เด็ก ม.3 ใจโฉด รุมฉุดเด็ก ม.1 ไปข่มขืน คาบ้านพักครู

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ข่าวสด
 
            กลุ่มเด็กนักเรียน ม.3 รุมฉุดนักเรียนชั้น ม.1 ไปขยี้กามในบ้านพักครู ด้านทหารลงพื้นที่ เร่งดำเนินคดีกับผู้ต้องหา
 
            เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2557 มีรายงานว่า พ.ต.ท.วัฒนา เกิดศิริ พงส.ผนพ.สภ.หันคา จ.ชัยนาท รับแจ้งเหตุจากคุณแม่และป้าของ ด.ญ.เอ (นามสมมุติ) นักเรียนชั้น ม.1 อายุ 13 ปี นักเรียนของโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.ชัยนาท ที่ถูกรุ่นพี่ ม.3 อายุ 15 ปี 1 คน, อายุ 14 ปี 3 คน รวมทั้งสิ้น 4 คน รุมข่มขืน บริเวณบ้านพักอาจารย์สอนดนตรี ในขณะที่ ด.ญ.เอ กำลังเดินไปเข้าห้องน้ำในช่วงที่มีการเปลี่ยนคาบเรียน เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งผู้ปกครองของ ด.ญ.เอ ได้เข้ามาแจ้งความเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม โดยมีทหารในพื้นที่พาเข้ามาแจ้งความที่โรงพัก
 
            โดย นายจำนนค์ ศิริโมก อายุ 42 ปี อาจารย์หัวหน้ากลุ่มบริหารทั่วไปและงานปกครอง กล่าวว่า ภายหลังจากที่ทราบเรื่องเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2557 ก็ได้เรียกนักเรียนมาพบ ซึ่งนักเรียนผู้ก่อเหตุกลุ่มดังกล่าวเป็นนักเรียนของชมรมดุริยางค์ มักจะไปนั่งเล่นบริเวณหน้าบ้านพักอาจารย์ผู้สอน โดยที่ระหว่างเกิดเหตุนั้น อาจารย์ได้ไปรับประทานอาหารกลางวันและไม่ได้ปิดห้องเอาไว้ นักเรียนผู้ก่อเหตุจึงโดดเรียน ในช่วงเวลาที่เกิดเหตุนั้น ผู้เสียหายเองกำลังเดินไปเข้าห้องน้ำในอาคารโรงเรียนข้างสนามบาสเกตบอล จากนั้น นักเรียนที่ก่อเหตุจึงฉุดกระชากเด็กผู้เสียหายเข้าไปข่มขืนในบ้านพักอาจารย์  โดยมีคนดูต้นทาง 1 คน และลงมือก่อเหตุ 3 คน ซึ่งเด็กผู้เสียหายเองก็บอกว่าถูกกดคอเอาไว้ด้วย
 
            ทั้งนี้ กลุ่มนักเรียนที่ก่อเหตุนั้น เคยมีประวัติการทะเลาะวิวาทและมักโดดเรียนเป็นประจำ ส่วนนักเรียนผู้เสียหายเอง ก็มีประวัติขาดเรียนอยู่บ่อยครั้ง แต่นักเรียนคนนี้มีความสามารถทางด้านดนตรี เลยให้เรียนต่อหลังจากที่เคยหยุดพักการเรียนไปแล้วก่อนหน้านี้  ซึ่งสาเหตุที่นักเรียนผู้เสียหายขาดเรียนบ่อย เนื่องจากต้องรับจ้างเล่นดนตรีไทยเพื่อหารายได้เสริม
 
            ภายหลังจากที่เกิดเหตุ ป้าของ ด.ญ.เอ กล่าวว่า ตอนแรกที่เกิดเหตุหลานสาวยังไม่กล้าบอกเรื่องนี้ เพราะนักเรียนชายขู่ว่าจะทำร้าย ภายหลังจากที่ทราบเรื่องจึงโทรหาอาจารย์ประจำชั้น และจากการสอบถามหลานสาวก็พบว่า เด็กนักเรียนชายได้เข้ามาล็อกคอและลากตัวเข้าไปในบ้านพักอาจารย์ ใช้มือปิดปากและชกเข้าท้อง เพื่อน ๆ ของเด็กหญิงเองก็ไม่กล้าช่วย
 
