ฮิตเลอร์ รับเสด็จ รัชกาลที่ ๗

ฮิตเลอร์ รับเสด็จ รัชกาลที่ ๗

เป็นภาพประวัติศาสตร์ที่อาจไม่ค่อยมีใครรู้

- นี่คือการเสด็จเยือนเยอรมัน ของ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว
ล้นเกล้า ฯ ร.๗ ดังเป็นที่ทราบกันอยู่แล้ว เพราะภาพก็ปรากฎชัดเจน
แต่พอจะอ้างอิงได้ นอกเหนือจากภาพ นั่นคือ

...จดหมายเหตุเสด็จพระราชดำเนินประพาสยุโรป พ.ศ.๒๔๗๖ - ๒๔๗๗
ของพระบาท สมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว .

- การเสด็จพระราชดำเนินประพาสประเทศเยอรมนี มีรายละเอียดปรากฏอยู่
ใน หนังสือเล่มดังกล่าว ในตอนที่ ๑๒ (ในประเทศเยอรมนี) พอสรุปได้ว่า

... ได้เสด็จไปถึงประเทศเยอรมนีโดยทางเรือจากประเทศเดนมาร์ก ถึงท่า
เรือ เมืองแฮมเบิคในวันที่ ๒ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๔๗๗ ...

... และในวันที่ ๕ กรกฎาคม ๒๔๗๗ ได้เสด็จพระราชดำเนินไปเยี่ยม
ประธานาธิบดี ฟอน หิน เดนบูร์ค (Paul von Hindenburg ๑๘๔๗ - ๑๙๓๔
ประธานาธิบดีเยอรมนี ระหว่าง ๑๙๒๕ - ๑๙๓๔) ผู้ชรามีอายุถึง ๘๗ ปี
เพราะแพทย์ไม่ยอมให้มา เฝ้าที่กรุงเบอร์ลิน พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้า
อยู่หัวและสมเด็จพระนาง เจ้ารำไพพรรณีฯ จึงเสด็จไปเยี่ยมประธานาธิบดี ณ
คฤหาสน์ที่เมืองเนยเดก ...

... และในวันที่ ๖ กรกฎาคม ๒๔๗๗ เสด็จพระราชดำเนินไปทรงสนทนากับ
ฮิต เลอร์ ผู้นำเยอรมัน (Adolf Hitler ๑๘๘๙-๑๙๔๕ นายกรัฐมนตรีหรือ
Chancellor ต่อมาเมื่อประธานาธิบดีถึงแก่อสัญกรรม ในเดือนสิงหาคม
๑๙๓๔ (๒๔๗๗) จึงรวมตำแหน่งประธานาธิบดีและนายกรัฐมนตรีเป็น (Der
Fuhrer) ณ ศาลาว่าการนายกรัฐมนตรี

จากนั้นเสด็จพระราชดำเนินไปเยี่ยมชมกิจการ และเทคโนโลยีที่ทันสมัย
อาทิ โรงไฟฟ้าของกรุงเบอร์ลิน โรงวิทยาศาสตร์และโรงผสมยาของบริษัท
เชอลิง ฆาห์ลโบม โรงงานกลั่นน้ำมันเบนซิน จากผงถ่านศิลาอ่อนที่เมือง
เลอร์นา หอสอนดาราศาสตร์หรือที่รู้จักกันว่าท้องฟ้าจำลอง ซึ่งเครื่องฉาย
ดาวใน เวลานั้น ทั้งโลกมีอยู่เพียง ๗ แห่ง เป็นต้น อันแสดงถึงความสนพระ
ราช หฤทัยในวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเป็นอย่างดี

พระบาทสมเด็จพระปกเกล้า เจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี
พระบรมราชินี ณ ศาลาไทยเมืองบาดฮอมบวร์ก

... ในวันที่ ๒๑ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๔๗๗ เสด็จไปถึงเมืองแฟรงก์เฟิร์ต
บนแม่น้ำเมน เมื่อเวลา ๑๖.๑๕ นาฬิกา ประทับที่โฮเต็ลแฟรงเฟอร์เตอ
ฮอฟ สถานที่เดียวกับที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ประทับ
เมื่อ พุทธศักราช ๒๔๕๐ (คศ.๑๙๐๗) ...

