ภาพประกอบจาก SEYLLOU / AFP
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
akinbami.blogspot.com
สำนักข่าวรอยเตอร์ส
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก
เชื้ออีโบลา คร่าชีวิตผู้ป่วยแล้ว 729 ราย เซียร์ราลีโอนประกาศภาวะฉุกเฉินเพื่อรับมือกับการระบาดของเชื้อไวรัสอีโบลาแล้ว มีรายงานเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2557 ว่า ประธานาธิบดีเอิร์นเนสต์ ไบ โครามา ได้ประกาศภาวะฉุกเฉินภายในเซียร์ราลีโอน เพื่อควบคุมการระบาดของเชื้อไวรัสอีโบลา ที่ตอนนี้คร่าชีวิตผู้คนในแอฟริกาตะวันตกไปแล้ว 729 ราย และทำให้มีผู้ป่วยอีก 1,300 คน ในเบื้องต้นคาดว่าภาวะฉุกเฉินนี้จะดำเนินไปอีก 60-90 วัน โดยส่วนหนึ่งของปฏิบัติการภายใต้ภาวะฉุกเฉิน กองกำลังทหารจะถูกส่งเข้าไปให้ความช่วยเหลือในการดูแลตามศูนย์กักกันผู้ป่วยและกรมอนามัยทุกแห่ง หลังจากที่เจ้าหน้าที่สาธารณะสุขที่ทำงานดูแลผู้ป่วยหลายคน เกิดติดเชื้อและล้มป่วยเสียเอง
ประธานาธิบดีเอิร์นเนสต์ ไบ โครามา
ทั้งนี้ การระบาดของโรคอีโบลาเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกที่ทางตะวันออกของประเทศกินี เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แต่ในปัจจุบันเซียร์ราลีโอนกลายเป็นประเทศที่มียอดผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสอีโบลาสูงที่สุด อย่างไรก็ดี นายโครามา มีกำหนดการประชุมหารือถึงมาตรการที่จะใช้ในการควบคุมโรคร่วมกัน กับผู้นำจากไลบีเรียและกินี ในคืนวันที่ 1 สิงหาคมนี้ ด้านประเทศไนจีเรีย ซึ่งเพิ่งปรากฎว่ามีผู้เสียชีวิตด้วยโรคอีโบลาเป็นรายแรก คือนายแพทริก ซอว์เยอร์ ที่เดินทางโดยเครื่องบินมาจากไลบีเรีย แล้วมาเสียชีวิตที่โรงพยาบาลในเมืองลากอส ก็ได้มีมาตรการในการป้องกันการระบาดของเชื้อไวรัสอีโบลาแล้ว โดยในตอนนี้ผู้โดยสารทุกคนที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงต่อการระบาด จะต้องถูกวัดอุณหภูมิร่างกายก่อนได้รับอนุญาตให้เข้าประเทศ แม้ว่าทางองค์การอนามัยโลก หรือ WHO จะยังไม่ได้ประกาศห้ามการเดินทางหรือปิดพรมแดนประเทศใด ๆ อันเนื่องมาจากการระบาดของไวรัสมรณะ พร้อมชี้แจงว่าถึงจะโดยสารร่วมเครื่องบินลำเดียวกันแต่โอกาสติดเชื้อก็มีน้อยมาก อย่างไรก็ดี ยังไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มเติมในกรุงลากอส