CEOบริษัทสีเจบีพี ประกาศแต่งงานกับดาราเกาหลีชื่อดัง ชิน จู อา

 

 

 

 

 



 


กับดาราเกาหลีชื่อดัง  ชิน จู อา

 

 

กับการกลับมาอีกครั้งสำหรับสีแบรนด์เก่าแก่ในเมืองไทยที่ใคร ๆ เมื่อได้ยินวลีที่ว่า “ สีเจบีพี ใช้ดีจึงบอกเพื่อน” ก็ย่อมจะรู้จัก กับซีอีโอคนรุ่นใหม่ คุณศราวุฒิ รัชนกูล ด้วยวัยสามสิบต้นๆ และยิ่งกว่านั้น กับข่างที่สร้างกระแสความฮือฮาในช่วงหลายวันที่ผ่านมาที่ประเทศเกาหลี นั่นคือ การประกาศแต่งงานกับดาราเกาหลีชื่อดัง คุณ ชิน จู อา (Shin Joo Ah)

 

สำหรับข่าวครึกโครมอันดับหนึ่งที่เกาหลีเมื่อวันจันทร์ที่19 พฤษภาคม 2556 ที่ผ่านมา เนื่องจากทางวงการบันเทิงเกาหลี ที่ไม่มีใครระแคะระคายมาก่อนว่านางเอกสาวมีคนรักถึงต่างแดน และยิ่งเป็นกรณีที่ไม่เคยมีมาก่อนสำหรับวงการดาราแดนกิมจิ เมื่อว่าที่เจ้าบ่าวเป็นถึงทายาทธุรกิจสีแบรนด์เก่าแก่ของไทย ซึ่งเพิ่งจะขึ้นรับตำแหน่งซีอีโอ เต็มรูปแบบตั้งแต่ปลายปี 2555 ที่ผ่านมา  

 

 

ด้วยมีข่าวสำคัญอย่างนี้ เราจึงถือโอกาสขอสัมภาษณ์แบบเอ็กคลูซีฟ ทั้งว่าที่เจ้าสาวและเจ้าบ่าวแบบเจาะลึกกันเลยทีเดียวครับ



นักข่าว: คุณ ชิน จู อา ได้ข่าวว่าหลังประกาศกับสื่อมวลชนที่เกาหลีว่ากำลังจะแต่งงาน กลายเป็นเรื่องฮือฮาอย่างมาก รบกวนเล่ารายละเอียดให้ฟังหน่อยครับ


 คุณชิน จู อา:  เนื่องจากครั้งนี้เป็นครั้งแรกเลยค่ะที่ดาราเกาหลีแต่งงานกับชาวต่างชาติที่เป็นคนไทย เลยทำให้เป็นที่สนใจจากสื่อมวลชน โดยเฉพาะพอสื่อมวลชนพยายามค้นหารูปที่มีอยู่ ก็ปรากฎรูปถ่ายคู่ ซึ่งหน้าตาของคุณศราวุฒิก็เหมือนคนเกาหลี ยิ่งทำให้เกิดข้อสงสัยว่าไม่น่าจะเป็นคนไทย จนสื่อทางฝั่งโน้น พยายามตรวจสอบข้อมูลมาทางเมืองไทย ว่าผู้ชายคนนี้เป็นใครกันแน่ จนได้รู้ว่าเป็นซีอีโอของ บริษัท สี เจ.บี.พี. อินเตอร์เนชั่นแนล เพ็นท์ จำกัด บริษัทผู้ผลิตสีเก่าแก่รายหนึ่งในเมืองไทยค่ะ

 



นักข่าว: ฝั่งเมืองไทย มีข่าวอะไรบ้างไหมครับคุณศราวุฒิ


 คุณศราวุฒิ: ไม่มีข่าวอะไรเป็นพิเศษครับ ที่จะมีก็จะเป็นเพื่อนๆ และคนรู้จักที่ติดตามข่าวแวดวงดารานักร้องเกาหลี พอทราบข่าวก็มีโทรศัพท์หรือไลน์มาถามบ้างครับ

