7. แท็กซี่
แท็กซี่ดีๆ ก็มีมาก แต่ร้ายๆ ก็มีปะปน ถ้าคุณเห็นวี่แววไม่น่าไว้ใจ ก็ให้ระวังไว้ให้ดี วิธีของคนขับที่ไม่ประสงค์ดี คือการพยายามปล่อยสารหรือยาบางอย่างที่เขาทาไว้ที่มือให้แอร์เป่ามาด้านหลัง แล้วจะทำให้ผู้โดยสารเกิดอาการมึนงงและสลบได้
วิธีป้องกัน ควรจดจำทะเบียนรถที่ขึ้น เลือกนั่งเบาะหลังคนขับชิดประตูด้านขวา เวลาลงก็ให้ลงที่ประตูซ้ายเพราะจะยากต่อการที่คนขับจะเข้ามาจะจู่โจมได้ อย่าเผลอหลับบนรถ ถ้าเห็นท่าไม่ดี ก็ควรรีบลงทันที
6. ลิฟต์
ในลิฟต์ที่อำนวยความสะดวกในการขึ้นลงอาคารสูง แม้เพียงชั่วพริบตาก็อย่าประมาท เพราะคนร้ายก็ทำอันตรายคุณได้ เหมือนกับที่ พรพรรณเคยเจอ เธออาศัยอยู่ชั้น 7 ของแมนชั่น เธอยืนรอลิฟต์อยู่ที่ชั้นล่าง เมื่อลิฟต์ประตูเปิดออก เห็นชายวัยรุ่นคนหนึ่งยืนอยู่ในลิฟต์ แต่ไม่ยอมเดินออกมา เธอจึงเดินเข้าไปเพื่อกลับขึ้นห้องพัก ขณะนั้นภายในลิฟต์มีเธอและคนร้ายแค่ 2 คนเท่านั้น ชายคนนั้นกดปุ่มไปที่ชั้น 6 และเมื่อลิฟต์ถึงชั้น 6 พอประตูลิฟต์เปิดออก คนร้ายก็ตรงเข้ามาล็อกคอเธอ พยายามฉุดลากให้ออกจากลิฟต์ แต่เธอต่อสู้ขัดขืนจนพ้นเงื้อมมือคนร้าย แล้ววิ่งหนีพร้อมทั้งตะโกนขอความช่วยเหลือ ทำให้คนร้ายวิ่งหนีไปได้
วิธีป้องกัน พยายามหาเพื่อนผู้หญิงหรือคนไว้ใจขึ้น-ลงเป็นเพื่อน อย่ายืนชิดประตูลิฟต์เพราะอาจถูกคนร้ายผลักหรือดึงได้ เมื่อประตูลิฟต์เปิด ควรรีบเข้าไปยืนในจุดที่ใกล้กับแผงสวิตซ์กดลิฟต์ที่สุด หากเกิดกรณีฉุกเฉินสามารถกดปุ่ม Emergency ขอความช่วยเหลือได้ง่าย
5. ปั๊มน้ำมัน
หลังจากที่สาวิตตรีเติมน้ำมันและรูดเครดิตการ์ดเสร็จแล้ว กำลัง จะออกจากปั๊ม ก็มีพนักงานเดินมาบอกว่า การ์ดที่รูดไปมีปัญหา ให้เธอรีบลงจากรถและเข้าไปคุยกับเจ้าหน้าที่ของปั๊มด้วย เธอจำใจลงจากรถ เมื่อเข้าไปในสำนักงานได้ก็โวยว่าจ่ายเงินและได้สลิปแล้ว เจ้าหน้าที่ปั๊มบอกว่า ตอนที่เติมน้ำมันรถเธออยู่ เห็นผู้ชายคนหนึ่งแอบเปิดประตูเข้าไปนั่งอยู่ข้างหลังเบาะด้านคนขับ ทางปั๊มเห็นว่าผิดสังเกต จึงโทรฯ แจ้งตำรวจให้และอยากให้เธอออกจากรถก่อน พอได้ยินแบบนั้นเธอรีบหันกลับไปดูรถตัวเองทันที จังหวะนั้นก็ทันเห็นผู้ชายคนหนึ่งกำลังเปิดประตูและลงจากรถตัวเองอยู่พอดี