... และในวันรุ่งขึ้น (วันที่ ๒๒ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๔๗๗) เวลา ๑๑
นาฬิกาเศษ เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์ไปยังเมืองบาดฮอมบวร์ก
(ซึ่งในจดหมายเหตุ เรียกว่าเมืองฮอมเบิค) ระหว่างทางหยุดทอดพระเนตร
การแข่งขันรถยนต์ทางไกล ๒,๐๐๐ กิโลเมตร เพื่อทดสอบสมรรถนะของรถ
ยนต์ยี่ห้อต่าง ๆ ในประเทศเยอรมนีโดยแบ่งเป็น ๒ ประเภท คือ รถขนาด
ใหญ่และขนาดเล็ก ...

- รายละเอียดของการเสด็จพระราชดำเนินเยือนเมืองบาดฮอมบวร์ก หนังสือ
จดหมาย เหตุได้บันทึกรายละเอียดไว้อย่างละเอียด รวมถึงที่มาของแผ่นป้าย
โลหะ จารึกพระบรมนามาภิไธยของล้นเกล้าทั้ง ๒ พระองค์ความว่า

“เวลาเที่ยง เศษ เสด็จถึงศาลาเริง (Kur Haus) เมืองฮอมเบิค ท่านหาร์ต พ่อ
เมือง (Ober Burgomeister Hardt) กับนายหอฟเนอร์ (Herr Hofner) ผู้
จัดการศาลา เริง และเจ้าหน้าที่อื่น ๆ เชิญเสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตร
ศาลาไทยรูป พลับพลา ซึ่งพระบาทสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง ทรงพระกรุณา
โปรดเกล้าฯ ให้นายช่างสร้างขึ้นและปิดทองตบแต่งในกรุงเทพฯ และส่ง
ออกมาคุมขึ้นที่ นี่ประมาณ ๒๕ ปีมาแล้ว ยังคงงดงามดีมากดูเป็นสง่าแก่
สถานที่ มีพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง

และเพื่อเป็นที่ระลึกในการ เสด็จพระราชดำเนิน ครั้งนี้ ท่านปรินศ วุลฟคาง
คฤหบดีผู้ใหญ่ (Leader) ของเมืองฮอมเบิค ได้ทำป้ายโลหะแผ่นใหญ่จารึก
พระบรมนามาภิไธยของพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนาง
เจ้าฯ พระบรมราชินีตรึกติดไว้ที่กำแพงแก้วล้อมศาลา

จากที่นี้เสด็จไปเสวย น้ำแร่ที่บ่อจุฬาลงกรณ์ และเสด็จพระราชดำเนินไปใน
สวนอันงาม และทรงซื้อของที่ระลึก แล้วมาประทับเสวยพระกระยาหารกลาง
วันในศาลาเริง เจ้าหน้าที่ถวายสมุดรูปต่าง ๆ ซึ่งถวายไว้เมื่อครั้ง พระบาท
สมเด็จพระ พุทธเจ้าหลวงเสด็จมาประพาส พร้อมทั้งรูปศาลาไทยและอื่น ๆ
เป็นที่ ระลึก”๒๓

- อนึ่ง ความสนพระราชหฤทัยในการรักษาสุขภาพด้วยน้ำหรือ Spa ยัง
ปรากฏให้เห็นในการเสด็จพระราชดำเนินประพาสประเทศเชโกสโลวาเกีย

ใน ระหว่างวันที่ ๒๙ กรกฎาคม ถึง ๗ สิงหาคม ๒๔๗๗ ซึ่งในวันที่ ๓๑
กรกฎาคม ได้เสด็จพระราชดำเนินเยือนเมืองการ์ลสบาด (Karlsbad) ซึ่งเป็น
เมืองที่ มีน้ำแร่คุณภาพสูง มีห้องอาบน้ำแร่ แก้โรคต่าง ๆ ตามแต่แพทย์จะ
แนะนำโดย จดหมายเหตุเสด็จพระราชดำเนินประพาสยุโรปได้กล่าวถึง
คุณวิเศษของ "วารีบำบัด" ที่เมืองนี้ ความว่า