 


นักข่าว: รบกวนขอทราบความเป็นมา ว่าทั้งสองคนรู้จักกันได้ยังไงครับ


 คุณศราวุฒิ: เริ่มต้นจากทางผมมีเพื่อนเป็นคนเกาหลีอยู่บ้าง แล้วที่นี้เพื่อนคนหนึ่งก็โทรศัพท์มาจากทางเกาหลีว่าเพื่อนของเขา ซึ่งก็คือคุณ ชิน จู อา กำลังจะมาพักผ่อนวันหยุดที่เมืองไทย อยากให้เราไปช่วยเทคแคร์แทน ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก คิดว่าเป็นเพื่อนของเพื่อนก็เลยรับปากไป ก็มีพาไปทานข้าว และก็ไปรับส่งสนามบินตามปกติ ซึ่งตอนหลังก็ได้มีโอกาสที่จะติดต่อกันมากขึ้น ช่วงหลังผมก็มีเดินทางไปที่เกาหลี เขาก็มาช่วยเทคแคร์ ทำให้รู้จักกันมากขึ้น พัฒนาความสัมพันธ์จนแน่ใจว่าคนนี้คือคนที่ใช่น่ะครับ

 

นักข่าว: ภาษาและระยะทางเป็นอุปสรรคความรักของทั้งสองคนหรือไม่ อย่างไรครับ


 คุณศราวุฒิ: ภาษาถือเป็นอุปสรรคอย่างมากในช่วงแรก เพราะเขาแทบจะไม่พูดภาษาอังกฤษเลย ช่วงแรกเลยต้องใช้ทั้งภาษาอังกฤษ ภาษามือ และภาษาเกาหลี ผ่านแอพแปลภาษาในมือถือน่ะครับ ซึ่งมีอยู่ครั้งหนึ่งผมต้องไปพบคุณพ่อคุณแม่ของเขาที่เกาหลี ก็ต้องพึ่งเพื่อนชาวเกาหลีมาเป็นล่ามจำเป็นครับ ส่วนเรื่องระยะทางไม่ค่อยเป็นอุปสรรค เพราะเราสองคนส่วนใหญ่เวลาจะหมดไปกับการทำงาน เพราะต่างคนก็ต่างมีภารกิจค่อนข้างมากอยู่แล้ว     นอกจากนี้ยังมีเรื่องวัฒนธรรมที่ค่อนข้างแตกต่างกันมาก ซึ่งช่วงแรกก็ถือเป็นอุปสรรคพอสมควรจนทำให้รู้สึกท้อ แต่สุดท้ายเราสองคนก็ก้าวผ่านมาได้ครับ




นักข่าว: คุณชิน จู อา มีความประทับใจฝ่ายชายอย่างไรบ้าง


 คุณชิน จู อา: ครั้งแรกที่เจอกัน ก็รู้สึกประทับใจการเทคแคร์ของเขาค่ะ เขาเป็นคนยิ้มง่าย ฉลาด และแสดงออกทางสีหน้าตรงไปตรงมา ซึ่งทำให้ดูมีเสน่ห์ค่ะ แต่หลังจากนั้นก็จะเป็นเรื่องนิสัยใจคอ ที่เข้ากันได้ และความเสมอค้นเสมอปลายของเขาน่ะค่ะ

 




นักข่าว: ฝ่ายคุณศราวุฒิบ้างครับ ประทับใจฝ่ายหญิงอย่างไร


 คุณศราวุฒิ: ครั้งแรกที่เจอกัน ก็ยังเฉยๆ ยิ่งตอนหลังมาทราบว่าเขาเป็นดาราเกาหลี ก็ยิ่งไม่ได้คิดอะไรครับ เพราะรู้สึกว่าสังคมของเราคงแตกต่างกันอย่างมาก  จนตอนที่ได้เดินทางไปเกาหลีแล้วเขาเทคแคร์เรา ทำให้เราได้รู้จักเขาในแง่มุมอื่นมากขึ้น ทำให้รู้ว่างานในวงการแสดงของเขากับชีวิตจริงแตกต่างกันมาก นั้นทำให้รู้สึกประทับใจเขาครับ

