สวัสดีครับ ปัจจุบันรถยนต์ที่มีขายในบ้านเราส่วนใหญ่จะเป็นเกียร์ออโต้ เนื่องด้วยขับขี่สะดวกในภาวะรถติด โดยเฉพาะในกรุงเทพ เรื่องการใช้เกียร์ออโต้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด และถนอมเกียร์ให้อยู่กับเรานานๆ มีเผยแพร่ให้เราได้อ่านกันมากอยู่พอสมควร
ผมเองก็ใช้รถเกียร์ออโต้มานาน แต่มีอยู่เรื่องหนึ่งที่ผมเพิ่งทราบเกี่ยวกับกระแสไฟที่ถูกปลดปล่อยออกมาจากแบตเตอรี่ขณะที่เราดับเครื่องยนต์และจอดอยู่เฉยๆ ระหว่างเกียร์ N กับเกียร์ D ว่ามันมีความต่างกัน
หลายคนกังวลกับการลืมเปิดไฟทิ้งไว้ ไม่ว่าจะเป็นห้องโดยสาร หรือไฟหรี่ ไฟหน้า แต่ที่จริง แม้ว่าเราจะปิดระบบไฟฟ้าทุกอย่างของรถแล้วก็ตาม แต่กระแสไฟจากแบตเตอรี่ก็ยังถูกปลดปล่อยออกมาอยู่ตลอดเวลา หลายคนคงเริ่มสงสัยว่า มันมาจากสาเหตุใดอีก เกียร์ครับ ตำแหน่งเกียร์มีความสัมพันธ์กับการปล่อยกระแสไฟ
การจอดรถยนต์ ตำแหน่งเกียร์ N สำหรับรถยนต์เกียร์ออโต้รุ่นใหม่ๆ ในปัจจุบันนี้ มักพบปัญหาแบตเตอรี่ไฟหมดเร็ว อาการนี้มักเกิดกับผู้ใช้รถยนต์ที่ชอบจอดรถในตำแหน่งเกียร์ N เป็นประจำและสม่ำเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อจอดรถทิ้งไว้เป็นเวลาหลายๆ วัน กรณีที่เราไม่ค่อยได้ใช้ หรือเมื่อเราไปต่างจังหวัดนานๆ เนื่องจากตำแหน่งเกียร์ N นี้ ในรถหลายยี่ห้อ (โดยเฉพาะของยุโรป) แม้เราดึงกุญแจออกจากตัวรถแล้วก็ตาม แต่เรายังสามารถเปิดกระจกรถ หรือพับกระจกมองข้างได้อยู่ แม้กระทั่งเปิดระบบไฟฉุกเฉิน หรือบางยี่ห้อ กรณีที่เราลืมปิดกระจกรถ เมื่อเราทำการล็อครถ กระจกจะเลื่อนขึ้นปิดให้โดยอัตโนมัติ นั่นเป็นเพราะระบบควบคุมการจ่ายไฟ ยังคงสั่งให้แบตเตอรี่ปล่อยกระแสไฟเพื่อพร้อมรับกับสถานการณ์ต่างๆ
ก็คงไม่ต้องกังวลมากไป เพราะกระแสที่ปล่อยออกมาไม่ได้มากอะไร และถ้าหากว่าไฟแบตเตอรี่หมดลงจริงๆ เรายังสามารถนำมารีชาร์จจากร้านบริการได้ใหม่ได้ในราคาประมาณ 100-150 บาทเท่านั้นครับ
ฝากอีกเรื่องสำหรับเพื่อนๆ ที่จอดรถติดสัญญาณไฟจราจร ตำแหน่งเกียร์ที่เหมาะสมสำหรับเกียร์ออโต้คือตำแหน่ง N ส่วนตำแหน่ง P มีข้อดีคือรถไม่สามารถเคลื่อนตัวได้ ทำให้เราไม่ต้องเหยียบเบรคค้างไว้นานๆ แต่ข้อเสียคือ หากมีรถคันหลังพุ่งชนเราโดยอุบัติเหตุขณะที่เราจอดรถในตำแหน่งเกียร์ P ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถอาจไม่ใช่เพียงแค่โครงสร้างที่เราเห็นเท่านั้น แต่ชุดเกียร์เราอาจเสียหายทั้งหมด ซึ่งกรณีที่มีการมาประเมินความเสียหายกับคู่กรณี ณ เวลานั้น เราอาจไม่รู้ถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นแล้ว ซึ่งชุดเกียร์ปัจจุบันมีราคาหลายหมื่นถึงหลักแสนบาทเลยนะครับ
ที่จริงผมไม่ถนัดเรื่องราวของระบบเครื่องยนต์สักเท่าไหร่ ไปเห็นคลิปที่มีประโยชน์ก็เลยหยิบมาเขียนจากประสบการณ์ที่ผ่านมาให้เพื่อนๆ ได้อ่านกัน แล้วพบกันใหม่ครับ...mata
เขียนโดย พรชัย สังเวียนวงศ์ (mata)