"น้ำแร่ที่นี่แก้โรคต่าง ๆ ได้ คือ โรคลำไส้ โรคเรื้อรังภายใน เนื่องจากรื้อไข้
หรือ อ่อนเพลียจากการตัดผ่าอย่างใหญ่ โรคที่เกี่ยวกับตับ ปอด ม้าม และ
ไต โรคเรื้อรังซึ่งเคยป่วยมาจากประเทศร้อน…และอื่น ๆ อีกเป็นอันมาก ฟัง
เขา อธิบายแล้วดูเหมือนว่าจะไม่มีโรคชะนิดไรในโลก ที่น้ำแร่ที่ตำบลนี้จะ
รักษา ไม่ได้" นอกจากนั้น พุ สะปรูเดล (Sprudel Spring) ซึ่งเป็นบ่อน้ำบ่อ
ใหญ่ ที่สุดของเมือง น้ำร้อนจากบ่อน้ำนี้ (๗๒ ดีกรีเซนติเกรด) ยังใช้ดื่มเพื่อ
ผล ทางสุขภาพอีกด้วย

-จดหมายเหตุฯ ยังบันทึกไว้อีกว่า เคอเธ (Goethe, Johann Wolfgang von
(๑๗๔๙ - ๑๘๓๒)) นักประพันธ์ผู้มีชื่อเสียงของเยอรมนีเป็นผู้หนึ่งที่มา
รักษาตัวที่เมือง นี้ ถึงสิบสามครั้งมีความเห็นว่า "เพราะเหตุที่ได้อาบน้ำและ
กินน้ำที่ นี่ ข้าพเจ้าจึงได้ความสุขกายอะโข"๒๔ การบันทึกเหล่านี้ในอีกนัย
หนึ่ง ย่อมเป็นการสะท้อนถึงพระราชนิยมและความสนพระราชหฤทัยของพระ
บาทสมเด็จพระ ปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่มีต่อการรักษาโรคภัยไข้เจ็บด้วยน้ำแร่
พระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
ณ ศาลาไทย เมืองบาดฮอมบวร์ก เมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๓

- ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ
พระบรมราชินีนาถได้ เสด็จ เยือนทวีปยุโรป ๕ ประเทศ คือ อังกฤษ
เยอรมนี โปรตุเกส สวิตเซอร์แลนด์ และเดนมาร์ก

ในระหว่างวันที่ ๑๕ กรกฎาคม ถึงวันที่ ๑๓ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๐๓

โดยเป็นการเสด็จพระราชดำเนินต่อเนื่อง จากการเสด็จพระราชดำเนินเยือน
สหรัฐอเมริกา ทั้งนี้ได้เสด็จพระราชดำเนินถึงประเทศเยอรมนี (เยอรมนี
ตะวันตก) เมื่อวันที่ ๒๖ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๐๓ โดยเสด็จฯ ทาง
รถไฟพิเศษ ซึ่งรัฐบาลเยอรมันจัดถวาย ในการนี้ ประธานาธิบดีลึบเค่
(Heinrich Lubke ๑๘๙๔ - ๑๙๗๒ ประธานาธิบดีเยอรมนี ๑๙๕๙ - ๑๙๖๙
หรือพ.ศ. ๒๕๐๒ - ๒๕๑๒) และนายกรัฐมนตรี อาเดเนาว์ (Konrad
Adenauer ๑๘๗๖ - ๑๙๗๖ นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ๑๙๔๙ - ๑๙๖๓ หรือ
พ.ศ. ๒๔๙๒ - ๒๕๐๖) มารับเสด็จที่สถานีรถไฟกรุงบอนน์ เมืองหลวงของ
เยอรมนี (ตะวันตก) ในขณะนั้น

ในการเสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรเทคโนโลยี และวิทยาการสมัยใหม่
ของประเทศเยอรมนีเช่นเดียวกับพระบาทสมเด็จพระปก เกล้าเจ้าอยู่หัว อาทิ
เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรโรงงานอุตสาหกรรมถลุง เหล็กของโรงงา
นบริษัทกรุปป์ในเมืองโบคุม โรงงานผลิตกล้องจุลทรรศน์และกล้องถ่ายรูป
ของบริษัทเอิร์นสต์ไลต์ซ เป็นต้น

 






27 เม.ย. 53 เวลา 01:11 8,218 11 286
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...