 



นักข่าว: มีการวางแผนชีวิตคู่หลังจากแต่งงานกันแล้วอย่างไรครับ


 คุณชิน จู อา: หลังแต่งงานก็จะย้ายมาอยู่เมืองไทยถาวรค่ะ เพราะเพิ่งหมดสัญญากับทางค่ายที่เกาหลี และคงต้องเริ่มต้นจากการเรียนภาษาไทยอย่างจริงจัง และปรับตัวให้เข้ากับวิถีชีวิตแบบคนไทยมากขึ้น ส่วนเรื่องอื่น ก็ค่อย ๆ ดูกันต่อไป  อาจจะทำธุรกิจในเมืองไทยที่เกี่ยวข้องกับเกาหลี หรืออาจจะรับงานแสดงในเมืองไทย เพราะตอนนี้ก็เริ่มมีเอเจนซี่ติดต่อมาบ้างค่ะ แต่ทั้งนี้คงต้องรอให้สามารถใช้ภาษาไทยได้คล่องกว่านี้ก่อนค่ะ

 

นักข่าว: หลังจากแต่งงานกันแล้ว คุณชิน จู อา จะมีส่วนร่วมของธุรกิจสี เจ บี พี บ้างหรือไม่ครับ เพราะทราบมาว่าทางบริษัทฯ กำลังก้าวเข้าสู่การเป็น แบรนด์ระดับเอเชีย


 คุณ ชิน จู อา: ตอนนี้ยังไม่ได้ตัดสินใจค่ะ แต่หากว่าจะมีส่วนร่วม คงเป็นเรื่องของการเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ และดูเรื่องการส่งออกสีไปจำหน่ายที่ประเทศเกาหลี เป็นหลักค่ะ

 



นักข่าว: คุณศราวุฒิ ในฐานะที่เป็นคนไทย คุณมองว่าประเทศเกาหลีและคนเกาหลี เป็นอย่างไร มีความแตกต่างจากคนไทยอย่างไรบ้าง


 คุณศราวุฒิ: ส่วนตัวผมคิดว่า คนเกาหลีเป็นคนที่มีความมุ่งมั่น ที่จะทำให้ประเทศของเขาพัฒนาแบบก้าวกระโดด จากเมื่อ 20-30ปีก่อนเทียบกับเมืองไทยไม่ได้เลย เพราะประเทศของเรามีทั้งทรัพยากรที่สมบูรณ์ ส่วนประเทศของเขา เป็นเกาะ ที่แทบไม่ได้มีทรัพยากรสำคัญอะไรเลย อุณหภูมิก็ร้อนจัด ถึงหนาวจัด ที่ร้อนก็สูงถึง 40องศา ที่หนาวก็ติดลบ 10-20องศาทีเดียว ความเป็นอยู่ก็ไม่สบายเท่าบ้านเรา มีปัญหาขาดแคลนพื้นที่อยู่อาศัย และพื้นที่ทำการเกษตรกรรม แต่ปัจจุบันนี้เขาแทบจะเจริญเทียบเท่าประเทศญี่ปุ่นแล้ว นี่ก็เพราะทั้งคนของเขาและภาครัฐมีการวางเป้าร่วมกันทำให้เขาสามารถมาถึงจุดนี้ได้ในวันนี้ แต่ในเมืองไทย เรามีปัญหาการไม่ได้วางเป้าหมายทั้งในระดับบุคคลและในระดับประเทศที่ชัดเจน ทำให้ผ่านไปหลายปี เราจึงพัฒนาไปได้ช้า ยิ่งตอนนี้ใกล้จะเปิดการค้าเสรีอาเซียน เราต้องยิ่งเปลี่ยนวิธีการคิดโดยการตั้งเป้าหมายต่าง ๆ ให้ชัดเจนมากขึ้น



 

นักข่าว: คุณชิน จู อา ในฐานะที่เป็นชาวเกาหลี คุณมองประเทศไทยและคนไทย แตกต่างกับประเทศเกาหลีและคนเกาหลีเป็นยังไงบ้างครับ


