงกุตระ เมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่า เชื่อกันว่าเป็นมหาเจดีย์ที่บรรจุพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้าจำนวน 8 เส้น และหนังสือ Guinness Book of Records ได้จัดให้พระเจดีย์ชเวดากองเป็นเจดีย์ที่สูงที่สุดและเก่าแก่ที่สุดในโลก บนยอดสุดของพระเจดีย์ มีเพชรอยู่ถึง 5,448 เม็ด โดยเฉพาะชื้นข้างบนสุดมีเพชรเม็ดใหญ่อยู่ 76 กะรัต และทับทิม 2,317 เม็ด ผู้ที่เข้ามานมัสการหรือเยี่ยมชมจะต้องถอดรองเท้าทุกครั้งเมื่อมาถึงทางเข้า ให้เดินตามเข็มนาฬิกาค่ะ เป็นเอกลักษณ์ และอลังการที่สุดในเอเชียนี้ก็ว่าได้เลยทีเดียว

 

อันดับที่ 4 กำแพงเมืองจีน : ปักกิ่ง จีน

ข้ามมาถึงเมืองจีนแผ่นดินใหญ่กันบ้าง ที่นี่มีหลากหลายวัฒนธรรมที่น่าสนใจทีเดียวค่ะ แต่เอกลักษณ์ที่สำคัญคงจะหนีไม่พ้น กำแพงเมืองจีน กำแพงส่วนใหญ่ที่ปรากฏในปัจจุบันสร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์ฉิน เพื่อป้องกันการรุกรานจากพวกฮันส์ หรือชนเผ่าซยงห และพวกเติร์กจากทางเหนือ นักโบราณคดี ได้ตรวจวัดความยาวของกำแพงเมืองจีนอย่างเป็นทางการนานร่วม 5 ปี ตั้งแต่ 2008-2012 และพบว่ามีความยาวถึง 21,196.18 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ 15 มณฑลทั่วประเทศ และนับเป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลางด้วย

 

อันดับที่ 3 ปราสาทบายน : เสียมเรียบ กัมพูชา

มาถึงอันดับที่ 3 กันแล้ว อารยธรรมขอมโบราณเป็นสิ่งที่แรกที่นึกถึงเอเชียเลยก็ว่าได้ใช่ไหมล่ะคะ และสำหรับอันดับที่ 3 นี้คงต้องยกให้ “ปราสาทบายน”  ของกัมพูชานั่นเอง ซึ่งเป็นปราสาทหินของอาณาจักรเขมร อยู่ในบริเวณของใจกลางนครธม สร้างขึ้นเป็นวัดประจำสมัยของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ค่ะ นับเป็นศาสนสถานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก มีความซับซ้อนทั้งในแง่โครงสร้างและความหมายอีกด้วย ปราสาทบายนนี้ถูกสร้างโดยการนำหินมาวางซ้อนๆ กันขึ้นเป็นรูปร่าง แม้จะเป็นปราสาทไม่ใหญ่โตเท่านครวัด แต่มีความแปลก และดูลี้ลับ เพราะทั้งปราสาทมีแต่ใบหน้าคน หากลองขึ้นไปยืนอยู่ภายในปราสาทนี้ไม่ว่ามุมไหนก็ไม่สามารถรอดหลุดพ้นจากสายตาเหล่านี้ไปได้

 

อันดับที่ 2 ทัชมาฮาล : อัครา อินเดีย

ทัชมาฮาล ตั้งอยู่ในเมืองอัครา ริมฝั่งแม่น้ำยมุนา ประเทศอินเดีย เป็นสุสานหินอ่อนที่ผู้คนเชื่อว่าเป็นสถาปัตยกรรมแห่งความรักที่สวยที่สุดในโลก สร้างขึ้นโดยสมเด็จพระจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิโมกุลให้กับพระมเหสีของพระองค์ นับว่าเป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง ภายในอาคารทัชมาฮาล ตรงกลางมีหีบพระศพจำลองของพระนางมุมตาสกับหีบพระศพของพระเจ้าชาห์ชาฮันวางคู่กัน (หีบพระศพจริงอยู่ในห้องลึกลงไปด้านล่างประมาณ 10 เมตร) 

ผนังห้องและพื้นห้องมีการตกแต่งโดยใช้หินสีชนิดต่างๆ ตัดและเจียระไนเป็นชิ้นเล็กๆ ทำเป็นรูปกลีบดอกไม้ ก้านดอก ใบไม้ แล้วฝังลงในเนื้อหินอ่อนทีละชิ้นๆ ไล่โทนสีของหินจากสีอ่อนไปยังสีแก่ ลวดลายประดับนั้นดูอ่อนช้อยราวกับภาพที่จิตรกรวาดเป็นลายเส้นด้วยมือทีเดียว หินเหล่านี้เมื่อถูกแสงไฟกระทบจะเกิดการสะท้อนแสงและสีออกมาสวยงาม นี่แหละสมกับเป็นมนต์เสน่ห์แห่งโลกตะวันออกของแท้ค่ะ

 

อันดับที่ 1 นครวัด : เสียมเรียบ กัมพูชา

นครวัด เป็นศาสนสถานตั้งอยู่ในเมืองพระนคร จังหวัดเสียมเรียบ ประเทศกัมพูชา สร้างในรัชสมัยของพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 สันนิษฐานว่าใช้เป็นที่เก็บพระศพหลังจากสิ้นพระชนม์ เพราะเป็นปราสาทหลังเดียวในอาณาจักรขอม ที่หันหน้าสู่ทิศตะวันตก พื้นที่โดยรวม 850,000 ตารางเมตร การก่อสร้าง ใช้หิน มากกว่า 600,000 ลูกบาศก์เมตร ช้างกว่า 40,000เชือก คนงานนับแสนคน ช่างประติมากรแกะสลัก กว่า 5,000 คน ทีเดียวค่ะ เรียกได้ว่ายิ่งใหญ่มาก

นครวัดเป็นสิ่งก่อสร้างทางศาสนาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของโลก ตัวเทวสถานถือเป็นที่สุดของสถาปัตยกรรมเขมรสมัยคลาสสิกรุ่งเรือง และได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์ของประเทศกัมพูชา โดยปรากฏในธงชาติ และเป็นจุดท่องเที่ยวหลักของประเทศ ตลอดจนได้รับลงทะเบียนเป็นมรดกโลกภายใต้ชื่อ เมืองพระนคร นั่นเอง

 

 

Credit: http://board.postjung.com/793518.html