แมงมุมพิษร้ายแรงที่สุดในโลก

แมงมุมพิษ มีหลากหลายชนิด จงอยู่ให้ห่าง มาสำรวจแมงมุมพิษร้ายแรงที่สุดในโลกพร้อมมีวิธีปฐมพยาบาล หากถูกแมงมุมพิษกัด  

           จากกรณีข่าวหนุ่มเมืองแพร่ วัย 36 ปี ถูกแมงมุมพิษกัดที่ขาจนเป็นแผลเหวอะหวะ ก่อนที่จะเริ่มมีอาการเท้าดำ บวม และเนื้อตาย ถูกหามเข้าห้องไอซียู จนต้องถูกตัดขาข้างที่ถูกกัดทิ้ง สร้างความตื่นตระหนกให้ผู้ที่ได้รับรู้ข่าวนี้เป็นอย่างมาก เพราะใครจะเชื่อว่าแมงมุมพิษตัวนิดเดียว มีพิษสงร้ายแรงถึงเพียงนี้ ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันตัวเองให้อยู่ห่างจากแมงมุมพิษทั้งหลาย ลองมาทำความรู้จักกับแมงมุมพิษ รวมถึงแมงมุมที่มีพิษร้ายแรงที่สุดในโลก ไปพร้อม ๆ กันเลย...

ความร้ายแรงของแมงมุมพิษ 

           แมงมุมที่มีพิษนั้น มีเพียงไม่กี่ชนิดเท่านั้นที่มีพิษที่ร้ายแรง อย่างแมงมุมแม่หม้าย ส่วนแมงมุมที่มีพิษพันธุ์อื่น ๆ ก็อาจจะทำให้ระแคะระคายผิวหนังเท่านั้น ส่วนแมงมุมที่มีพิษร้ายแรงนี้ ความรุนแรงก็แทบไม่ต่างอะไรจากพิษของงู คือ สามารถทำลายระบบประสาทต่าง ๆ ภายในร่างกายได้ ทำให้เป็นอัมพาตได้ และความรุนแรงก็อาจจะถึงแก่ชีวิตได้เช่นกัน

 สามารถพบแมงมุมพิษได้ที่ไหนบ้าง

           แมงมุมพิษเหล่านี้ มักอยู่ในบ้านคน และชอบอยู่ในพื้นที่ต่ำ ๆ รก ๆ เช่น ลังเก็บของ บนเตียง เป็นต้น ต่างจากแมงมุมบ้านที่ไม่มีพิษ ชอบชักใยอยู่บนเพดานบ้าน ดังนั้น ถ้าหากไม่ต้องการพบกับแมงมุมพิษนี้ ก็ควรทำความสะอาดบ้านให้เป็นระเบียบเรียบร้อย

 ลักษณะของแมงมุมพิษ

           ลักษณะของแมงมุมพิษนั้น ต้องดูตามสายพันธุ์ว่าเป็นสายพันธุ์อะไร ถึงจะจำแนกได้ว่า แมงมุมนั้นมีพิษหรือไม่ ซึ่งแมงมุมพิษที่รุนแรงนั้น มีอยู่ 3 สายพันธุ์หลัก ๆ ได้แก่ 

            แมงมุมแม่หม้ายดำ (Black widow spider)

  

          มีลักษณะตัวเป็นมัน มีรูปคล้ายนาฬิกาทรายสีแดงหรือส้มอยู่ที่ส่วนท้องด้านล่าง หากใครถูกแมงมุมแม่หม้ายดำกัดแล้ว พิษของแมงมุมจะออกฤทธิ์ทำลายระบบประสาทส่วนกลาง ผิวหนังตาย หรือเลือดออกในอวัยวะภายใน ต่อมน้ำเหลืองมีอาการอักเสบ ร่างกายอ่อนแรง สั่น ปวดกล้ามเนื้อ โดยแมงมุมชนิดนี้ มักอยู่ในบ้านในที่มืด เสื้อผ้า หรือเฟอร์นิเจอร์ เป็นต้น 

 

           แมงมุมแม่หม้ายน้ำตาล (Brown widow spider)  

  

