ประเทศไทยเรานั้นจัดเป็นเมืองท่องเที่ยวต้นๆของโลก จึงไม่แปลกตาหากตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆเราจะพบเจอชาวต่างชาติอย่างอุนหนาฝาคั่ง แม้แต่การโดยสารในเมืองเช่นรถไฟฟ้า BTS หรือ รถไฟใต้ดิน MRT ก็ยังพบฝรั่งตาน้ำข้าวยืนยุในขบวนด้วยทุกครั้งที่เราไป แต่แน่นอนแม้แต่เราเองหากเราได้ไปบ้านแปลกเมืองนอนก็คงจะประหลาดใจกับวัฒนธรรมในเมืองนั้นๆเช่นกัน มาลองดูกันว่าฝรั่งที่เขามาเที่ยวบ้านเรานั้นมีอะไรบ้างที่เห็นแล้วต้อง งง !!

ต้องบอกก่อนว่าอาหารไทยนั้นเป็นที่เลื่องลือไปทั่วโลก แม้แต่ต่างประเทศก็ยังมีอาหารไทยไปขาย เช่นประเทศญี่ปุ่น ผัดไทย และผัดกระเพรา มีราคาสูงมากชนิดต้องวางแผนก่อนกินเลยทีเดียว ด้วยเหตุนี้เองเมื่อชาวต่างชาติมีโอกาสได้มาเที่ยวที่ประเทศไทยจึงต้องลองชิมรสชาติดังเดิมเสียหน่อย แต่เดี๋ยวก่อน!!ก่อนที่สายตาจะมองเมนูนั้น ก็พลันเห็นกระดาษทิชชู่บนโต๊ะอาหาร ละตกตะลึงอึ้งทึ่งว่าเหตุใดกระดาษสำหรับใช้เช็ดก้น แต่คนไทยเอามาใช้เช็ดปากกันนี่? ดังนั้นบางคนจะไม่ใช้ทิชชู่นี้เพราะคิดว่าวางผิดที่หรือเปล่า แต่สำหรับบางคนที่มองโลกในแง่ดีก็คิดว่าก่อนเข้าห้องน้ำจะได้หยิบไปใช้สะดวก คนไทยช่างเทคแคร์ดีเสียจริง 
ขอบคุณรูปจาก www.crystalchemiclean.com

นิยามคำว่าอาหารนกของพวกเขาเหล่านั้นคือ เมล็ดพืชต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเมล็ดทานตะวัน เมล็ดแตงโม เมล็ดแฟล็กซ์ เมล็ดฟักทอง หรือเมล็ดพืชอื่นๆ ทำไมในร้านสะดวกซื้อ หรือห้างใหญ่ๆถึงมีเมล็ดพืชปรุงสำเร็จเหล่านี้วางขายอยู่ในหมวดอาหาร(ที่ไม่ใช่อาหารสัตว์)เกิดอาการตกตะลึงกันไปตามๆกันเลยจ้า 

ขอบคุณรูปจาก www.Greenseeds.com

เมื่อมาถึงสนามบินหากเป็นชาวต่างชาติระดับนักธุรกิจก็จะรถของทางโรงแรมมารับ แต่หากมาเที่ยวเป็นครอบครัวหรือคนรักที่ตั้งใจจะมาเที่ยวแบ๊คแพ๊คกันเอง ก็คงต้องใช้บริการรถแท๊กซี่ในการไปถึงที่หมาย แต่เมื่อเห็นรถแท๊กซี่ของบ้านเรานั้นก็เกิดอาการตกตะลึง!! ว่าเป็นรถใหม่ๆราคาหลายล้าน บางคันก็ยังเป็นป้ายแดงอยู่เลย มีชาวต่างชาติบางชาติ โดยเฉพาะชาวเอเชียอย่างเราๆ เช่นชาวมาเลย์, จีน, เวียดนาม ตกใจมากชนิดที่นั่งTaxiแล้ว ไม่อยากลงจากรถเลยทีเดียว

ขอบคุณรูปจาก www.taxirentalcar.com

เคสนี้จะพบได้ในกรณีที่ไปเที่ยวสถานทีท่องเที่ยวที่เป็นประเภทตลาดน้ำ เมื่อชาวต่างชาติได้พบเห็นก็ความฉงนว่า ทำไมบางร้านขายบนบกต้องเอาเรือมาจอดแล้วทำไมคนขายต้องไปนั่งขายในเรือด้วยทั้งๆ ที่อยู่บนบกแท้ๆ แม้จะเป็นสิ่งแปลกตาที่ชาวต่างชาติไม่เข้าใจขนบประเภณีบ้านเรา แต่ก็เป็นจุดขายที่เป็นเอกลักษณ์ไม่ซ้ำชาติไหนในโลก

