บ้านหลังหนึ่ง เป็นครอบครัวเล็กๆที่หญิงชราคนหนึ่งอาศัยอยู่กับลูกชาย ที่แต่งงานมีภรรยาและลูกชายวัย 8 ขวบ
คุณยายอายุมากขึ้นทุกวัน และเมื่อแก่ขึ้นก็เริ่มไม่มีเรี่ยวแรง รวมทั้งเกิดอาการมือสั่นตลอดเวลา ทำให้ทุกครั้งที่กินข้าวคุณยายจะทำข้าวหกลงบนโต๊ะจนเลอะตลอดเวลา
อาการของคุณยาย ทำให้ลูกสะใภ้หงุดหงิดและรำคาญมากขึ้น เธอจึงบอกสามีว่า เธอทนไม่ได้ที่เห็นแม่ของสามีทานข้าวหกเลอะเทอะเกลื่อนโต๊ะ จนเธอกินข้าวไม่ลง
ลูกชายของคุณยายไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะเขาไม่สามารถหาวิธีทำให้มือของแม่หายสั่นได้
เมื่อไม่มีทางออก ลูกสะใภ้ของคุณยายจึงยื่นคำขาดกับสามีว่า ให้เขาจัดโต๊ะให้แม่นั่งแยกกินข้าวคนเดียว ใช้ถ้วยข้าวราคาถูกๆที่แตกและบิ่น เพราะเธอเห็นว่าคุณยายทำถ้วยแตกบ่อย ๆ
คุณยายเศร้า...แต่ก็ไม่ว่าอะไร ...เธอเห็นใจลูกชายมากกว่าจะตัดพ้อ
คุณยายเศร้า...แต่คนที่เศร้ากว่าคือหลานชายวัย 8 ขวบที่เห็นว่าในหน้าของคุณย่าเริ่มไม่มีรอยยิ้ม เขาจึงเข้าไปปลอบใจและบอกคุณย่าว่า เขารู้ดีว่าคุณย่าเสียใจมากแค่ไหนที่ถูกพ่อแม่ของเขาปฏิบัติต่อท่านเช่นนี้ และบอกว่า เขามีวิธีที่จะให้คุณย่าได้กลับไปทานข้าวร่วมกับทุกคนได้เหมือนเดิม
แม้จะไม่มั่นใจในหลายวัยแค่ 8 ขวบ แต่คำปลอบของเด็กๆก็ทำให้คุณยายมีความหวัง เธอจึงถามหลานชายว่าจะทำอย่างไร
"เย็นนี้ขอให้คุณย่าแกล้งทำชามข้าวของคุณย่าตกให้มันแตก..เหมือนกับไม่ได้ตั้งใจนะครับ"
คุณยายได้ยินคำแนะนำก็แปลกใจ แต่หลานชายตัวน้อยยังยืนกรานให้คุณย่าทำตามที่เขาบอก และบอกว่าที่เหลือปล่อยให้เป็นหน้าทีของเขาเอง
ถึงเวลาอาหารเย็น
คุณยายนั่งทานข้าวเงียบๆ แลไม่นานเธอตัดสินใจทำตามที่หลานชายแนะนำเพื่อดูว่าหลานชายมีแผนการอะไร โดยยกถ้วยข้าวใบเก่าที่เต็มไปด้วยรอยบิ่นขึ้น แล้วแกล้งปล่อยลงบนพื้นเหมือนกับทำหลุดมือ
ถ้วยข้าวเก่าใบนั้นหล่นแตกกระจายไม่มีชิ้นดี!!!!!
ลูกสะใภ้เห็นเหตุการณ์ ก็ลุกขึ้น เตรียมจะด่าว่าแม่สามีทันที แต่ก่อนที่เธอจะพูดอะไร หลานชายของคุณยายก็รีบพูดขึ้นมาก่อนว่า
"ว้า..คุณย่า ทำไมคุณย่าทำชามแตกซะเละหมดล่ะครับ นี่ผมตั้งใจไว้ว่าจะเก็บชามใบนี้ไว้ให้คุณแม่ผมใช้ต่อจากคุณย่า แล้วเนี่ยผมจะเอาชามเก่าที่ไหนมาให้คุณแม่ใช้ ตอนคุณแม่อายุเท่าคุณย่าล่ะครับ"
ลูกสะใภ้เมื่อได้ยินลูกชายพูดเช่นนี้ก็ถึงกับอึ้งงงงง....หน้าซีด !!!
เป็นครั้งแรกที่เธอคิดได้ และจินตนาการว่าทุกสิ่งที่เธอทำลงไปในวันนี้ เธอจะได้รับการปฏิบัติจากลูกชายในวันหน้าเมื่อเธอแก่ตัวลงไป เธอรู้สึกอับอายและสำนึกผิดต่อการกระทำของตัวเอง
ตั้งแต่วันนั้นทุกคนในบ้านก็นั่งทานข้าวร่วมกันเช่นเดิม
ซ้ำขออภัยค่ะ