          แมงมุมชนิดนี้ มีลักษณะท้องกลมป่อง และโตกว่าหัวหลายเท่า ส่วนด้านล่างก็มีรูปคล้ายนาฬิกาทรายสีส้ม ด้านบนน้ำตาลสลับขาว อย่างไรก็ดี แมงมุมชนิดนี้ มีการผันแปรของสีค่อนข้างมาก ตามสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกันออกไป ส่วนใครที่ถูกแมงมุมชนิดนี้กัด จะมีผลต่อระบบไหลเวียนโลหิต เม็ดเลือดแตก เลือดไหลไม่หยุด รวมถึงมีแผลเหวอะหวะ ผื่นบวมแดง หายค่อนข้างช้า เนื่องจาก พิษได้ทำลายระบบเม็ดเลือด ระบบน้ำเหลืองไปหมดแล้ว 

 

           แมงมุมพิษทารันทูล่า (Tarantula)  

  

          เป็นแมงมุมที่มีขาและขนสีดำหรือน้ำตาล ขาค่อนข้างยาว ส่วนมากอาศัยอยู่ในพื้นดิน และขุดรูลึกประมาณ 30 เซนติเมตร มักพบได้ที่ภาคกลางกับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อย่างไรก็ตาม พิษของแมงมุมชนิดนี้ไม่รุนแรงต่อมนุษย์ 

           แมงมุมสีน้ำตาล (Brown recluse spider)  

         เป็นแมงมุมขนาดเล็ก ลำตัวสีน้ำตาลอ่อนหรือเหลืองเข้ม แต่ลักษณะที่เด่นที่สุดคือ ด้านหลังของแมงมุมจะมีลายคล้ายไวโอลิน มักอาศัยอยู่ในที่มืด ตู้เสื้อผ้า รองเท้า และเตียงนอน อย่างไรก็ตาม หาถูกแมงมุมสีน้ำตาลกัด พิษมักออกฤทธิ์ทางผิวหนังและระบบเลือด โดยเริ่มปวดและคันหลังถูกกัด 2-8ชั่วโมง มีตุ่มน้ำพอง และเริ่มปวดมากขึ้นเรื่อย ๆ สามารถทำให้ผิวหนังตายได้  

แมงมุมพิษที่ร้ายแรงที่สุดในโลก แมงมุมบราซิล (Brazillian Wandering Spider ) 

 

          แมงมุมพันธุ์นี้ มาจากบราซิล เรียกว่า แมงมุมบราซิล (Brazillian Wandering Spider ) หรือแมงมุมกล้วย ซึ่งความรุนแรงในพิษของมันนั้น นอกจากจะทำให้เจ็บปวดสุด ๆ แล้ว จะทำให้อวัยวะเพศของผู้ที่ถูกกัดควบคุมไม่ได้ ถ้าหากรอดชีวิต ก็จะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ ส่วนถิ่นที่อยู่ของแมงมุมชนิดนี้ มักแอบอยู่ในที่ที่อับ เช่น รองเท้า ตู้เสื้อผ้า หรือแม้กระทั่งในรถยนต์  

 

 

          ทั้งหมดนี้ก็เป็นเรื่องราวของแมงมุมพิษ ซึ่งเรียกได้ว่ามีหลากหลายชนิด หากถูกกัดก็ย่อมมีอาการต่างกัน ซึ่งทางที่ดีที่สุดก่อนที่จะปฐมพยาบาล ควรดูให้แน่ใจว่าเป็นแมงมุมชนิดอะไร พร้อมกับพยายามนำซากแมงมุมไปให้แพทย์ที่รักษาดูด้วย เพื่อทำให้สามารถรักษาได้อย่างถูกวิธียิ่งขึ้น 

 

 วิธีปฐมพยาบาลเมื่อถูกแมงมุมพิษกัด

          แม้ว่าแมงมุมพิษจะมีหลากหลายสายพันธุ์ แต่วิธีปฐมพยาบาลก็มีรูปแบบที่คล้ายกัน นั่นคือ สิ่งแรกที่ต้องทำคือรีบล้างแผลให้สะอาด แต่ห้ามล้างแผลด้วยน้ำร้อนและการนวดโดยเด็ดขาด ต่อมาคือการขันชะเนาะเหนือบาดแผล ไม่ให้พิษไหลไปตามกระแสเลือด ก่อนที่จะนำตัวส่งโรงพยาบาลต่อไป

          ส่วนวิธีการรักษาพยาบาลของแพทย์นั้น มักจะรักษาตามอาการ เนื่องจากไม่มีเซรุ่มหรือยาถอนพิษ ถ้าหากมีอาการร้ายแรงมากก็อาจจะต้องมีการให้เลือดหรือฟอกไตเลยทีเดียว

Credit: http://www.unigang.com/Article/18795
26 ก.ค. 57 เวลา 22:51 2,119 20
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...