            จากนั้นกลุ่มเด็กชายจึงลงมือข่มขืน ซึ่งทางอาจารย์ได้ขอให้ผู้ปกครองเข้ามาไกล่เกลี่ย โดยในตอนแรกผู้ปกครองของนักเรียนชายยินดีจ่ายเงินชดเชยคนละ 5,000 บาท พอแจ้งความ ผู้ปกครองก็ขอให้ถอนแจ้งความและจะให้เงินชดเชยเพิ่มเป็นคนละ 10,000 บาท ซึ่งตนไม่ยอมขอให้เรื่องนี้ตัดสินกันไปตามกฎหมาย ขอให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด และอยากจะขอความยุติธรรมให้กับเด็ก พร้อมขอร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาเยียวยาผู้เสียหาย
 
            อีกทั้งฝ่ายของกลุ่มเด็กนักเรียนชายนั้น เคยก่อเหตุเอาระเบิดปิงปองมาขว้างปาในโรงเรียน และคบหากับรุ่นพี่เกเรที่ก่อเหตุทะเลาะวิวาทจนถูกไล่ออก ซึ่งตนรู้สึกดีใจที่ ผอ.โรงเรียนเข้ามาพูดคุย และทหารก็เข้ามาควบคุมคดีนี้ด้วยตนเอง พร้อมทั้งสั่งการให้มีการออกหมายจับนักเรียนผู้ก่อเหตุ ทำให้คดีนี้ถึงตำรวจและสามารถดำเนินการกับผู้กระทำความผิดได้
 
            นอกจากนี้ ภายหลังจากที่เกิดเหตุ ด.ญ.เอ กลับถูกเพื่อนนักเรียนชายมาหยอกล้อเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยบอกว่า มี 500 บาทไปกับเราหรือเปล่า ถือเป็นการเหยียดหยามทำให้รู้สึกอับอาย ทำให้เด็กหญิงผู้เสียหายถูกคนทั้งโรงเรียนมองเป็นตาเดียว ไม่กล้าสู้หน้าสังคม
 
            ขณะที่ นายสัมฤทธิ์ รงค์ทอง ผอ.โรงเรียนฯ กล่าวว่า ทางโรงเรียนไม่คิดว่าจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น เนื่องจากทางโรงเรียนได้มีการอบรมสั่งสอนเกี่ยวกับเรื่องเพศอยู่เสมอ หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ขึ้น ก็มีการสั่งให้อาจารย์ติดต่อนักเรียนผู้เสียหายและนักเรียนผู้ก่อเหตุมาพบ เพื่อสอบถามเรื่องราวดังกล่าว พร้อมทั้งมีการทำหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษร จากนั้น จึงมีการเรียกผู้ปกครองของนักเรียนที่ก่อเหตุมาพบ ซึ่งผู้ปกครองติดภารกิจไม่สามารถมาได้ ส่วนการลงโทษนั้น จะรอการดำเนินคดีของตำรวจให้สิ้นสุดก่อน แล้วจะมีการลงโทษนักเรียนชายที่ก่อเหตุ ซึ่งที่ผ่านมา ก็เคยมีนักเรียนที่เกเรและถูกคาดโทษเอาไว้ เพื่อไม่ให้นักเรียนไปก่อเหตุซ้ำอีก หลังจากนั้นก็มีการประชุมพูดคุยกับอาจารย์ เพราะเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นระหว่างช่วงที่มีการเรียนการสอน
 
            หลังจากนั้น พล.ต.ต.ภวัต พรหมมะกฤต ผบก.ภ.จว.ชัยนาท จึงสั่งตัวให้จับกุมตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี ซึ่งตำรวจได้ควบคุมตัวนักเรียนผู้ก่อเหตุทั้ง 4 คน พร้อมแจ้งข้อหาข่มขืนกระทำชำเรา เด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี และนำตัวไปฝากขังที่ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดชัยนาท ซึ่งทั้ง 4 คนได้ประกันตัวออกมาตามกฎหมายเยาวชน จากนั้นจะมีการเชิญผู้ปกครองเด็กนักเรียนชาย มาสอบปากคำเพิ่มเติมในวันที่ 28 กรกฎาคม และจะมีการเชิญผู้เสียหาย พร้อมทั้งตำรวจ อัยการ นักจิตวิทยา นักสงคมสงเคราะห์ มานัดเพื่อสอบปากคำในวันที่ 29 กรกฎาคม
 
 
    
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
Credit: http://hilight.kapook.com/view/105717
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...