ขอบคุณรูปจาก amazingtourthailand.com

เคสนี้เป็นเคสที่ได้รับการบอกเล่าจากโครงการนักเรียนแลกเปลี่ยนว่า เพื่อนชาวต่างชาติถามเทอมักจะประหลาดใจมากว่าทำไมคนไทยชอบชวนไปกินข้าว ต่างจากต่างชาติที่มักจะชวนไปนั่งดื่มกาแฟ กินขนม หรือดื่มชายามบ่าย แต่โดยส่วนใหญ่ชาวต่างชาติก็ชื่นชอบกับวิธีสร้างความสัมพันธ์เหล่านี้เพราะพบว่าคนไทยใส่ใจกับพวกเขามาก มักจะตักอาหารให้ และคอยควบคุมรสชาติอาหารไม่ให้เผ็ดจนเชากินไม่ได้ ถือว่าเคสนี้น่าปลื้มใจมากๆนะคะ

ขอบคุณรูปจาก www.med.cmu.ac.th

เมื่อไหร่ที่ชาวต่างชาติไปเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติของไทยมักจะตกใจกับคอสตูมของคนในชาตินี้!! เพราะชุดช่างไม่เอื้ออำนวยกับการเที่ยวเลย เช่น การใส่กางเกงยีนขายาวไปทะเล, การใส่รองเท้าส้นตึกไปเดินชายหาด รวมไปถึงการใส่ชุดเดรสยาวไปเดินชายหาด กล่าวคือชุดกับสถานที่ดูไม่สมบุกสมบันไม่เข้ากันนั่นเอง ซึ่งต่างจากพวกเขาที่จะใส่เสื้อผ้าที่ทะมัดทะแมงและแห้งง่าย

ขอบคุณรูปภาพจาก http://www.drdaybytukta.com/

ชาวต่างชาติมักจะไม่เข้าใจกับคำนี้ แต่ก่อนอื่นคำนี้มีที่มา..โดยส่วนใหญ่ชาติต่างๆจะกินเป็นเวลาทั้งของว่างและอาหารจานหลัก เพราะอาหารการกินบ้านเขาไม่อุดมสมบูรณ์เท่าบ้านเราและจำกัดเวลาขาย แต่เมื่อมาบ้านเรานั้นพบว่าบอกว่าคนไทยกินตลอดเวลาเลยไม่เป็นเวลา เมื่อถามว่ากินทำไม เราก็ตอบว่าบอกว่ากินเล่นๆ พวกเขาจึงตกใจมาก!!เพราะในหลายๆประเทศไม่มีกินเล่นๆ มีแต่กินจริงจังเป็นเวลา

ขอบคุณรูปจาก www.sheknows.ca

เป็นที่สงสัยว่า ทำไมคนไทยถึงต้องกินผลไม้จิ้มเกลือ? เคสนี้เกิดจากผู้บริหารตาน้ำข้าวท่านหนึ่งมาเจรจาคุยธุรกิจกันที่ร้านอาหารในโรงแรม หลังจากทานอาหารจบแล้วก็มีตบท้ายด้วยเซ็ทผลไม้ของไทย แต่ต้องอุทานว่า โอ้มายก๊อด! ทำไมผลไม้ถึงมีเกลือด้วย ต่อมาในวันหยุดพักผ่อนเขามีโอกาสได้แบ๊กแพคไปเที่ยวตามที่ต่างๆของไทยแล้วเกิดติดใจผลไม้ไทย จึงลองสั่งซื้อที่ร้านผลไม้ข้างทานก็พบว่ามีเกลือมาให้ด้วย! นอกจากนี้ ทั้งชนชาติเอเชียชาติอื่นๆก็งงเมือนกันว่าทำไมคนไทยถึงต้องนำผลไม้มากินกับเกลือกันนะ 

ขอบคุณรูปจาก www.ladyinter.com

อาหารประเภทเส้นลวกคู่กับเครื่องเคียงพร้อมน้ำแกงนั้นนับได้ว่ามีเพียงแค่ในชนชาติเอเชียเท่านั้น และก๋วยเตี๋ยว จากประเทศไทยก็เป็นขู่แข่งที่มาแรงแซงหน้า ราเมน ของญี่ปุ่นเช่นกัน ดังนั้นเมื่อชาวต่างชาติมีโอกาสมาเที่ยวต้องลองชิมสักครั้งว่ามันเป็นอย่างไรหนอ แต่เมื่อมองไปโต๊ะข้างๆนั้นก็พบว่า คนไทยใส่น้ำตาลด้วย? เหตุนี้เพราะในการปรุงอาหารของหลายชาตินั้นไมใส่น้ำตาล แม้แต่ราเมงระดับโลกก็มีแต่รสชาติเค็มของโชยุ และซีอิ๊วขาวให้ปรุงนั่นเอง

ขอบคุณรูปภาพจาก www.diaryclub.com

แม้จะฟังภาษาไทยไม่ออก แต่ก็พอเดาได้จากการดูทีวีไทยที่กำลังออนแอร์ละครบ้านเราอยู่นั้น ก็ต้องตกตะลึงเมื่อเห็นหนึ่งในนักแสดงไทย ทำไมตัวละครหญิงต้องทำเสียงแปร๋นๆ พร้อมกับทำตาเถลือกถลนไปด้วย ช่างต่างกับบ้านเมืองเขาจริงๆ เรียกได้ว่าเป็นซิกเนเจอร์ที่หาไม่ได้ที่ไหนในโลกเลยนะ แม้แต่Hollywoodก็ยังไม่มี

ขอบคุณรูปจาก movie.mthai.com