เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการเรื่องเล่าเช้านี้ โพสต์โดย คุณเรื่องเล่าเช้านี้ บีอีซี-เทโร สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม
คืบหน้าข่าวสารเคมีรั่วท่าเรือแหลมฉบัง ล่าสุด ลากเรือทิ้งสมอกลางทะเลแล้ว ไกลจากฝั่ง 10 กิโลเมตร กันลมพัดเอาสารเคมีมายังบ้านเรือนประชาชน หลังประชาชนและเด็กนักเรียนสูดดมจนอาเจียนและเข้าโรงพยาบาลหลายราย
วันนี้ (18 กรกฎาคม 2557) รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 นำเสนอข่าวความคืบหน้าเหตุการณ์สารเคมีรั่วไหลจากตู้คอนเทนเนอร์ บริเวณท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี เป็นเหตุให้ลมพัดเอาสารเคมีดังกล่าวเข้ามาในพื้นที่ในระยะ 3 กิโลเมตร จากจุดเกิดเหตุ ส่งผลให้นักเรียนและประชาชนบริเวณใกล้เคียง มีอาการอาเจียนหลายราย
ส่วนสาเหตุของสารเคมีที่รั่วไหลนั้น เกิดจากอุบัติเหตุจากการขนยกสินค้าที่อยู่ในเรือดังกล่าว ซึ่งจริง ๆ แล้วต้องการจะยกตู้อื่นแต่เครนกระแทกไปโดนตู้นี้ ทำให้สารเคมีรั่วไหลออกมา ซึ่งจากการตรวจสอบสารเคมีดังกล่าวเป็นสารบิวทิล อะครีเลท เป็นสารตัวกลางในปฏิกิริยาเคมี หากสัมผัสด้วยการสูดดมเข้าไปก็จะก่อให้เกิดการระคายเคืองทางเดินหายใจและเนื้อเยื่ออย่างรุนแรง ส่งผลให้ปวดศีรษะ ไอ คลื่นไส้ อาเจียน และหายใจติดขัด หากสัมผัสทางผิวหนัง ก็จะทำให้ผิวหนังบริเวณนั้นเกิดการระคายเคือง ทำให้ผิวหนังแสบไหม้ เกิดผื่นแดง และปวดแสบปวดร้อน โดยขณะนี้ในพื้นที่บางจุดยังคงได้กลิ่นสารเคมีแนะประชาชนโดยรอบใช้หน้ากากปิดจมูก
อย่างไรก็ดี ไม่ได้มีการแจ้งให้ประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงอพยพเบื้องต้น เนื่องจากสารเคมีจะกระจายเพียง 300 เมตรเท่านั้น แต่ลืมคำนึงเรื่องทิศทางลม ซึ่งกระแสลมได้พัดพาสารเคมีดังกล่าวไกลถึง 3 กิโลเมตรเลยทีเดียว โดยนักเรียนโรงเรียนเทศบาลแหลมฉบังและโรงเรียนวัดบ้านนา ได้สูดดมสารเคมีเข้าไป ทำให้ต้องเข้าโรงพยาบาลกันชุลมุน กว่า 80 คนแล้ว
สำหรับแนวทางการแก้ไข นายพงษ์ศักดิ์ ปรีชาวิทย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ระบุว่า เบื้องต้นได้สั่งปิดโรงเรียนแหลมฉบัง 2 แล้ว ป้องกันไม่ให้เด็กนักเรียนได้รับผลกระทบเพิ่ม พร้อมทั้งลงพื้นที่ท่าเรือแหลมฉบัง ติดตามการแก้ปัญหารอยรั่วของตู้คอนเทนเนอร์ แต่ไม่ได้ประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติ ซึ่งผู้ที่ได้รับผลกระทบสามารถแจ้งความลงบันทึกประจำวันเพื่อรับการเยียวยาต่อไป ส่วนเรือสินค้าดังกล่าว ได้แก้ปัญหาด้วยการทิ้งสมอในระยะทาง 10 กิโลเมตร เพื่อไม่ให้สารเคมีกระจายเข้าฝั่ง