 คุณ ชิน จู อา: ถ้าในระดับบุคคล ที่แตกต่างกัน ก็จะเป็นเรื่องอุปนิสัยค่ะ คนเกาหลีจะให้ความสำคัญเรื่องเวลาอย่างมาก เขาจะตรงต่อเวลา เร่งรีบในการทำงาน กำหนดระยะเวลาในการวางเป้าหมายชัดเจน ว่าจะต้องไปให้ถึงจุดนั้นจุดนี้ภายในเวลากี่เดือนกี่ปี เป็นต้น  ส่วนในระดับประเทศ รัฐบาลจะให้การสนับสนุนและผลักดันโครงการอย่างมาก โดยมีการวางหัวข้อที่ชัดเจน เช่น เรื่องการท่องเที่ยว  เทคโนโลยี เกษตรกรรม  เป็นต้น ซึ่งเชื่อว่าถ้าหากเมืองไทยเรานำสิ่งเหล่านี้มาประยุกต์ใช้กับวัฒนธรรมไทยที่ดี เช่น การที่คนไทยมีบุคลิกยิ้มแย้มแจ่มใส จิตใจดี โอบอ้อมอารี และมีเสรีภาพ ประกอบกับองค์ประกอบที่เมืองไทยได้เปรียบ ทั้งเรื่องแหล่งท่องเที่ยว อาหาร สภาพอากาศ เชื่อว่าเมืองไทยจะสามารถก้าวขึ้นเป็นผู้นำในหลายๆ เรื่องได้ไม่ยากค่ะ

 

 

จากการสัมภาษณ์เพียงเบื้องต้นจากทั้งสองคน เชื่อว่าหลายต่อหลายท่านคงได้เห็นมุมมองที่กว้างไกล ทั้งจากซีอีโอคลื่นลูกใหม่ ของบริษัทสี แบรนด์ เจบีพี ซึ่งในอนาคตอันใกล้ เราคงได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของบริษัทฯนี้ที่จะมีบทบาทในอุตสาหกรรมสีในบ้านเรามากยิ่งขึ้น ในฐานะ สีเจบีพี สีระดับเอเซีย และเป็นไปได้ที่เราอาจจะมีดาราเกาหลีแสนสวยมาประดับวงการบ้านเราเพิ่มอีกหนึ่งคน นั่นคือ คุณ ชิน จู อา นั่นเอง

 

 

ติดตามบทสัมภาษณ์สื่อเกาหลี จากลิงก์

http://m.tvcast.naver.com/v/156698

 



 ประวัติคุณศราวุฒิ รัชนกูล

วันเกิด 13 พ.ค. 1982

การศึกษา

อนุบาล – มัธยมปลาย เซนต์จอห์น

ระดับปริญญาตรี คณะบริหารธุรกิจ สาขาการตลาด มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

ระดับปริญญาโท สาขาการตลาด มหาวิทยาลัย Monash ประเทศออสเตรเลีย

ประวัติการทำงาน บริษัท เจ.บี.พี. อินเตอร์เนชั่นแนล เพ็นท์ จำกัด

ปี 2007 ดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด

ปี 2010 ดำรงตำแหน่ง รักษาการแทนกรรมการผู้จัดการ / ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด

ปี 2012 ดำรงตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการ






 ประวัติ คุณชิน จู อา /Shin Joo Ah (Shin Ju Ah) / 신주아

วันเกิด:20มีนาคม1984

 

อาชีพ: นักแสดง
สถานที่เกิด: เกาหลีใต้
ผลงานบางส่วน

 

ภาพยนตร์

2014   Girls, Girls, Girls Yeon-jae 

2006    Bewitching Attraction 

2005     Wet Dreams 2

ละคร

2013  Princess Aurora Park Joo Ri Supporting Role

2012   Welcome Rain to My Life  

2009   Hero

2007   Bad Couple  

 

2006   How Much Love?


Credit: http://hilight.kapook.com/view/103366
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...