รูปแบบของวิธีนี้ มิจฉาชีพจะแอบปีนเข้าไปตอนที่คนขับรถซึ่งเป็นผู้หญิงเอารถแวะเข้าเติมน้ำมันหรือแวะจอดซื้อของตามร้านข้างทาง และเมื่อขับรถออกมาแล้ว คนร้ายที่อยู่ในรถก็จะลงมือชิงทรัพย์หรือทำอะไรเธอต่อไปอีกก็ได้
วิธีป้องกัน ให้ล็อกรถทุกครั้งที่ต้องลงจากรถ แม้ว่าจะเป็นการแวะลงไปทำธุระหรือซื้อของเพียงแค่ไม่กี่นาทีก็ตาม ควรสำรวจหาบุคคลแปลกปลอมใต้ท้องรถและเบาะด้านหลังทุกครั้งก่อนกลับขึ้นรถ หมั่นสังเกตพฤติกรรมของคนรอบข้างอยู่เสมอเมื่อออกนอกบ้าน โดยเฉพาะเมื่อต้องไปไหนในเวลากลางคืน
4. ที่จอดรถ
ภัยนี้ส่วนใหญ่จะเกิดกับผู้หญิงที่ขับรถปิกอัพคนเดียว ที่ไม่มีหลังคาท้ายกระบะ ซึ่งคนร้ายจะสามารถโยนสิ่งของใส่ท้ายรถได้ โดยของนั้นต้องเป็นที่สังเกตได้ง่าย
รูปแบบของแก๊งนี้ เขาจะใส่ยาหรือสารที่ทำให้เรางง มึน ไว้ในซองแล้วทิ้งไว้หลังรถเรา (แต่ถ้าเป็นรถเก๋ง เขาก็มักจะทิ้งของบางอย่างไว้ข้างๆ รถแทน) เมื่อเราเห็นซองมักจะสงสัยและหยิบมาเปิดดู แล้วเขาก็จอดรถซุ่มดูอยู่ใกล้ๆ เมื่อเหยื่อหลงกลเปิดดูหรือจับโดนสาร คนร้ายก็จะชิงรถและของมีค่าไปได้
เช่นเดียวกับที่ อรุณี เจอ เธอจอดรถกระบะไว้ พอกลับมาที่รถ เห็นว่ามีรถเก๋งจอดต่อท้ายอยู่แต่ก็ไม่ได้สนใจ ก่อนที่อรุณีจะขึ้นรถก็เห็นว่ากระบะ หลังรถมีซองสีน้ำตาลคล้ายซองเอกสารแต่มีลักษณะบวมป่องทิ้งไว้ แต่เธอเฉลียวใจเสียก่อน จึงหยิบซองกระดาษโยนทิ้งพงหญ้าข้างถนน แล้วรีบขึ้นรถทันที แล้วเธอก็เห็นว่ารถคันหลังที่เหมือนจอดสนิทคันนั้น ก็ออกรถไปทันทีเช่นกัน ซึ่งเธอคิดว่า ต้องเป็นแก๊งชิงรถหรือผู้ไม่ประสงค์ดีแน่ๆ
3. ข้างถนน
ผู้หญิงเรามีความใจดีเป็นหลัก เมื่อเห็นใครเดือดร้อนก็อยากให้ความช่วยเหลือ มิจฉาชีพจึงใช้ความใจดีนี้ล่อลวงผู้หญิงมาให้ติดกับ ดังเรื่องราวจากฟอร์เวิร์ดเมล์เรื่องนี้
ขณะที่ ดวงดาว ขับรถมาคนเดียว เธอเห็นเด็กคนหนึ่งร้องไห้อยู่ข้างถนน จึงรู้สึกสงสาร เลยลงจากรถเดินเข้าไปถามว่าเกิดอะไรขึ้น เด็กคนนั้นบอกว่า “หนูหลงทาง ช่วยพาหนูกลับบ้านหน่อย” แล้วเด็กก็ยื่นกระดาษที่มีที่อยู่ให้แก่เธอ ดวงดาวก็พาเด็กไปส่งตามที่อยู่ในกระดาษ พอไปถึงบ้านของเด็กคนนั้น เธอกดกริ่งที่ประตู แล้วหลังจากนั้นเธอไม่รู้เรื่องอะไรเลย เพราะว่าที่กริ่งมีกระแสไฟแรงสูงอยู่ ตื่นมารู้สึกตัวอีกทีก็อีกวันหนึ่งพบว่าตัวเองนอนอยู่ในบ้านร้าง แถมไม่มีเสื้อผ้าอีกด้วย
