"การ์โลส สลิม” มหาเศรษฐีชื่อดังชาวเม็กซิกัน เจ้าของตำแหน่งบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดของโลก สร้างความฮือฮาครั้งใหญ่ด้วยการออกโรงเรียกร้องในวันอังคาร (22) โดยระบุว่าควรมีการกำหนด “วันทำงาน” เพียงแค่ 3 วันต่อสัปดาห์ ชี้ชีวิตมนุษย์มีคุณค่ายิ่ง ไม่ควรทุ่มเทกับการหาเลี้ยงชีพจนปล่อยให้งาน “ขโมยชีวิต”
การ์โลส สลิม เอลู มหาเศรษฐีชาวเม็กซิกันวัย 74 ปี เจ้าของตำแหน่งบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลกในปัจจุบัน เปิดใจให้สัมภาษณ์ในวันอังคาร (22) กับผู้สื่อข่าวของสื่อสิ่งพิมพ์ชื่อดังอย่าง “ไฟแนนเชียล ไทม์ส” ระหว่างเข้าร่วมการสัมมนาทางธุรกิจที่ประเทศปารากวัย โดยระบุว่า ทุกประเทศในโลกควรมีการกำหนด “วันทำงาน” ไว้สูงสุดเพียงแค่ “3 วันต่อสัปดาห์” เท่านั้น (แต่ต้องทำงานวันละ 11 ชั่วโมง) ชี้ในทุกวันนี้มนุษย์เราเอาแต่คร่ำเคร่งกับการทำงานหาเลี้ยงชีพจนลืมสร้าง “ความสุข” ให้แก่ตนเองและคนรอบข้าง
เจ้าพ่อแห่งแวดวงสื่อสารโทรคมนาคมซึ่งมีมูลค่าทรัพย์สินในครอบครองมากกว่า 80,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2.55 ล้านล้านบาท) รายนี้ ระบุว่ามนุษย์เราควรได้ใช้วันหยุดมากถึง 4 วันต่อสัปดาห์ เพื่อเปิดโอกาสให้กับตนเองได้พักผ่อนและมีเวลาให้กับกิจกรรมอื่นๆ ที่ตนสนใจ รวมถึงมีเวลาให้กับครอบครัวเพิ่มขึ้น
“ผมคิดว่าการทำงานเพียงแค่ 3 วันและหยุดพักผ่อนอีก 4 วันต่อสัปดาห์ถือเป็นสิ่งที่มีความสำคัญยิ่ง เพราะเป็นการเปิดโอกาสให้คนเราได้เข้าถึงกิจกรรมหย่อนใจอีกมากมาย แทนการปล่อยให้งานขโมยชีวิต หรือพรากทุกอย่างไปจากชีวิตของเรา ยิ่งไปกว่านั้น ผมเชื่อว่าวิธีการนี้ยังจะเป็นผลดีต่อสุขภาพและความคิดสร้างสรรค์ของเรามากกว่าด้วย” สลิมกล่าว
สลิมยังเผยด้วยว่า ขณะนี้ตัวเขาเริ่มนำวิธีการดังกล่าวเข้ามาใช้กับพนักงานที่ทำงานกับบริษัท “เตลเม็กซ์” ของเขาแล้ว พร้อมเผยว่าการเปิดโอกาสให้พนักงานทำงานเพียง 3 วันต่อสัปดาห์ ไม่ได้ส่งผลกระทบใดๆ ในเชิงรายได้ต่อบริษัทแห่งนี้ ที่เป็นผู้ให้บริการโทรศัพท์รายใหญ่ที่ครองส่วนแบ่งการตลาดถึง 80 เปอร์เซ็นต์ในเม็กซิโก
“เจ้าของบริษัทและผู้นำองค์กรทั้งหลายไม่ควรคำนึงแต่ผลประกอบการ จนลืมใส่ใจสุขภาพและความสุขของพนักงาน ผมเชื่อว่า การลดทอนภาระด้านการงานของพนักงานลง น่าจะนำมาซึ่งผลกำไรที่คุ้มค่าต่อองค์กรของพวกคุณ แม้กำไรที่ว่านี้จะมิได้อยู่ในรูปของตัวเงินก็ตาม” มหาเศรษฐีเบอร์หนึ่งแห่งแดนจังโก้กล่าวเสริม