วิธีป้องกัน ไม่รู้ว่าเรื่องนี้จริงหรือไม่จริง แต่สิ่งที่จริงคือทุกวันนี้มิจฉาชีพมีอยู่ทุกซอกมุมของสังคม และจะพยายามใช้กลลวงทุกวิถีทาง ถ้าใครเจอเหตุการณ์ในลักษณะนี้ ควรพาเด็กไปส่งตำรวจและให้ตำรวจเป็นคนพาไปส่งที่บ้านจะดีกว่า
2. ห้างสรรพสินค้า, ฟาสต์ฟู้ด
ไม่เว้นแม้แต่ในห้างสรรพสินค้า ที่คนร้ายจะสรรหาวิธีมาใช้กับเหยื่ออยู่ตลอดเวลา บ้างก็แอบเอายามาใส่ในอาหารขณะที่เป้าหมายเดินไปซื้อน้ำ บ้างก็เอายาใส่ไว้ในหลอด แล้วเอาหลอดไปวางไว้ที่เดิมตรงที่กดหลอด เมื่อคนมาหยิบหลอดไปใช้ก็จะได้อันที่มียาไป พอคนร้ายเห็นคุณเริ่มมีอาการจากฤทธิ์ยา ก็จะแกล้งเข้าไปช่วยพยุง จากนั้นจะพาไปปลดทรัพย์ หรือข่มขืน
หรือขณะที่คุณใช้รถเข็นช้อปปิ้ง เมื่อคุณเผลอปล่อยรถเข็นไว้ คนร้ายก็อาจนำยาบางอย่างมาป้ายตรงราวจับรถเข็นของคุณได้ เมื่อคุณจับที่ราวนั่น ก็จะทำให้เกิดอาการชา มึนงง เหมือนจะเป็นลม และจากนั้นพวกคนร้ายก็จะลงมือกับคุณได้
1. บ้าน, ที่พัก
สถานที่เกิดเหตุมีทุกแห่ง รวมถึง ‘บ้าน’ สถานที่ที่ (คุณคิดว่า) ปลอดภัยที่สุด อย่างเหตุการณ์สาวโรงงานถูกข่มขืนในห้องพักของตัวเอง สาเหตุเกิดจากคนร้ายเห็นว่าเหยื่อพักอยู่คนเดียวตามลำพังแล้วเปิดหน้าต่างทิ้งไว้ เลยสบโอกาสให้เป็นเส้นทางปีนหน้าต่างเพื่อเข้าไปก่อเหตุข่มขืน หรือกรณีสาวหอพักถูกเพื่อนข่มขืน โดยแกล้งมาเคาะห้องก่อน พอสาวเจ้าแง้มประตู ฝ่ายชายก็ดันประตูเข้ามาในทันที
วิธีป้องกัน ควรเลือกที่พักที่มีระบบความปลอดภัยดี ไม่ควรเลือกที่พักซึ่งเป็นแหล่งมั่วสุมของพวกขี้ยา หมั่นตรวจสอบกลอน ประตู หน้าต่างให้ดี ควรติดตั้งกลอนประตูแบบมีโซ่คล้อง เพื่อป้องกันไม่ให้คนร้ายบุกเข้ามาในห้องได้ ระหว่างเปิดประตูคุยกัน อย่าไว้ใจใครง่ายๆ แม้จะเป็นคนรู้จักก็ตาม ควรติดตาแมวเพื่อส่องดูก่อนว่าใครมาอยู่หน้าห้อง ควรหลีกเลี่ยงใช้ห้องที่มีหน้าต่างบานเกล็ด เพราะจะง่ายต่อการตัดเหล็กเข้ามาเปิดกุญแจได้ ถ้าเป็นบ้านพัก ควรเลี้ยงสุนัขไว้เพื่อ